Biz news

C9Hotelworksเผยการลงทุนอสังหาฯ แนวHospitalityพุ่งสูงสุดนภูเก็ต



กรุงเทพฯ ประเทศไทย: 11 มีนาคม 2568การท่องเที่ยวไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง หนุนกระแสการลงทุนด้านไลฟ์สไตล์ที่ตอบโจทย์นักเดินทางยุคใหม่ ซึ่งเปลี่ยนจากการท่องเที่ยวระยะสั้นสู่การอยู่อาศัยระยะยาว โดยภูเก็ตได้รับประโยชน์สูงสุดด้วยยอดนักท่องเที่ยวที่เดินทางผ่านท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ตกว่า 8.65 ล้านคน ในปี 2567 เพิ่มขึ้น 23% จากปีก่อนหน้าจากรายงานล่าสุดจาก C9Hotelworksบริษัทที่ปรึกษาชั้นนำด้านการบริการและอสังหาริมทรัพย์ ที่เผยเทรนด์การเติบโตของตลาดปล่อยเช่าที่กำลังได้รับความสนใจจากนักลงทุนในทั่วภูมิภาคเอเชีย โดยเม็ดเงินส่วนใหญ่หลั่งไหลเข้าสู่อสังหาฯ ประเภทคอนโดมิเนียมสไตล์รีสอร์ต บนทำเลศักยภาพของเกาะ

บิล บาร์เน็ตต์ กรรมการผู้จัดการ C9Hotelworksกล่าวว่า แนวโน้มที่เห็นได้ชัดในขณะนี้คือ การท่องเที่ยวกำลังขับเคลื่อนตลาดเช่าระยะยาวในภูเก็ต ซึ่งกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสู่โมเดล Residential-led Hospitality อย่างเต็มรูปแบบ โดยมีกลุ่มผู้ซื้อจากไทย สิงคโปร์ และฮ่องกงเป็นกำลังหลักที่ขับเคลื่อนการเติบโต

กระแสความสนใจในอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยเชิงไลฟ์สไตล์ที่เพิ่มขึ้น ดึงดูดความสนใจจากผู้พัฒนาอสังหาฯ ชั้นนำของภูเก็ต โดย Lan Kwai Fong (LKF) Group (กลุ่มลานไควฟง) จากฮ่องกง ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ Andara Resort & Villas ที่กมลา เตรียมเปิดตัวแบรนด์ใหม่ ‘สุดารา (Sudara)’ ในย่านบางเทา เพื่อตอบรับความต้องการที่พุ่งสูง

 

สุดารา เรสซิเดนซ์ ภูเก็ต (Sudara Residences Phuket)มีกำหนดแล้วเสร็จในปี 2570 เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของโครงการรุ่นใหม่สไตล์รีสอร์ต ที่ตอบโจทย์กลุ่มผู้ซื้อในภูมิภาคที่มองหาไลฟ์สไตล์คุณภาพควบคู่ไปกับโอกาสในการลงทุนปล่อยเช่า โดยโครงการประกอบด้วยเรสซิเดนซ์แบบ 1-3 ห้องนอน รวม 220 ยูนิต ขนาดตั้งแต่ 52 - 144 ตารางเมตร พร้อมตัวเลือกยูนิตที่มีสระว่ายน้ำส่วนตัว จุดเด่นของโครงการ ได้แก่ คลับเฮาส์หลัก ‘The Pavilion’ ซึ่งครบครันด้วยสระว่ายน้ำกลางแจ้ง เลานจ์เปิดโล่งพร้อมคาบาน่า คิดส์คลับ ฟิตเนส คาเฟ่Silk พื้นที่โยคะ และโคเวิร์กกิ้งสเปซ ทั้งหมดนี้อยู่ภายใต้การบริหารจัดการและบริการคอนเซียร์จโดยทีมมืออาชีพจาก Andara Resort & Villas รีสอร์ตระดับอัลตร้าลักชัวรีในภูเก็ต ราคาเริ่มต้น 10 – 27 ล้านบาท

ดร. อัลเลน เซแมน ประธานกลุ่มบริษัท LKF Groupกล่าวว่า “การลงทุนของเราที่ประเทศไทยเริ่มต้นจาก Andaraและวันนี้ถือเป็นการเดินทางที่ครบวงจร จากการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์สู่ธุรกิจการบริการ และกลับมาสู่ตลาดเรสซิเดนเชียลอีกครั้งกับโครงการ Sudaraเราเชื่อว่าแรงส่งจากการท่องเที่ยวไทยคือปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนการเติบโต และเปิด โอกาสในการผสานระหว่างธุรกิจบริการ (Hospitality) และที่อยู่อาศัย (Residential) ได้อย่างลงตัว โดยกลุ่มผู้ซื้อจากภูมิภาคมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อความสำเร็จของเรา”

ภูเก็ตกำลังได้รับความสนใจอย่างมากจากนักลงทุนชาวสิงคโปร์ โดยโครงการ Sudara Residences Phuket มียอดขายจากภูมิภาคกว่า 40% จากสิงคโปร์ สะท้อนเทรนด์ที่ขับเคลื่อนปัจจัยด้านความคุ้มค่าในการลงทุน และความสะดวกในการเดินทาง

 

ซึ่งรายงานจาก C9Hotelworksระบุว่า ด้วยงบประมาณเท่ากับคอนโดแบบ 2 ห้องนอนในสิงคโปร์ นักลงทุนสามารถเป็นเจ้าของพูลวิลล่า 5 ห้องนอนในภูเก็ตได้ ขณะที่ราคารถยนต์หรูในไทยต่ำกว่าสิงคโปร์ประมาณ 60% และค่าเล่าเรียนในโรงเรียนนานาชาติในภูเก็ตก็เฉลี่ยถูกกว่าราว 42% อีกทั้งสิงคโปร์ยังมีภาษีและอากรแสตมป์ในอัตราสูงสำหรับบ้านหลังที่สอง เมื่อรวมกับความสะดวกในการเดินทางด้วยเที่ยวบินระหว่างสิงคโปร์–ภูเก็ตกว่า 150 เที่ยวต่อสัปดาห์ (ใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมง) จึงไม่น่าแปลกใจที่ภูเก็ตจะกลายเป็นทางเลือกที่ทั้งคุ้มค่าและมีศักยภาพสูงสำหรับการลงทุนหรือการอยู่อาศัยระยะยาวริมทะเลอันดามัน

“เราคาดว่าแนวโน้มการย้ายถิ่นฐานทั้งในระดับโลกและภูมิภาคจะยังเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของตลาดอสังหาฯ เพื่อการ เพื่อการลงทุน โดยในภาวะที่ตลาดมีความผันผวน การโยกย้ายการลงทุนมายังประเทศไทยในฐานะ ‘เซฟโซน’ กลายเป็นทางเลือกระยะยาวที่น่าสนใจ ผู้คนเริ่มมองหาผลตอบแทนที่มั่นคงและสม่ำเสมอจากการปล่อยเช่าระยะยาว” บาร์เน็ตต์ กล่าวเสริม