In Bangkok
เขตคลองสามวาจับตาฝุ่นจิ๋วหม้อไอน้ำ โรงงานผลิตกระดาษลูกฟูกศานติฯ

กรุงเทพฯ-คลองสามวาจับตาฝุ่นจิ๋วหม้อไอน้ำ (Boiler) โรงงานผลิตกระดาษลูกฟูกศานติบรรจุภัณฑ์ ชวนหมู่บ้านพลีโน่รามอินทรา-บางชันแยกขยะจ่ายน้อยกว่า ลุยแก้ปัญหาลักลอบทิ้งขยะซอยพระยาสุเรนทร์ 29-31 ส่องทึ่ว่างปั้นสวนหมู่บ้าน K.C. Garden Home
(14 มี.ค. 68) เวลา 13.00 น. นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานตามนโยบายผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในพื้นที่เขตคลองสามวา ประกอบด้วย
ติดตามมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 บริษัท ศานติบรรจุภัณฑ์ จำกัด (ศานติ 2) ถนนประชาร่วมใจ ซึ่งประกอบกิจการผลิตแผ่นและกล่องกระดาษลูกฟูก ลักษณะของสถานประกอบการมีการใช้หม้อไอน้ำ (Boiler) โดยใช้น้ำมันเตาชนิดที่ 1 หรือน้ำมันเตา a ซึ่งเป็นน้ำมันเตาที่มีคุณภาพสูง มีความหนืดต่ำ เผาไหม้ได้สมบูรณ์ และมีเขม่าต่ำ เป็นเชื้อเพลิงในการผลิต มีกระบวนการเผาไหม้ที่อาจก่อให้เกิดฝุ่นละอองและมลพิษทางอากาศ ซึ่งผู้ประกอบการให้ความร่วมมือและปฏิบัติตามมาตรการป้องกันฝุ่น PM2.5 อย่างต่อเนื่อง ตรวจสอบประสิทธิภาพการทำงานของหม้อไอน้ำตามแผนงานที่กำหนดไว้ ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้เน้นย้ำผู้ประกอบการให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันฝุ่น PM2.5 อย่างเคร่งครัด ตรวจวัดค่าควันดำรถบรรทุกให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานตามรอบที่กำหนด นอกจากนี้เขตฯ ได้จัดทำแผนปฏิบัติการตรวจสอบและควบคุมสถานประกอบการที่ก่อให้เกิดปัญหาฝุ่น PM2.5 ตามมาตรการควบคุมมลพิษทางอากาศและมาตรการด้านความปลอดภัยในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ได้แก่ ประเภทแพลนท์ปูน 3 แห่ง ประเภทเคาะ ปะผุ พ่นสี 28 แห่ง ประเภทเลื่อย ตัดหิน 4 แห่ง ประเภทหม้อไอน้ำ (น้ำมันเตา) 1 แห่ง พร้อมทั้งรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้เกี่ยวกับฝุ่น PM2.5 กำชับสถานประกอบการในพื้นที่ให้ปฏิบัติตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนดอย่างเคร่งครัด เพื่อควบคุมค่าฝุ่น PM2.5 ให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน เพื่อป้องกันมลพิษทางอากาศและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
เยี่ยมชมต้นแบบการคัดแยกขยะ หมู่บ้านพลีโน่ รามอินทรา-บางชัน สเตชั่น (Pleno Ramintra-Bangchan Station) ซอยรามอินทรา 117 แยก 5 ซึ่งเป็นหมู่บ้านจัดสรร ลักษณะทาวน์โฮม 2 ชั้น พื้นที่ 5,555.30 ตารางเมตร มีประชากร 720 คน จำนวน 252 หลังคาเรือน เข้าร่วมโครงการคัดแยกขยะตั้งแต่ปี 2567 วิธีการคัดแยกขยะ โดยจำแนกตามประเภทของขยะ ดังนี้ 1. ขยะอินทรีย์ นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรและกรรมการหมู่บ้าน