Authority & Harm
ปธ.กมธ.ปปช.สภาฯย้ำอีกปัญหา7ชั่วโคตร ขู่อีกไม่ให้อิทธิพลอยู่เหนือกฎหมาย

กาฬสินธุ์-ดร.ฉลาด ขามช่วง ปธ.กมธ.ปปช.ฯ ย้ำ 7 ชั่วโคตรต้องจบแน่นอน ยันไม่ให้มีอิทธิพลอยู่หนือกฏหมาย หลังมีข่าวลือว่าอาจถูก 2 หจก.ขาใหญ่แจ้งหมิ่นประมาท ย้ำทำตามหน้าที่ไม่ทำก็โดน 157 และทำตามที่ประชาชนร้องเรียน สงสัยทำไมหน่วยงานรัฐทำท่าเข้าข้างเอกชนทั้งที่ความผิดส่อทุจริตชัดเจน ชี้เรื่องนี้เกิดที่ จ.กาฬสินธุ์ องค์กรที่มีหน้าที่ต้องเรียกเงินคืนทุกบาททุกสตางค์ หากตนไม่ทำให้เป็นตัวอย่างแบบนี้คนไทยอยู่กันยากแล้ว
ปัญหาการก่อสร้างโครงการท่อระบายน้ำในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ และโครงการเขื่อนป้องกันตลิ่ง จำนวน 8 โครงการ งบประมาณ 545 ล้านบาท ของ กรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย ว่าจ้าง หจก.เฮงนำกิจ และ หจก.ประชาพัฒน์ เป็นผู้รับจ้าง โดยเริ่มต้นทยอยทำสัญญาก่อสร้างในแต่ละโครงการตั้งแต่ปี 2562-2565 แต่ถึงปัจจุบันปี 2568 ทุกโครงการก่อสร้างไม่เสร็จแม้แต่โครงการเดียว จนทาง กมธ.ปปช. เข้าตรวจสอบเพื่อประชาชน จนล่าสุดช่วงปลายเดือน มกราคม 2568 กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ประกาศเวียนห้างให้ทั้ง 2 หจก.นี้เป็นผู้รับเหมาทิ้งงาน ทำให้ทั้ง 2 หจก.หมดสิทธิ์ เข้ารับงานกับภาครัฐในทุกกระทรวง ทบวง กรม ตกกลายเป็น มหากาพย์งานก่อสร้างฉาวโฉ่ข้ามปี ที่ถูกชาวกาฬสินธุ์ขึ้นป้ายประณามว่า โครงการก่อสร้าง 7 ชั่วโคตร ที่อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบของ ปปช.- สตง. และ คณะกรรมาธิการ ปปช.สภาผู้แทนราษฎร เพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2568 เวลา 14.30 น. ดร.ฉลาด ขามช่วง ปธ.กมธ.ปปช.ฯ ได้พาสื่อมวลชนลงพื้นที่ดูจุดก่อสร้างโครงการก่อสร้างท่อระบายน้ำในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ เป็นโครงการก่อสร้างที่ ชาวกาฬสินธุ์ประณามว่า โครงการ 7 ชั่วโคตร ยังคงสภาพงานก่อสร้างยังคงมีการเปิดหน้าถนนทิ้ง ท่อระบายน้ำ แทนหิน ท่อหินวางเป็นแนวยาวตลอดในทุกพื้นที่การก่อสร้าง กลิ่นเน่าเหม็นจากสภาพน้ำเน่าเสีย เหม็นคลุ้งไปทั่วบริเวณ ที่หลายจุดไม่มีป้ายการเตือนป้องกันอันตราย เศษขยะ เศษหินยังคงถูกปล่อยทิ้งเอาไว้อย่างไร้การเหลียวแล ชาวเมืองกาฬสินธุ์ หลายคนไม่กล้าที่จะออกมาพูดถึงปัญหาเนื่องจากหวั่นเกรงอิทธิพลบางอย่าง สภาพจิตใจของประชาชนเจ็บช้ำน้ำใจ โดยเฉพาะในจุด อาคารห้องเช้าร้านค้าถูกปิดตายเพราะผลกระทบจากการก่อสร้าง ที่ทำให้ประชาชนไม่มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ที่ต้องทนทุกข์กับปัญหาที่ไม่มีใครสนใจยืนมือเข้ามาช่วยเหลือบรรเทาทุกข์
