In Thailand
นำแนวพระดำริเจ้าฟ้าหญิงสิริวัณณวรีฯ จัดงานโครงการผ้าไทยใส่ให้สนุก'
พัทลุง-นำแนวพระดำริสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าหญิงสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา โครงการ “ ผ้าไทย ใส่ให้สนุก “ ในการจัดงาน “ รวมพล รวมพลังสตรี ที่นี่พัทลุง “ เนื่องในวันสตรีสากล
ผู้สื่อข่าว จ.พัทลุง รายงานว่า เมื่อตอนสายวันนี้(ที่ 10) ที่ห้องประชุมโรงแรมศิวา รอยัล อ.เมืองพัทลุง นายรัฐศาสตร์ ชิดชู ผวจ.พัทลุง เป็นประธานจัดงาน “ รวมพล รวมพลังสตรี ที่นี่พัทลุง “ เนื่องในวันสตรีสากล ประจำปี 2568 โดยมี ดร.นาที รัชกิจประการ ประธานคณะกรรมการพัฒนาสตรีสากลจังหวัดพัทลุง นายสุรัตน์ จรณโยธิน ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดพัทลุง และคณะ ให้การต้อนรับ ทั้งนี้ เพื่อเฉลิมฉลองสิทธิสตรี พัฒนาศักยภาพองค์กรของสตรี ส่งเสริมบทบาทสตรีทุกระดับให้มีความเข้มแข็ง สามารถเป็นแกนนำหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ จังหวัด ในการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาและพัฒนาชุมชนได้อย่างยั่งยืน การแสดงถึงความรัก ความสามัคคี และประกาศเชิดชูเกียรติแก่สตรีที่มีผลงานดีเด่น สำหรับกิจกรรมสำคัญภายในงาน ประกอบด้วย การรับบริจาคโลหิตขององค์กรสตรี กิจกรรมเสวนา ในหัวข้อ “ บทบาทสตรีกับการพัฒนาชุมชน การจัดแสดงนิทรรศการของดีและจำหน่ายอาหารพื้นที่ถิ่นอำเภอ/เทศบาล การมอบโล่เชิดชูเกียรติสตรีที่มีผลการดำเนินงานดีเด่น 19 ราย และกิจกรรมการประกวดการเดินแบบผ้าพื้นถิ่นเมืองลุงขององค์กรสตรี
อย่างไรก็ตามในงานดังกล่าวนี้ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนโครงการ “ ผ้าไทย ใส่ให้สนุก “ ตามแนวพระดำริสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าหญิงสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ซึ่งได้พระราชทานแบบลายผ้าพระราชทานให้กับกลุ่มผ้าทุกกลุ่ม เพื่อนำไปเป็นต้นแบบพัฒนาต่อยอดไปสู่เครื่องแต่งกาย เครื่องประดับตามวิถีที่เป็นเอกลักษณ์ประจำถิ่น ซึ่งองค์กรสตรีนับเป็นองค์กรสำคัญที่ได้น้อมนำปณิธานของพระองค์หญิงมาพัฒนาผ้าพัทลุง สร้าง Soff power พัฒนาผ้าพัทลุง ได้แก่ ผ้าทอยกดอก ผ้าบาติก และผ้ามัดย้อม โดยใช้เทคนิคการเขียนลวดลายด้วยเทียน พิมพ์ ระบายสี และมัดย้อม มุ่งพัฒนาผ้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การใช้สีธรรมชาติ ซึ่งจังหวัดพัทลุงร่วมกับองค์กรสตรีได้มุ่งส่งเสริมการพัฒนาและการสวมใส่ผ้าไทย ส่งเสริมเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากในระดับจังหวัด และชุมชนอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีการสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับประชาชน เกิดการหมุนเวียนในห่วงโซ่ทางเศรษฐกิจ รวมทั้งยังเป็นสิ่งสะท้อนวิถีชีวิตของชุมชน ท้องถิ่นอย่างยั่งยืน