ร่วมกันจัดทำจุดทิ้งขยะอินทรีย์ โดยแยกเป็น ขยะเศษอาหาร จัดทำถังหมักขยะเศษอาหาร และขยะใบไม้กิ่งไม้ จัดทำคอกหมักปุ๋ยใบไม้ โดยปุ๋ยที่ได้จากการหมักขยะอินทรีย์ จะนำไปใช้ในแปลงเกษตรของหมู่บ้าน เขตฯ จัดเก็บสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ในวันพุธและวันเสาร์ 2. ขยะรีไซเคิล นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรและกรรมการหมู่บ้าน ร่วมกันจัดทำจุดทิ้งขยะรีไซเคิล ลูกบ้านจะคัดแยกขยะรีไซเคิลแล้วนำมาทิ้ง ในจุดที่หมู่บ้านจัดทำไว้ โดยเรียกใช้บริการ WASTEBUY มารับขยะเดือนละ 1 ครั้ง 3. ขยะทั่วไป นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรและกรรมการหมู่บ้าน ร่วมกันจัดทำจุดทิ้งขยะทั่วไป ลูกบ้านจะคัดแยกขยะทั่วไปแล้วนำมาทิ้งในจุดที่หมู่บ้านจัดทำไว้ เขตฯ จัดเก็บ 4. ขยะอันตราย นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรและกรรมการหมู่บ้าน ร่วมกันจัดทำจุดทิ้งขยะอันตราย ลูกบ้านจะคัดแยกขยะอันตรายแล้วนำมาทิ้งในจุดที่หมู่บ้านจัดทำไว้ เขตฯ จัดเก็บ สำหรับปริมาณขยะก่อนคัดแยกและหลังคัดแยก ดังนี้ ขยะทั่วไปก่อนคัดแยก 12,904 กิโลกรัม/เดือน หลังคัดแยก 10,281 กิโลกรัม/เดือน ขยะรีไซเคิลหลังคัดแยก 730 กิโลกรัม/เดือน ขยะอินทรีย์หลังคัดแยก 1,890 กิโลกรัม/เดือน ขยะอันตรายหลังคัดแยก 3 กิโลกรัม/เดือน ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้ให้คำแนะนำในการคัดแยกขยะประเภทต่างๆ โดยเฉพาะขยะอินทรีย์ออกจากขยะทั่วไป เพื่อให้การจัดเก็บมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งปริมาณขยะที่คัดแยกจะมีผลต่ออัตราค่าธรรมเนียมในการจัดการสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอยฉบับใหม่
ตรวจการแก้ไขปัญหาพื้นที่รกร้างและการลักลอบทิ้งขยะ บริเวณซอยพระยาสุเรนทร์ 29-31 จากการสำรวจพบว่าในพื้นที่เขตฯ มีพื้นที่รกร้างและลักลอบทิ้งขยะ จำนวน 7 แห่ง ซึ่งเขตฯ ได้จัดทำหนังสือแจ้งเจ้าของที่ดินให้ดำเนินการล้อมรั้วโดยรอบให้มิดชิด นอกจากนี้เขตฯ ได้พัฒนาทำความสะอาดจัดเก็บขยะ โดยเฉพาะกิ่งไม้แห้ง ใบไม้แห้ง หญ้าแห้ง ซึ่งอาจเป็นเชื้อเพลิงก่อให้เกิดอัคคีภัยขึ้นได้ จัดทำรั้วชั่วคราวปิดกั้นไม่ให้เข้าไปในพื้นที่ ติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์ห้ามทิ้งขยะ ติดตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อตรวจสอบหาตัวผู้กระทำความผิดลักลอบทิ้งขยะ รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่เทศกิจออกตรวจพื้นที่เฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันการลักลอบนำเศษวัสดุจากสิ่งปลูกสร้างหรือขยะชิ้นใหญ่มาทิ้งในพื้นที่ดังกล่าว ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้มอบหมายให้เขตฯ สำรวจการใช้ประโยชน์จากที่ดิน หากไม่มีการใช้ประโยชน์หรือปล่อยทิ้งไว้เป็นพื้นที่รกร้างว่างเปล่า ให้พิจารณาจัดเก็บภาษีตามอัตราที่กำหนด รวมถึงดำเนินการตามหนังสือสั่งการของสำนักเทศกิจ ตามข้อกฎหมาย จำนวน 3 ฉบับ ได้แก่ 1. พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535 2. พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ. 2535 3. พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 เพื่อความปลอดภัยและเป็นระเบียบในพื้นที่
