Authority & Harm
สภ.นาสักดึงทุกองค์กรร่วมทำข้อตกลง โครงการแก้ปัญหายานรกพบผู้ค้าลดลง
ชุมพร-เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 12 มีนาคม 68ณ ศาลาเอนกประสงค์ ม.13 ต.เขาค่าย อ.สวี จ.ชุมพร นายไตรทิพย์ สกุลประดิษฐ์ นายอำเภอสวี จ.ชุมพร เป็นประธานในการลงนามบันทึกข้อตกลง(MOU) ตามโครงการดำเนินงานตำบลยั่งยืน เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจร ตามยุทธศาสตร์ชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติซึ่งทาง พ.ต.อ.จักรา เสาวคนธ์ ผกก.สภ.นาสัก อ.สวี ได้จัดขึ้น เพื่อขับเคลื่อนโครงการดำเนินงานตำบลยั่งยืน ตำบลเขาค่าย อ.สวี จ.ชุมพร ในพื้นที่รับผิดชอบนำร่องในการแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจร โดยนำผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น ผอ.รพ.สต. ผอ.รร.ตัวแทนสื่อมวลชน เข้าร่วมทำข้อตกลงในครั้งนี้
นายไตรทิพย์ สกุลประดิษฐ์ นายอำเภอสวี จ.ชุมพร กล่าวว่า โครงการดำเนินงานตำบลยั่งยืน เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจรตามยุทธศาสตร์ชาติ มีวัตถุประสงค์ เพื่อมุ่งเน้นไม่ให้ประชาชน ไม่ให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดทุกประเภท โดยสร้างภูมิคุ้มกัน และป้องกันปราบปรามยาเสพติดในเด็ก เยาวชน นักเรียน นักศึกษา ประชาชนผู้ใช้แรงงาน และบุคคลอื่นๆ เพื่อนำความสันติสุขมาสู่ลูกหลานชาวตำบลเขาค่าย และประเทศชาตินั้น ทุกภาคส่วนจะประสานความร่วมมือร่วมกัน เพื่อให้การดำเนินการตามโครงการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และบรรลุผลสำเร็จ ตามวัตถุประสงค์ การลงลายมือไว้เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับชาวบ้าน ในการจัดระเบียบสังคม และลดปัญหายาเสพติด และอบายมุขต่างๆ เพื่อให้ชาวบ้านอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขเป็นหมู่บ้านปลอดยาเสพติด และปลอดอาชญากรรมต่างๆอย่างยั่งยืนต่อไป
ด้าน พ.ต.อ.จันกรา เสาวคนธ์ ผกก.สภ.นาสัก อ.สวี กล่าวว่า จะเห็นได้ว่าปัญหายาเสพติด เป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วนและจำเป็นที่ต้อง ได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วนและจากมุมมองที่ว่า ผู้เสพคือผู้ป่วยที่ต้องได้รับการบำบัดรักษาให้สามารถกลับคืนสู่สังคมอย่างเป็นปกติ ซึ่งแนวทางการบำบัดรักษาในปัจจุบัน ที่มุ่งการบำบัดโดยมีส่วนร่วม จึงต้องอาศัยความร่วมแรง ร่วมใจ ของเจ้าหน้าที่จากทุกฝ่าย รวมถึงพี่น้องประชาชนในชุมชน ในเรื่องของการช่วยเหลือและจัดการกับปัญหาเพื่อให้ชุมชมชนกลายเป็นชุมชนเข้มแข็งอย่างยั่งยืน สามารถรับมือกับปัญหายาเสพติดได้อย่างเป็นระบบและครบวงจรในการดำเมินโครงการตำบลยั่งยืนครั้งนี้ เกิดจากการมีส่วนร่วนร่วมและการบูรณาการอย่างแท้จริง
พ.ต.อ.จันกรา เสาวคนธ์ ผกก.สภ.นาสัก กล่าวต่อว่า จากการจัดทำโครงการผ่านมาแล้ว 3 ปี อย่างต่อเนื่องนั้น ส่งผลให้จำนวนผู้ติดยาเสพติด และปัญหายาเสพติดในพื้นที่ลดลงอย่างต่อเนื่องซึ่งโครงการดังกล่าวสัมฤทธิ์ผล โดยมองจากผู้ที่ติดยาเสพติดแล้วได้รับการบำบัดเมื่อกลับมาสู่สังคมก็ได้รับการยอมยอมรับจากสังคม เมื่อผู้ป่วยออกมาก็มีการติดตามประเมินผล ลงพื้นที่เพื่อติดตามให้ผู้ที่ออกมาได้มีอาชีพที่สุจริตและไม่กลับไปสู่วงโคจรเดิมๆกลุ่มเพื่อนเดิมๆและการสร้างครอบครัวที่เข้มแข็งก็เป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้กลุ่มผู้ป่วยที่ติดยาเสพติดไม่กลับไปเสพยาอีก ซึ่งคิดว่าโครงการนี้เป็นโครงการที่มีประโยชน์อย่างยิ่งและจะยังคงจัดทำโครงการนี้ต่อเนื่องทุกๆปี เนื่องจากปัจจุบันนี้ยาเสพติดเป็นปัญหาระดับชาติที่ต้องเร่งช่วยกันแก้ไขปัญหาให้ลดและหมดไป