In News
ครม.อนุมัติกองทุนรวมไทยThai ESGX ลดหย่อนภาษีสูงสุด5แสนชงครม.เร็วๆนี้

ครม. อนุมัติกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (Thai ESGX) ลดหย่อนภาษีสูงสุด 5 แสนบาท เตรียมเสนอกฎหมายกรณีที่มีการลงทุนไม่เป็นธรรมเข้าสู่ ครม. เร็ว ๆ นี้
กรุงเทพฯ-ครม. อนุมัติกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (Thai ESGX) ลดหย่อนภาษีสูงสุด 5 แสนบาท เตรียมเสนอกฎหมายกรณีที่มีการลงทุนไม่เป็นธรรมเข้าสู่ ครม. เร็ว ๆ นี้
วันนี้ (11 มีนาคม 2568) เวลา 12.00 น. ณ บริเวณโถงกลาง ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วยนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ร่วมแถลงเรื่องกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thai ESG) ว่า คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบหลักการร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ร่างกฎกระทรวงฯ) ตามมาตรการการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีเพื่อสนับสนุนการลงทุนในหุ้นกลุ่มความยั่งยืน (ESG) และเพิ่มเสถียรภาพตลาดทุนไทย โดยเมื่อย้อนดูสภาพตลาดหุ้นในช่วงที่ผ่านมา ดัชนีหุ้นไทยเคยอยู่ที่ระดับ 1,400 - 1,500 จุด เมื่อ 6 - 7 เดือนก่อน แต่ได้ปรับลดลงมาที่ 1,200 จุด อันเนื่องมาจากความไม่เชื่อมั่นในตลาด การควบคุมการขายชอร์ต (Short-Selling) โปรแกรม Solex และปัจจัยเศรษฐกิจโลก อย่างไรก็ตาม เมื่อรัฐบาลจัดตั้งกองทุนวายุภักษ์ ตลาดก็เริ่มฟื้นตัวกลับขึ้นมา อย่างไรก็ตาม ปัจจัยภายนอกยังส่งผลกระทบต่อตลาดไทย โดยเฉพาะนโยบายเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ส่งผลกระทบต่อคู่ค้าหลัก เช่น เม็กซิโก แคนาดา และจีน ทำให้ตลาดทุนทั่วโลกเผชิญความผันผวน โดยเฉพาะกลุ่ม SME ของสหรัฐฯ ที่ลดลงกว่า 8% และดัชนี NASDAQ ที่ปรับลดลง รวมถึงตลาดหลักทรัพย์ของไทยด้วย
นายพิชัย กล่าวต่อว่า กลุ่ม ESG (Environmental, Social, Governance) ของไทยซึ่งเป็นหุ้นที่อยู่ในกลุ่มความยั่งยืนจะได้รับการดูแลและพัฒนาให้สอดคล้องกับเทคโนโลยี เพื่อให้เกิดผลประกอบการที่ดีในระยะยาว โดยจะกำหนดให้เป็นกลุ่มที่นักลงทุนควรให้ความสนใจ ทั้งนี้ รัฐบาลมีมาตรการสนับสนุนกองทุน LTF ซึ่งเป็นที่นิยมมาอย่างยาวนาน เนื่องจากเป็นกองทุนที่ช่วยให้ผู้ลงทุนได้รับ สิทธิประโยชน์ทางภาษี โดยต้องถือครองตามระยะเวลาที่กำหนด เช่น 5 ปี หรือ 7 ปี ซึ่งในช่วงที่ตลาดหุ้นปรับตัวลดลงเหลือ 1,200 จุด นักลงทุนส่วนใหญ่ที่มีฐานะระดับหนึ่งกำลังพิจารณาทางเลือกในการลงทุนต่อไป ดังนั้น รัฐบาลจึงเสนอกองทุน Thai ESGX เพื่อให้ผู้ถือ LTF ปัจจุบัน ซึ่งมีมูลค่ากว่า 180,000 ล้านบาท ได้รับทางเลือกเพิ่มเติม โดยสามารถย้ายการลงทุนมาอยู่ในกองทุน Thai ESGX ใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษี วงเงินสูงสุด 500,000 บาท โดยกำหนดให้ใช้สิทธิในปี 2568 ได้ 300,000 บาท และปีที่ 2-5 ใช้สิทธิได้ปีละ 50,000 บาท รวมเป็น 200,000 บาท นอกจากนี้ ยังเปิดโอกาสให้เม็ดเงินใหม่เข้าสู่กองทุน Thai ESGX โดยกำหนดให้สามารถลงทุนหลัง ครม. อนุมัติ และเปิดให้ลงทุนในช่วง พฤษภาคม-มิถุนายน ซึ่งจะได้รับสิทธิประโยชน์ภาษี 300,000 บาท
นายพิชัย กล่าวถึงมาตรการเพิ่มเติมเพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นในตลาดทุนไทย โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ และสำนักงาน ก.ล.ต. จะเร่งทำความเข้าใจกับบริษัทจดทะเบียนเกี่ยวกับ เกณฑ์ ESG และปรับปรุงมาตรฐานการดำเนินธุรกิจ รวมถึงติดตามบริษัทในกลุ่ม SET50 และ SET100 อย่างใกล้ชิด ขณะเดียวกัน รัฐบาลอยู่ระหว่างการออกกฎหมายเพื่อให้ สำนักงาน ก.ล.ต. มีอำนาจดำเนินการอย่างรวดเร็วต่อกรณีที่มีการลงทุนไม่เป็นธรรม ซึ่งอาจสร้างความเสียหายให้กับนักลงทุนรายย่อย โดยคาดว่ากฎหมายดังกล่าวจะถูกเสนอเข้าสู่ที่ประชุม ครม. ในเร็ว ๆ นี้