Authority & Harm
ราชทัณฑ์แจงย้ำผกก.โจ้ไม่ได้ถูกทำร้าย จนเสียชีวิตภายในเรือนจำแต่อย่างใด

กรุงเทพฯ-จากกรณีการเสียชีวิตของ ผกก.โจ้ หรือ ข.ช.ธิติสรรค์ อุทธนผล ผู้ต้องขังคดีความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ความผิดต่อชีวิต ความผิดต่อเสรีภาพความผิดต่อพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตฯ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง พิพากษาให้จำคุกตลอดชีวิต โดยกรมราชทัณฑ์ ได้ดำเนินการชี้แจงแล้ว นั้น
กรมราชทัณฑ์ ขอเรียนเพิ่มเติมว่า การเสียชีวิตของ ผกก.โจ้ ดังกล่าว เรือนจำกลางคลองเปรมร่วมกับพนักงานสอบสวน พนักงานอัยการแพทย์เจ้าพนักงานปกครองเข้าดำเนินการชันสูตรพลิกศพตามกฎหมาย และส่งไปยังสถาบันนิติวิทยาศาสตร์และสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ตามขั้นตอนเรียบร้อยแล้ว กรมราชทัณฑ์จึงขอชี้แจงเพิ่มเติมดังนี้
๑. ประเด็นเกี่ยวกับการรักษาของข.ช.ธิติสรรค์ฯนอกจากมีโรคประจำตัวที่รักษาโดยการรับประทานยาแล้วพบว่าเคยปรึกษาแพทย์โรงพยาบาลราชทัณฑ์ในเรื่องปัญหาการนอนความวิตกกังวลเรื่องของคดีความและการดำเนินชีวิตในเรือนจำฯโดยมีการนัดหมายติดตามการรักษา
๒. ประเด็นปัญหาการกระทบกระทั่งกับเจ้าพนักงานเรือนจำ เมื่อวันที่ ๘ มกราคม ๒๕๖๘ ข.ช.ธิติสรรค์ฯได้นำกล้องถ่ายรูปของเรือนจำฯ ไปถ่ายภาพโดยไม่ได้รับอนุญาต เจ้าพนักงานเรือนจำจึงยึดคืนแต่ผู้ต้องขังไม่ส่งคืนมีการพูดจาโต้เถียงกันโดยไม่มีเหตุการณ์ทำร้ายร่างกาย เรือนจำฯ จึงได้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีผู้ต้องขังถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยข้อหาแสดงกิริยาและวาจาไม่เหมาะสมต่อเจ้าพนักงาน ซึ่งเป็นไปตามระเบียบของเรือนจำเรื่องอยู่ระหว่างดำเนินการสอบข้อเท็จจริง จึงต้องดำเนินการย้ายผู้ต้องขังจากแดน ๗ ไปยังแดน ๕ เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2568
๓. ประเด็นห้องคุมขังของ ข.ช.ธิติสรรค์ฯปกติเป็นห้องที่ให้ผู้ต้องขังอยู่ ๔ - ๕ คน แต่ให้อยู่เพียงคนเดียว ไม่ต้องแออัดกับผู้ต้องขังอื่น และเป็นห้องที่ใช้คุมขังช่วงเวลากลางคืนเท่านั้น ส่วนเวลากลางวันผู้ต้องขังสามารถออกไปทำกิจกรรมได้ตามปกติเช่นเดียวกับผู้ต้องขังอื่น โดยไม่มีการคุมขังอยู่ภายในห้องควบคุมแต่อย่างใด จึงมิใช่เป็นการบังคับโทษขังเดี่ยวตามที่ปรากฏในข่าว โดยห้องคุมขังมีขนาดพื้นที่ ๘.๗๔ ตารางเมตร ซึ่งภายในประกอบด้วยพื้นที่นอน พื้นที่อาบน้ำ สุขา พัดลมดูดอากาศ พัดลมเพดาน มีไฟส่องสว่าง จึงไม่ใช่เป็นการคุมขังเพื่อให้เกิดการทรมานตามที่สื่อมวลชนกล่าวอ้างแต่อย่างใด
๔.ประเด็นแฟนสาวและน้องสาวของผู้ต้องขังยื่นคำร้องเรียนขอความเป็นธรรมถึงผู้บัญชาการเรือนจำฯกรณีผู้ต้องขังถูกกลั่นแกล้ง และใช้ความรุนแรงถูกทำร้ายร่างกายจากเจ้าพนักงานเรือนจำ เหตุเกิดเมื่อวันที่ ๘ มกราคม ๒๕๖๘ เรือนจำฯ จึงได้ส่งผู้ต้องขังเข้ารับการตรวจจากแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ จำนวน ๒ ครั้ง เมื่อวันที่ ๑๒ มกราคม ๒๕๖๘ และวันที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๖๘ โดยแพทย์ไม่ได้ระบุ รอยฟกช้ำเกิดจากการทำร้ายร่างกายตามที่สื่อมวลชนเสนอข่าวผู้บัญชาการเรือนจำได้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง