Authority & Harm
ตำรวจจันทบุรีบุกทลายเครือข่ายบัญชีม้า จับกุมผู้ต้องหา2รายพร้อมของกลางอื้อ

จันทบุรี-วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.ผดุงศักดิ์ รักษาสุข ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี (ผบก.ภ.จว.จันทบุรี) ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.อรรฆพงษ์ สุนทรวิภาต รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี พร้อมชุดปฏิบัติการ กก.สส.ภ.จว.จันทบุรี นำโดย พ.ต.อ.พีรพล เสลารัตน์ ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี นำกำลังเข้าตรวจค้นบริษัทขนส่งเอกชนแห่งหนึ่ง ตำบลท่าช้าง อำเภอเมืองจันทบุรี หลังสืบทราบว่าร้านดังกล่าวมีการลักลอบจำหน่ายบัญชีม้า แต่เปิดร้านรับส่งพัสดุเพื่อบังหน้า เจ้าหน้าที่ได้เฝ้าติดตามพฤติกรรมของกลุ่มผู้ต้องสงสัยอย่างต่อเนื่อง ก่อนเข้าปิดล้อมตรวจค้นและสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือ นายชนินทร์ อายุ 23 ปี และ นายวศิน อายุ 35 ปี พร้อมของกลาง สมุดบัญชีธนาคาร 427 เล่ม, บัตรกดเงินสด 397 ใบ, ซิมโทรศัพท์ 259 อัน, และโทรศัพท์มือถือ 68 เครื่อง
พล.ต.ต.ผดุงศักดิ์ รักษาสุข เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาทั้งสองรายให้การสารภาพว่า ร่วมมือกันจัดหาบัญชีม้าเพื่อส่งจำหน่าย โดยได้ค่านายหน้าเล่มละ 500 บาท ซึ่งดำเนินการมานานกว่า 6 เดือนแล้ว โดยผู้ที่รับจ้างเปิดบัญชีม้าจะได้รับค่าตอบแทนบัญชีละ 2,500-3,000 บาท จากการสอบปากคำพบว่า หนึ่งในผู้ต้องหาเคยรับจ้างเปิดบัญชีม้ามาก่อน ก่อนจะพัฒนาตัวเองเป็นนายหน้าจัดหาบัญชีม้าส่งต่อตามออเดอร์ ขณะถูกจับกุมอยู่ระหว่างรวบรวมบัญชีม้า บัตรอิเล็กทรอนิกส์ และซิมโทรศัพท์จำนวนมาก เพื่อลำเลียงส่งไปยังพื้นที่ชายแดน เช่น อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว และอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก จากนั้นบัญชีเหล่านี้จะถูกส่งต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้านเพื่อใช้ในขบวนการอาชญากรรมทางการเงิน
เบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้งสองรายถูกแจ้งข้อกล่าวหาตาม พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 ในข้อหา "ร่วมกันจัดหา โฆษณา หรือไขข่าว เพื่อซื้อ-ขายบัญชีเงินฝาก, บัตรอิเล็กทรอนิกส์ และบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี" และ "ร่วมกันจัดหา โฆษณา หรือไขข่าว เพื่อซื้อ-ขายเลขหมายโทรศัพท์ที่ลงทะเบียนในนามบุคคลอื่น แต่ไม่สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมข้อมูลและหลักฐานเพื่อขยายผลไปยังผู้ที่อยู่เบื้องหลังเครือข่ายการจัดหาบัญชีม้าให้กลุ่มมิจฉาชีพ ซึ่งคาดว่าจะถูกนำไปใช้ในการพนันออนไลน์ การฉ้อโกงทางการเงิน การหลอกลวงลงทุน และธุรกรรมผิดกฎหมายอื่น ๆ จากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองจันทบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ตำรวจเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อการขายหรือให้เช่าบัญชีธนาคาร เพราะอาจถูกใช้เป็นเครื่องมือในอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งมีโทษทางกฎหมายร้ายแรง หากพบเบาะแสสามารถแจ้งข้อมูลให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินการตามกฎหมายได้ทันที.
กิตติพงศ์ คงคาลัย ผู้สื่อข่าว จ.จันทบุรี