ดร.ฉลาด ขามช่วง ปธ.กมธ.ปปช.ฯ กล่าวว่า การลงพื้นที่ ในวันนี้ กรณีนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่สังคมไทย คนไทยต้องหันมาดูปัญหาที่จังหวัดกาฬสินธุ์อย่างจริงจัง เพราะปัญหาการก่อสร้างส่อทุจริต ยังไม่มีใครยืนมือมาช่วยเหลือพี่น้องประชาชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น แต่กลับพบว่ามีการข่มขู่พระ ประชาชนผู้ร้องเรียน และมีความพยายามที่จะด้อยค่าการทำงานของฝ่ายตรวจสอบ และการทำหน้าที่ของ กมธ.ปปช.ฯทั้งที่ปัญหานี้เป็นความเดือดร้อนของประชาชนคนไทยในจังหวัดกาฬสินธุ์ ตนขอยืนยันว่า ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 10 สมัย และเป็นประธานคณะกรรมาธิการ ปปช.ฯ ได้เข้ามาตรวจสอบปัญหา“โครงการ 7 ชั่วโคตร” ร่วมกับ ส.ส.พื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ตามอำนาจหน้าที่เพื่อพี่น้องประชาชน และทราบว่าโครงการนี้ทั้งหมดก่อสร้างไม่เสร็จแม้แต่โครงการเดียว เป็นโครงการครอบคลุมพื้นที่ 3 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เมืองกาฬสินธุ์ อ.ฆ้องชัย และ อ.กมลาไสย มีงบประมาณการก่อสร้างกว่า 545 ล้านบาท เป็นงบประมาณ ของ กรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย และขณะนี้ กมธ.ปปช.ฯ กำลังตรวจสอบข้อมูลที่จะได้ข้อสรุปเพื่อส่งรายงานไปยัง ปปช. เพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่จบปัญหาด้วยความยุติธรรม
“เบื้องต้นการตรวจสอบทั้ง 8 โครงการ เป็นการประมูลทีละโครงการ โดย หจก.ประชาพัฒน์ ได้ 2 โครงการ 1.โครงการก่อสร้างระบบระบายน้ำหลัก เพื่อบรรเทาปัญหาน้ำท่วมเมือง ผู้รับจ้าง หจก.ประชาพัฒน์ เริ่มต้นสัญญา 19 เม.ย.62 สิ้นสุดสัญญา 21 พ.ย.65 งบ 148,200,000 บาท เบิกจ่าย 80,166,000 บาท 2.โครงการก่อสร้างเขื่อนตลิ่งริมลำน้ำปาว หน้าวัดใต้โพธิ์ค้ำ อ.เมืองกาฬสินธุ์ ความยาว 1,141 ม. ผู้รับจ้าง หจก.ประชาพัฒน์ เริ่มต้นสัญญา 12 ก.ย.62 สิ้นสุดสัญญา 30 ก.ย.64 งบ 95,423,000 บาท เบิกจ่าย 64,544,000 บาทรวมงบประมาณ 243,623,000 บาท อนุมัติ เบิกจ่ายรวม 144,710,000 บาท ส่วน หจก.เฮงนำกิจ ได้ 6 โครงการ ประกอบด้วย
1.โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งแก่งดอนกลาง เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ความยาว 853 เมตร ผู้รับจ้าง หจก.เฮงนำกิจ เริ่มต้นสัญญา 28 ก.ย.65 สิ้นสุดสัญญา 8 ก.ค.67 งบ 39,540,000 บาท เบิกจ่าย 11,099,000 บาท 2.โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำปาว บริเวณซอยน้ำทิพย์เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ความยาว 937 ม. ผู้รับจ้าง หจก.เฮงนำกิจ เบิกจ่าย เริ่มต้นสัญญา 10 ก.ย.64 สิ้นสุดสัญญา 20 ส.ค.66 งบ 59,350,000 บาท เบิกจ่าย 10,336,000 บาท 3.โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำชี (ระยะที่ 2) วัดลำชีศรีวนาราม ต.ลำชี อ.ฆ้องชัย ความยาว 385 ม.ผู้รับจ้าง หจก.เฮงนำกิจ เริ่มต้นสัญญา 10 ก.ย.63 สิ้นสุดสัญญา 10 ส.ค.65 งบ 59,270,000 บาท เบิกจ่าย 33,090,500 บาท 4.โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำชี วัดใหม่สามัคคี ต.เจ้าท่า อ.กมลาไสย ความยาว 423 ม. ผู้รับจ้าง หจก.เฮงนำกิจ เริ่มต้นสัญญา 10 ก.ย.63 สิ้นสุดสัญญา 10 ส.ค.65 งบ 59,306,000 บาท เบิกจ่าย 19,775,900 บาท
5.โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมลำน้ำพาน หลังเทศบาลตำบลลำพาน บ้านวังยูง อ.เมืองกาฬสินธุ์ ความยาว 562 ม. ผู้รับจ้าง หจก.เฮงนำกิจ เริ่มต้นสัญญา 23 ก.ย.64 สิ้นสุดสัญญา 4 ก.ค.66 งบ (ตามเอกสารปะหน้า) 44,490,000 บาท (เอกสารต่อมา 59,306,000 บาท) เบิกจ่าย 13,737,000 บาท
