Digitel Tech & AI
TikTokเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่หนุนผู้ปกครอง สร้างพฤติกรรมการใช้ดิจิทัลอย่างสมดุล

กรุงเทพฯ-ในทุก ๆ วันนี้ กลุ่มผู้ใช้เยาวชนทั่วโลกเข้ามายัง TikTok เพื่อแสดงออกถึงความคิดสร้างสรรค์ พูดคุยร่วมกับเพื่อน ๆ และเรียนรู้สิ่งใหม่ เราจึงพัฒนามาตรการรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่งที่สุดและตั้งเป็นค่าเริ่มต้นให้กับบัญชีของพวกเขา เพื่อให้มั่นใจว่าทุก ๆ คนจะได้รับประสบการณ์ที่ดี พร้อมสร้างความสบายใจให้กับผู้ปกครองควบคู่ไปด้วย ตัวอย่างความสำเร็จจาก #LearnOnTikTok ที่จุดประกายให้เยาวชนหันมาสนใจเรื่องรอบตัวมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องธรณีวิทยาหรือโบราณคดี นับตั้งแต่เปิดตัวฟีด STEM ที่รวบรวมคลิปสนุก ๆ ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมและคณิตศาสตร์ พบว่ามีเยาวชนหลายล้านคนเข้ามาชมทุกสัปดาห์ และวันนี้ TikTok เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ ให้ผู้ปกครองสามารถปรับแต่งบัญชีของผู้ใช้กลุ่มนี้ได้มากขึ้น พร้อมเพิ่มฟีเจอร์ที่ช่วยปลูกฝังพฤติกรรมการใช้ดิจิทัลอย่างสมดุล
เครื่องมือดิจิทัลที่ช่วยครอบครัวดูแลใส่ใจซึ่งกันและกันได้อย่างง่ายดาย
เมื่อห้าปีที่แล้ว TikTok ได้เปิดตัว "Family Pairing" เครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ปกครองควบคุมและดูแลการใช้งาน TikTok ของเด็ก ๆ และเยาวชนได้ง่ายขึ้น และยังได้พัฒนาฟีเจอร์ใหม่ ๆ ตามคำแนะนำของผู้ปกครองและผู้เชี่ยวชาญอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้เพิ่มฟีเจอร์ "Time Away" เปิดให้ผู้ปกครองสามารถกำหนดเวลาใช้งาน TikTok ของผู้ใช้กลุ่มเยาวชนได้ตามช่วงเวลาที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นตอนกลางวัน ตอนอยู่โรงเรียน ตอนเย็น หรือวันหยุดสุดสัปดาห์ หรือแม้แต่ช่วงเวลาที่อยู่กับครอบครัว เช่น หากต้องการให้ลูก ๆ พักผ่อนตอนกลางคืน ก็สามารถตั้งเวลา "งด" ใช้ TikTok หลังสี่ทุ่มได้ และยังกำหนดตารางเวลาการใช้งานได้ทั้งแบบรายวันหรือรายสัปดาห์เพื่อปรับให้เหมาะกับกิจวัตรของครอบครัว แน่นอนว่าอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้เสมอ ดังนั้นถ้าผู้ใช้กลุ่มเยาวชนต้องการใช้ TikTok ในเวลาที่ถูกจำกัดอยู่ ก็สามารถขอต่อเวลาเพิ่มจากผู้ปกครองได้ ซึ่งผู้ปกครองจะเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะอนุมัติหรือไม่
เรายังมีการเพิ่มฟีเจอร์ Family Pairing ที่จะช่วยให้ผู้ปกครองได้ทราบว่าเด็ก ๆ และเยาวชนที่อยู่ภายใต้การดูแลนั้นกำลังติดตามใครอยู่บ้าง เพื่อนคนไหนที่มาติดตามลูกของเรา และคอนเทนต์ที่ลูก ๆ สนใจบน TikTok คืออะไร ช่วยให้เกิดบทสนทนาที่เปิดกว้างและกระตุ้นให้เยาวชนสามารถพัฒนาความรู้และทักษะดิจิทัลที่สำคัญ
เราตระหนักดีว่าผู้ปกครองต้องการรับรู้ข้อมูลเกี่ยวกับคอนเทนต์ที่ลูก ๆ รับชมหรือมีส่วนร่วมบน TikTok และเพื่อตอบสนองต่อความต้องการนี้ TikTok กำลังเตรียมเปิดตัวเครื่องมือที่เยาวชนสามารถตั้งค่าการแจ้งเตือนเมื่อกดรีพอร์ทวิดีโอที่ไม่เหมาะสมให้พ่อแม่หรือผู้ปกครองรับทราบไปพร้อม ๆ กันได้ แม้ว่าจะไม่ได้ใช้งานฟีเจอร์ Family Pairing ก็ตาม
