Authority & Harm
ตร.ทล.เพชรบูรณ์รวบแล้ว 'ไอ้เลิศ'หนีคดี ตามหมายจับเก่าคาสถานีรถไฟพิจิตร

กรุงเทพฯ-เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2568 เวลาประมาณ 14.05 น. นำโดย พ.ต.ท.วรบดินทร์ เลิศศุภสินสถิต สว.ส.ทล.5 กก.1 บก.ทล. นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงเพชรบูรณ์ ส.ทล.5 กก.1 บก.ทล.(เพชรบูรณ์) ร่วมกันจับกุมนายพันเลิศ กล่ำศรี อายุ 30 ปี บ้านเลขที่ 10 หมู่ที่ 1 ตำบลพันลาน อำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ ผู้ต้องหา ร่วมกันกันพยายามฆ่าผู้อื่น, ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์, มีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และยิงปืนโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้านฯ ตามหมายจับของศาลจังหวัดเลย ที่ 177/2564 ลงวันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ.2564 คาสถานีรถไฟพิจิตร ตำบลคลองคะเชนทร์ อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร
พ.ต.ท.วรบดินทร์ เลิศศุภสินสถิต เปิดเผยว่า ด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.5 กก.1 บก.ทล.(เพชรบูรณ์) ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาซึ่งให้กวดขันจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ต่างๆที่มีโทษทางอาญาและหมายจับค้างเก่าในเขตพื้นที่จังหวัดพิจิตร ซึ่งตามวันเวลาดังกล่าวตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับว่า นายพันเลิศ กล่ำศรี อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10 หมู่ 1 ตำบลพันลาน อำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดชัยนาท ที่ 124/2567 ลงวันที่ 6 กันยายน พ.ศ.2567 และ หมายจับของศาลจังหวัดเลย ที่ 177/2564 ลงวันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ.2564 กำลังจะเดินทางโดยรถไฟจากต้นทางสถานีรถไฟพิษณุโลก มุ่งหน้าปลายทางสถานีรถไฟพิจิตรโดยได้โดยสารขบวนรถไฟที่ 102
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้วางกำลังตรวจสอบที่สถานีรถไฟพิจิตร ซึ่งเป็นสถานีรถไฟปลายทาง จากนั้นเวลาประมาณ 14.05 น. รถไฟขบวนดังกล่าวเดินทางมาถึงยังสถานีรถไฟพิจิตร จึงได้รอตรวจสอบบุคคลตามหมายจับฯ ลงจากขบวนรถไฟดังกล่าวฯ ได้พบชายไทยลักษณะรูปพรรณคล้ายกับนายพันเลิศ กล่ำศรี นั่งโดยสารมาลงที่สถานีรถไฟพิจิตร เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานตำรวจขอทำการตรวจสอบ ผลปรากฏว่าบุคคลดังกล่าวเป็น นายพันเลิศ กล่ำศรี (ผู้ต้องหา) จริงจึงได้แสดงหมายจับและได้อ่านหมายจับดังกล่าวให้นายพันเลิศ ฯ ดูจนเป็นที่เข้าใจดีแล้ว
จึงได้ทำการจับกุมตัวนายพันเลิศฯ(ผู้ต้องหา) พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิให้ทราบฯ พร้อมกันนี้เจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมได้แจ้งให้เจ้าพนักงานฝ่ายปกครองอำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร และศูนย์ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหายประจำสำนักงานอัยการจังหวัดพิจิตรฯ ถึงการจับกุมตัวผู้ต้องหาตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 จากนั้นจึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมกับบันทึกการจับกุมนำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองชัยนาท ภูธรจังหวัดชัยนาท ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ศุภเดช คำพุฒ /สมชาย คำพุฒ ผู้สื่อข่าวภูมิภาคจังหวัดเพชรบูรณ์