6.โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำชีบ้านหนองหวาย-หนองคล้า ต.ลำชี อ.ฆ้องชัย ความยาว 300 ม. ผู้รับจ้าง หจก.เฮงนำกิจ เริ่มต้นสัญญา 28 ก.ย. 65 สิ้นสุดสัญญา 8 ก.ค. 67 งบ 39,525,000 บาท เบิกจ่าย 20,169,000 บาท รวมงบประมารทั้ง 6 โครงการ เป็นจำนวนเงิน 301,481,000 บาท อนุมัติเบิกจ่ายไปแล้ว 108,207,400 บาท รวมงบประมาณทั้ง 2 หจก.ที่กรมโยธาธิการและผังเมือง จ้างให้ก่อสร้างเป็นเงิน 545,104,000 บาท และได้เบิกจ่ายไปแล้วจำนวน 252,917,400 บาท“
ดร.ฉลาด ขามช่วง ปธ.กมธ.ปปช. กล่าวต่อว่า การตรวจสอบในทุกโครงการเห็นได้ว่า การที่มีการเบิกจ่ายเงินงบประมาณไปแล้วมากถึง 252,917,400 บาท ทั้งที่โครงการไม่เสร็จแม้แต่โครงการเดียว ยังไม่มีคำตอบที่ชัดแจ้งจากผู้บริหารสัญญา การร้องเรียนก็เกิดจากความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนและกลุ่มองค์กรเครือข่าย ปปท. รวมถึง ธรรมาภิบาลจังหวัดกาฬสินธุ์ พ่อค้า ประชาชน ร้องเรียนมายัง กมธ.ปปช.รับเรื่องตั้งแต่ กลางปี 2567 เพราะต้องการให้ กมธ.ปปช.ฯ ติดตามให้ผู้มีอำนาจหน้าที่ได้เข้ามาปกป้องสิทธิของประชาชนต่อสวัสดิภาพในการดำเนินชีวิต ที่ต้องทนอยู่กับปัญหาการก่อสร้างจากภยันตรายต่างๆ เพราะที่ผ่านมาผู้บริหารจังหวัดก็ไม่ได้ทำหน้าที่ตรวจสอบแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่ และยังอ้างว่าไม่เกี่ยวข้องเพราะไม่ใช่งบประมาณจังหวัดเป็นงบประมาณส่วนกลางของกรมโยธาธิการและผังเมือง ทำให้ประชาชนรู้สึกขาดที่พึ่งพา ต้องการให้ผู้มีอำนาจหน้าที่ที่สูงกว่า เข้ามาจัดการกับปัญหา และตนในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 10 สมัย เป็น ส.ส.ของประชาชนคนไทย และมีตำแหน่งเป็น ประธานกรรมาธิการ ปปช.ฯ เมื่อได้รับการร้องเรียน ก็มีหน้าที่ในการตรวจสอบเพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ที่ผ่านมาก็ได้ส่ง ที่ปรึกษาฯ และเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่และมาดูปัญหาหลายครั้ง จนพบว่าการทิ้งงานได้สร้างผลกระทบให้ประชาชนจังหวัดกาฬสินธุ์อย่างแสนสาหัส ในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ พบถนนถูกทิ้งเป็นหลุมเป็นบ่อ แฝงไปด้วยอุบัติเหตุ โรคภัยไข้เจ็บที่มากับน้ำขังในจุดก่อสร้างสารพัด ทั้งกลิ่นเน่าเหม็น นอกจากนี้ก็ยังพบการก่อสร้างบริเวณเขื่อนป้องกันตลิ่งทุกจุด มีการทิ้งเสาเข็ม กองหิน เศษขยะอีกจำนวนมาก
“การตรวจสอบจึงต้องเอาเงินภาษีของพี่น้องประชาชนคืนทั้งหมด เพราะนี่คือการกระทำที่ส่อทุจริต ปัญหาการทิ้งงานก็ต้องมีคนรับผิดชอบต้องชดใช้เงินคืน และต้องดำเนินคดีกับเครือข่ายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพราะตนคือผู้แทนของประชาชนคนไทย ตรงนี้ขอยืนยันว่าจะเรียกร้องในฐานะผู้แทนของประชาชนคนไทย และ ปธ.กมธ.ปปช. ที่ได้ทำตามกรอบอำนาจหน้าที่ ในเมื่อมีคนร้องเข้ามาก็ต้องตรวจสอบ และการตรวจสอบต่อไปนี้จะทำต่อไปให้ถึงที่สุด เพราะนี่เฉพาะปัญหาที่จังหวัดกาฬสินธุ์จังหวัดเดียวยังเจอแบบนี้ แต่ผู้มีอำนาจไม่มีใครสนใจจะแก้ปัญหา แล้วคนไทยจะอยู่อย่างไร คนไทยต้องอยู่ได้ คนไทยต้องได้รับความเป็นธรรม และต้องอยู่ด้วยความถูกต้อง ไม่ให้อำนาจมืดมาปิดแผ่นฟ้าด้วยฝ่ามือ“
