In Global
'ผชช.ฝรั่งเศส'เผยจีนขับเคลื่อนศก.โลก หนุนการพัฒนาที่ยั่งยืนด้วยนวัตกรรม

ปารีส, 10 มี.ค. (ซินหัว) – แอร์เว อาซูเลย์ ศาสตราจารย์จากสถาบันธุรกิจเส้นทางสายไหม (Silk Road Business School) ระบุว่าความสำเร็จของจีนในการบรรลุเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ 5% ในปี 2024 เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงศักยภาพของประเทศในการรักษาการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้จะเผชิญกับความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก ซึ่งความสำเร็จครั้งนี้ไม่เพียงช่วยให้จีนรักษาบทบาทประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ แต่ยังเสริมสร้างความน่าเชื่อถือของจีนบนเวทีโลก
นโยบายปฏิรูปและเปิดกว้างของจีน ตลอดจนความมุ่งมั่นในการบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนเป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่าการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจภายในประเทศสามารถช่วยเสริมสร้างเสถียรภาพของเศรษฐกิจโลกได้ อาซูเลย์เน้นย้ำด้วยว่าการพัฒนาที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมของจีนเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันการเติบโตอย่างยั่งยืนในระดับโลก
อาซูเลย์ชี้ให้เห็นว่าการลงทุนอย่างมหาศาลของจีนในด้านการวิจัยและพัฒนาได้นำไปสู่ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย เช่น โมเดลปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่พัฒนาโดย ดีปซีก (DeepSeek) ซึ่งช่วยให้เศรษฐกิจจีนเปลี่ยนผ่านจากอุตสาหกรรมการผลิตจำนวนมากไปสู่เศรษฐกิจฐานความรู้ พร้อมทั้งสร้างอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าเพิ่มสูง และดึงดูดบริษัทข้ามชาติให้เข้ามาลงทุนในระบบนิเวศเทคโนโลยีที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งของจีน
นอกจากนี้ จีนยังเดินหน้าลงทุนในเทคโนโลยีสีเขียวอย่างต่อเนื่อง รวมถึงพลังงานหมุนเวียน ยานยนต์ไฟฟ้า และโครงสร้างพื้นฐานอัจฉริยะ อาซูเลย์เชื่อว่าความพยายามเหล่านี้ไม่เพียงช่วยให้จีนเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานและลดมลพิษ แต่ยังเป็นต้นแบบให้ประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา เพื่อให้สามารถผสานตนเองเข้ากับเศรษฐกิจโลกได้
จีนยังให้ความสำคัญกับความร่วมมือระหว่างประเทศ ซึ่งช่วยให้ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของจีนกระจายไปทั่วโลก ส่งเสริมการเติบโตที่ครอบคลุมและเป็นธรรม อาซูเลย์กล่าวว่าการแบ่งปันนวัตกรรมและองค์ความรู้ของจีนช่วยให้ประเทศกำลังพัฒนาสามารถรับมือกับความท้าทายทางเศรษฐกิจและสังคม ลดความเหลื่อมล้ำ และเพิ่มความสามารถในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
ในช่วงที่กระแสกีดกันทางการค้ากำลังเพิ่มขึ้น จีนยังคงดำเนินนโยบายเปิดเสรีทางเศรษฐกิจและส่งเสริมการค้าโลกเพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ อาซูเลย์เน้นว่าความริเริ่มสำคัญ เช่น โครงการริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (BRI) มีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือประเทศกำลังพัฒนาในการจัดหาทุนเพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น เช่น ถนน ทางรถไฟ ท่าเรือ และเครือข่ายโทรคมนาคม ช่วยเพิ่มการเชื่อมต่อ ลดต้นทุนทางการค้า และส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่น โดยตนเชื่อว่าวิธีการนี้จะช่วยสร้างระเบียบเศรษฐกิจโลกที่มีหลายขั้วอำนาจ ให้ประเทศกำลังพัฒนามีบทบาทมากขึ้นในเวทีการกำกับดูแลเศรษฐกิจโลก
(เนื้อหาโดย Li Wenxin, เรียบเรียงโดย Gu Shanshan, Xinhua Silk Road, https://www.xinhuathai.com/silkroad/502034_20250310 , https://en.imsilkroad.com/p/344659.html)