จากการอัปเดตล่าสุดเหล่านี้ ทำให้ผู้ปกครองสามารถดูหรือตั้งค่าฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย ความเป็นอยู่ที่ดี และความเป็นส่วนตัวครอบคลุมมากกว่า 15 รายการ ประกอบด้วย:
- การเปิดใช้งานฟีด STEM ขึ้นอีกครั้ง หากถูกปิดใช้งานไปก่อนหน้า โดยปัจจุบันฟีด STEM เปิดให้บริการแล้วครอบคลุมกว่า 100 ประเทศทั่วโลก และมีเยาวชนหลายล้านคนใช้งานทุกสัปดาห์
- การตั้งค่าจำกัดเวลาหน้าจอรายวันแบบกำหนดเอง ตัวอย่างเช่น ผู้ปกครองสามารถเลือกที่จะจำกัดเวลาหน้าจอการใช้งาน TikTok ของลูก ๆ ไว้ที่ 30 นาที ในช่วงวันธรรมดา แต่จะนานขึ้นเล็กน้อยในวันหยุดสุดสัปดาห์ และเมื่อถึงเวลาจำกัดที่ผู้ปกครองตั้งไว้ จะสามารถใช้ TikTok ได้ก็ต่อเมื่อผู้ปกครองแชร์รหัสผ่านให้เท่านั้น แม้ผู้ปกครองจะไม่ได้กำหนดการตั้งค่าไว้ แต่สำหรับผู้ใช้ที่อายุต่ำกว่า 18 ปี จะได้รับการตั้งค่าเวลาหน้าจอรายวันไว้ที่ 60 นาที เป็นค่าเริ่มต้น
- หากเผลอตั้งค่าบัญชี TikTok เป็นสาธารณะ ผู้ปกครองก็สามารถเปลี่ยนกลับมาเป็นแบบส่วนตัวได้
ปลูกฝังพฤติกรรมการใช้ดิจิทัลอย่างสมดุลในกลุ่มผู้ใช้เยาวชน
การปลูกฝังพฤติกรรมการใช้สื่อดิจิทัลที่ดีต่อสุขภาพในกลุ่มเยาวชนเป็นสิ่งสำคัญ TikTok จึงได้พิจารณาแนวทางใหม่เพื่อสนับสนุนให้เยาวชนได้พักผ่อนเพียงพอในช่วงเวลากลางคืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ใช้งานที่มีอายุต่ำกว่า 16 ปี เพื่อส่งเสริมการนอนหลับที่มีคุณภาพ TikTok ได้เปิดตัวฟีเจอร์ "Wind Down" ซึ่งจะแจ้งเตือนบนหน้า For your feed หลังจากเวลา 22.00 น. โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยให้เยาวชนได้ผ่อนคลายจากเสียงเพลง และลดการใช้งานแอปพลิเคชันช่วงเวลาก่อนนอน หากพวกเขายังเลือกใช้งานต่อจะมีการแจ้งเตือนครั้งที่สอง โดยปรากฎในตำแหน่งที่ชัดเจนยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับก่อนหน้านี้ ที่ระบบจะไม่ส่งการแจ้งเตือนแบบพุชให้กับผู้ใช้กลุ่มนี้ในช่วงเวลากลางคืน
เราออกแบบฟีเจอร์เหล่านี้เพื่อต้องการปลูกฝังแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดในเชิงทฤษฎีเพื่อปรับพฤติกรรมเชิงบวกให้กับผู้ใช้กลุ่มเยาวชนในระยะยาวได้ และในประเทศที่ได้มีการทดลองใช้ระบบนี้ พบว่าเยาวชนส่วนใหญ่ตัดสินใจเปิดการแจ้งเตือนนี้ไว้ สะท้อนให้เห็นถึงความตระหนักรู้ในการสร้างพฤติกรรมการใช้งานสื่อดิจิทัลที่สมดุล และในอีกไม่กี่สัปดาห์ เราจะทดสอบการเพิ่มแบบฝึกสมาธิลงในการแจ้งเตือน Wind Down ด้วย เนื่องจากผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่าการทำสมาธิอย่างมีสติสามารถช่วยปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับได้
เช่นเดียวกับฟีเจอร์ใหม่ที่เปิดตัวไป เราพร้อมรับฟังความคิดเห็นจากชุมชน และเพื่อแจ้งถึงแผนงานในอนาคต เรากำลังดำเนินการวิจัยร่วมกับผู้ปกครองและกลุ่มผู้ใช้วัยรุ่นทั่วโลก เพื่อทำความเข้าใจว่าเราจะสามารถช่วยพัฒนานิสัยและพฤติกรรมการใช้งานดิจิทัลอย่างสมดุลได้อย่างไรอีกบ้าง