ดร.ฉลาด ขามช่วง ปธ.กมธ.ปปช.ฯ กล่าวต่อว่า การตรวจสอบจะเดินหน้าใน กมธ.ปปช. ขณะนี้อยู่ในมือของ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ ปธ.อนุกมธ.ปปช. นายสุทัศน์ เงินหมื่น อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็น ปธ.ที่ปรึกษา กมธ.ปปช.และ นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส อดีตผู้ตรวจเงินแผ่นดิน เป็นที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิประจำ กมธ.ปปช.ฯ นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ และ นายธีรัจชัย พันธุมาศ รอง ปธ.กมธ.ปปช.ฯ พร้อมด้วยที่ปรึกษาฯผู้เชี่ยวชาญ ที่กำลังรอเอกสารการก่อสร้าง จาก กรมโยธาธิการและผังเมือง เพื่อนำมาประกอบการรายงานส่งต่อไปยัง ปปช. ยืนยันจะลงดูพื้นที่ก่อสร้างที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ทุกโครงการ เดินหน้าตรวจในฐานะ ส.ส. และ ปธ.กมธ.ปปชฯ ของประชาชนคนไทย เพื่อขจัดปัญหาผู้มีอิทธิพลอย่างเต็มที่
อย่างไรก็ตามมีรายงานว่า เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2568 กลุ่มไลน์ของ PR Kalasin ที่มีสมาชิกด้านสื่อสารมวลชนถึง 129 คน เป็นไลน์กลุ่มที่ตั้งขึ้นมาโดยสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกาฬสินธุ์ ที่เอาไว้ใช้ส่งข้อมูลและการแจ้งไลน์ในการเชิญสื่อมวลชนเพื่อร่วมทำข่าวเป็นประจำในแต่ละวัน ได้มีการส่งข้อความว่า เรียนเชิญสื่อมวลชนร่วมรายงานข่าว กรณี หจก.เฮงนำกิจ และ หจก.ประชาพัฒน์ จะเข้าแจ้งความร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดีต่อ นายฉลาด ขามช่วง ประธานคณะกรรมาธิการ ปปช. ในความผิดฐานหมิ่นประมาท ที่ สถานีตำรวจภูธรกลาไสย ในวันที่ 7 มีนาคม 2568 เวลา 10.30 น. ได้สร้างฮือฮาและสร้างความตกใจให้กับกลุ่มนักข่าวอย่างมาก เนื่องจากกลุ่มไลน์นี้เป็นที่รู้กันว่าเป็นศูนย์รวมสื่อมวลชน ของสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกาฬสินธุ์ มีไว้เพื่อติดต่อนักข่าวเพื่อเชิญไปร่วมทำข่าวตามงานของส่วนราชการ แต่การที่ ส่วนราชการ ได้ใช้ช่องทางนี้เชิญนักข่าว เพื่อทำงานประสานงานให้เอกชนได้ถูกมองว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม โดยเฉพาะ 2 หจก.นี้กำลังถูก กมธ.ปปช.ฯ ตรวจสอบทุจริต ในโครงการ 7 ชั่วโคตร เพราะมีผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนจังหวัดกาฬสินธุ์โดยตรง เหตุดังกล่าวทำให้นักข่าวหลายสำนัก ได้ตั้งข้อสังเกตถึงพฤติกรรมของการลงไลน์ของสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกาฬสินธุ์ ว่าการกระทำดังกล่าวเหมาะสมหรือไม่ ตกเป็นเครื่องมือของใคร หรือ มีใครสั่งให้ทำ เนื่องจากการลงไลน์กลุ่ม ได้ทำให้ ปธ.กมธ.ปปช.ฯ ที่กำลังตรวจสอบโครงการดังกล่าวฯ ได้รับความเสียหายเสมือนเป็นการด้อยค่าการปฏิบัติหน้าที่โดยชอบ ทำให้นักข่าวสงสัยว่า ”งานนี้ใครเป็นคนสั่ง“ ที่จะมีการติดตามตรวจสอบต่อไป