Authority & Harm
พายุถล่มเมืองน้ำดำเกิดไฟฟ้าดับทั้งเมือง บ้านพัง100หลัง/กระชังปลาจมน้ำ5ราย
กาฬสินธุ์-เมืองน้ำดำโกลาหลพายุฤดูร้อนถล่มหลายจุดไฟฟ้าดับทั้งเมืองบ้านเรือนได้รับความเสียหายหลาย 100 หลังขณะที่ประมงอำเภอสหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ เร่งออกสำรวจกระชัง หลังพายุฤดูร้อนพัดถล่มกระชังปลาเสียหายอย่างหนัก เบื้องต้นมีเกษตรกรได้รับความเดือดร้อน 5 ราย เสียหายกว่า 1 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2568 ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดกาฬสินธุ์รายงานว่าในช่วงเย็นของวันนี้ได้เกิดเหตุวาตภัยพายุฤดูร้อนพัดถล่มในหลายพื้นที่ของจังหวัดกาฬสินธุ์ โดยในแต่ละจุดท้องฟ้าเป็นสีแดงก่อนเกิดลมพายุลมอย่างรุนแรงยาวนานกว่า 1 ชั่วโมง และเกิดฝนตกหนักโดยเฉพาะในเขตอำเภอ เมือง ทำให้ไฟฟ้าดับทั้งอำเภอ โดยเฉพาะในจุดที่จัดงานมหกรรมโปงลางแพรวาและงานกาชาดจังหวัดกาฬสินธุ์ บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดหลังใหม่
รายงานแจ้งว่าพายุฝนที่พัดลงมาได้ทำเอาเต็นท์ที่จัดงานรวมไปถึงร้านค้าพังเสียหายจนเกิดเหตุโกลาหลเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ ขณะที่มีรายงานถึงตำบลหลายแห่งเสาไฟฟ้าได้ถูกพายุพัดล้มระเนระนาดรวมไปถึงสังกะสีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายหลาย 100 หลังคาเรือนซึ่งในขณะนี้ด้านสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาฬสินธุ์กำลังประเมินความเสียหายขณะที่ไฟฟ้าจังหวัดกาฬสินธุ์กำลัง เร่งซ่อมแซมและแก้ไข เชื่อมต่อไฟฟ้าเพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับแสงสว่างแต่ถึงขนาดนี้ ไฟฟ้าก็ยังคงดับอยู่ในหลายจุด
กาฬสินธุ์เร่งสำรวจความเสียหายพายุฤดูร้อนถล่มกระชังปลา
วันที่ 3 มีนาคม 2568 นางกฤษณา เขามีทอง ประมงอำเภอสหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ ลงเรือเพื่อออกตรวจและสำรวจความเสียหายของกระชังเลี้ยงปลานิล หลังเมื่อคืนที่ผ่านมา ( 2 มี.ค. 68) เวลาประมาณ 22.00 น. เกิดพายุฤดูร้อนพัดถล่มในพื้นที่อ.สหัสขันธ์ และอ.หนองกุงศรี
นางกฤษณา เขามีทอง ประมงอำเภอสหัสขันธ์ กล่าวว่า พลพวงจากพายุฤดูร้อนเมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้กระชังปลาพังเสียหายเบื้องต้นมีเกษตรกรแจ้งเข้ามาแล้ว 5 ราย รายละ 1-2 หลุม มูลค่าความเสียหายประมาณ 1 ล้านบาท ในลักษณะความเสียหายมาจากแรงพายุได้พัดตัวกระชังพัง เหล็กหัก กระชังหลุด ทำให้ปลาล้นออกจากกระชังจำนวนมาก และจากการสำรวจยังพบกระชังที่ชำรุดอีกหลายกระชัง ได้แจ้งให้เกษตรกรเร่งเข้าปรับปรุงโดยด่วน และเตรียมพร้อมรับสถานการณ์พายุฤดูร้อนที่ปีนี้มาเร็ว รุนแรง และอาจจะเกิดบ่อยครั้งกว่าทุกปี
“ในการเตรียมรับมือพายุฤดูร้อน เบื้องต้นได้แจ้งให้เกษตรกร ได้ตรวจเช็คตัวประชังที่ต้องเพิ่มความแข็งแรงของกระชัง เชือกที่ต้องเพิ่มขนาดใหญ่ และทุ่นผูกกระชัง ที่จะต้องแน่นหนามั่นคง
อย่างไรก็ตาม ในห้วงเดือนมีนาคม - พฤษภาคม เป็นช่วงที่เกิดพายุฤดูร้อนเป็นประจำ เกษตรกรที่เลี้ยงปลาในกระชังต้องหมั่นตรวจสอบกระชังเพื่อป้องกันความเสียหาย รวมถึงการปล่อยพันธุ์ปลาช่วงนี้มีความเสี่ยงสูง จากสภาพอากาศร้อนจัดที่อาจจะทำให้ปลาน๊อคตายได้
สำหรับเกษตรกรที่ได้รับความเสียหายจากวาตภัยหรือพายุฤดูร้อนจะได้นำเรื่องแจ้งไปยังส่วนกลาง เพื่อรับความช่วยเหลือจากการชดเชยผู้ประสบภัยาต่อไป”
ประมงอำเภอสหัสขันธ์ กล่าวอีกว่า สำหรับพื้นที่เลี้ยงกระชังปลาในเขื่อนลำปาว มีทั้งหมด 455 ราย จำนวนกระชัง 11,775 กระชัง พื้นที่เลี้ยงกว่า 269,136 ตร.กม. ซึ่งเป็นไปตามสัดส่วนที่มีการควบคุม ในการทำการประมงในเขื่อนของกรมชลประทาน