พัฒนาสวน 15 นาที สวนหมู่บ้าน K.C. Garden Home ซอยนิมิตใหม่ 40 ซึ่งเขตฯ ร่วมกับหมู่บ้าน พัฒนาที่ว่าง ปรับสภาพพื้นที่ ออกแบบสวนในรูปแบบสวนสุขภาพ ปัจจุบันเขตฯ มีสวน 15 นาที จำนวน 11 แห่ง ได้แก่ 1. สวนสามวาพนานุรักษ์ พื้นที่ 2 ไร่ 2. สวนสามวาประชาสุขสันต์ ถนนสุขาภิบาล 5 ซอย 82 ใกล้หมู่บ้านเนเบอร์โฮม พื้นที่ 2 ไร่ 2 งาน 26 ตารางวา 3. สวนเจริญสุข สุขสำราญพัฒนา ริมคลองลำแบน ชุมชนสุขสำราญพัฒนา ซอยหทัยราษฎร์ 41 พื้นที่ 1 ไร่ 4. สวนราษฎร์ร่วมใจ ถนนราษฎร์ร่วมใจ ซอยประชาร่วมใจ 62 ถนนราษฎร์ร่วมใจ (แยกบาแล) พื้นที่ 3 ไร่ 5. สวนสามวาพระยาสุเรนทร์ บริเวณวัดพระยาสุเรนทร์ พื้นที่ 1 ไร่ 6. สวนบึงแบนตาโพ ซอยสุเหร่าคลองหนึ่ง 14 ถนนสุเหร่าคลองหนึ่ง พื้นที่ 9 ไร่ 3 งาน 45 ตารางวา 7. สวนไมตรีจิต (พื้นที่ว่างไหล่ทาง) ถนนไมตรีจิต พื้นที่ 2 ไร่ 3 งาน 8. สวน 37 หทัยราษฎร์ พื้นที่ 6 ไร่ 1 งาน 3.2 ตารางวา อยู่ระหว่างดำเนินการ 9. สวนหมู่บ้าน K.C. รามอินทรา 5 พื้นที่ 3 งาน 4 ตารางวา อยู่ระหว่างประสานเจ้าของที่ดิน 10. สวนหมู่บ้าน K.C. Garden Home พื้นที่ 1 ไร่ อยู่ระหว่างดำเนินการ 11. สวนหมู่บ้านเมืองประชา พื้นที่ 1 ไร่ 60 ตารางวา อยู่ระหว่างการโอนกรรมสิทธิ๋ที่ดิน นอกจากนี้ เขตฯ ยังมีสวนนิมิตใหม่ 36 ริมคลองสามตะวันออก (ตรงข้ามวัดสุทธิสะอาด) ซอยนิมิตใหม่ 36 พื้นที่ 65 ไร่ โดยยกระดับเป็นสวนป่ากรุงเทพฯ ขนาดใหญ่ ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้มอบหมายให้เขตฯ พิจารณาถึงความเหมาะสมของพื้นที่ในการจัดทำสวน 15 นาทีให้ครบทั้ง 10 แห่ง ตามนโยบายผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร การออกแบบพื้นที่ใช้สอยภายในสวนให้ตรงตามความต้องการของประชาชนที่เข้ามาใช้บริการ เพื่อให้การจัดทำสวนเป็นไปตามวัตถุประสงค์และเกิดประโยชน์อย่างแท้จริง
พร้อมกันนี้ได้สอบถามถึงการจัดระเบียบพื้นที่ทำการค้า ซึ่งเดิมเขตฯ มีพื้นที่ทำการค้านอกจุดผ่อนผัน จำนวน 1 จุด บริเวณหน้าโรงเรียนวัดคู้บอน ผู้ค้า 10 ราย ต่อมาเขตฯ ยกเลิกจุดทำการค้าดังกล่าว เมื่อเดือนมีนาคม 2567 นอกจากนี้ เขตฯ ได้จัดทำ Hawker Center บริเวณลานโดมวัดพระยาสุเรนทร์ รองรับผู้ค้าได้ 50 ราย มีผู้ค้า 7 ราย
ในการนี้มี นางธัญนภัส มณีศรี ผู้อำนวยการเขตคลองสามวา พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่เขตคลองสามวา สำนักเทศกิจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่และให้ข้อมูล