Health & Beauty

LG Chem เปิดตัว V-Up Glass Glow  ดึง Bowkylionเป็นพรีเซ็นเตอร์



กรุงเทพฯ - ตลาดความงามกำลังก้าวสู่ยุคใหม่ที่ไม่ได้ขับเคลื่อนด้วยแค่ผลิตภัณฑ์อีกต่อไป แต่รวมถึงคอนเทนต์ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุค Skintellectual ล่าสุดบริษัท LG Chem ผู้นำด้านนวัตกรรมความงามจากประเทศเกาหลี จัดงาน V-UP EXCLUSIVE LAUNCH อย่างยิ่งใหญ่ เพื่อเปิดตัวผลิตภัณฑ์ล่าสุด  ‘VITARAN I’  นวัตกรรมแห่งอนาคตที่มาพร้อมเทคโนโลยี

ล้ำสมัยในการฟื้นบำรุงผิวแบบลึกถึงชั้นเซลล์ โดยใช้ DNA ปลาแซลมอนเทราต์ ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้น เสริมสร้างความยืดหยุ่น และช่วยให้ผิวเรียบเนียน กระจ่างใส เปล่งประกายอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์สาว โบกี้ ไลอ้อน-ณิชชาฎา
วีระสุทธิมาศ
 ศิลปินมากความสามารถ ที่มาถ่ายทอดเสน่ห์ของผิวสวยเปล่งประกาย พร้อมกูรูสายบิวตี้เมคอัพ คุณชัย ปิลันธน์
ศรีวีระกุล
 เมกอัพอาร์ทิสต์ชั้น ที่มาร่วมแจมเวทีกับสาวโบกี้ ไลอ้อน ในช่วง ‘V-Up Glass Glow Reimagined Talk’ แชร์ประสบการณ์ดูแลงานผิว พร้อมเผยเคล็ดลับการแต่งหน้าเน้นงานผิวให้สวยฉ่ำในปี 2025

คุณโทนี่ วู กรรมการผู้จัดการ แอลจี เคม ไลฟ์ ไซเอนเซส (ประเทศไทย) กล่าวว่า “LG Chem พร้อมแล้วที่จะเปิดศักราชใหม่ของวงการความงามในประเทศไทย ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการพัฒนาอย่างพิถีพิถัน VITARAN I เป็นสารสกัดที่นำ DNA ปลาแซลมอนเทราต์ ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยลดเลือนริ้วรอย กระชับผิว และเติมความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึก ให้ทุกคนได้สัมผัสกับผิวกระจ่างใส ฉ่ำโกลว์ ในรูปแบบที่ดีที่สุด

VITARAN I มาพร้อมนวัตกรรมจาก Polynucleotide ซึ่งเป็นนวัตกรรมสำหรับการฟื้นฟูผิวขั้นสูงตามเวชศาสตร์ความงาม ช่วยฟื้นฟูสภาพผิว ลดเลือนริ้วรอย และเสริมสร้างเซลล์ผิวใหม่ให้แข็งแรงขึ้น จึงทำให้ผิวแลดูอ่อนเยาว์ขึ้นในระยะเวลาอันสั้น มีความปลอดภัยสูงเนื่องจากเป็นสารที่สกัดจาก DNA ปลาแซลมอนเทราต์ ซึ่งมีความใกล้เคียงกับ DNA ของมนุษย์ สามารถใช้ได้อย่างปลอดภัยกับทุกสภาพผิวและทุกช่วงวัย  ด้วย 3 คุณสมบัติเด่น ได้แก่

1. เพิ่มความเต่งตึงและยืดหยุ่นให้ผิว – ฟื้นคืนความยืดหยุ่น ให้ผิวดูอิ่มน้ำ กระชับ และแน่นขึ้น

2. ฟื้นฟูผิวให้แลดูกระจ่างใส – กระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวล้ำลึก ทำให้ผิวแลดูสดใสและสุขภาพดี

3. ลดเลือนริ้วรอย – เสริมสร้างเซลล์ผิวใหม่ ช่วยให้ผิวดูเรียบเนียนและอ่อนเยาว์ 

นวัตกรรมจาก Polynucleotide  ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็นหนุ่มสาววัยทำงานที่ต้องเผชิญมลภาวะและความเครียด คนที่พักผ่อนไม่เพียงพอ หรือผู้ที่เริ่มมีสัญญาณแห่งวัยและต้องการเพิ่มความมั่นใจให้กับผิวพรรณ โดยเหมาะสำหรับ 3 กลุ่มความต้องการของผิว ดังนี้

1. ผู้ที่มีผิวแห้งกร้านขาดชีวิตชีวา - เติมความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึก ให้ผิวเนียนนุ่มและดูอิ่มน้ำขึ้นทันที

2. ผู้ที่เริ่มมีริ้วรอย ผิวไม่กระชับสัญญาณแห่งความหย่อนคล้อย – ช่วยฟื้นฟูโครงสร้างผิวและลดเลือนริ้วรอยอย่างเป็นธรรมชาติ

3. ผู้ที่มีปัญหาผิวไม่เรียบเนียน  – ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอและคืนความเปล่งปลั่งและออร่าให้ผิว

นอกเหนือจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์แล้ว ภายในงานยังเป็นเวทีสำหรับนักการตลาดและบิวตี้คอนเทนต์ครีเอเตอร์ในการเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ ผ่านเสวนา “V Glow Up Trends: Skin, Beauty, Marketing” โดย  Digital Tips Academy
ได้รวบรวมงานวิจัยและเผยข้อมูลน่าสนใจ ว่าตลาดความงามทั่วโลกเติบโตเฉลี่ย 15% ต่อปี โดยปี 2567 มีมูลค่า 5 ล้านล้านบาท และจะเพิ่มเป็น 11.5 ล้านล้านบาท ในปี 2573  ส่วนในประเทศไทย มูลค่าตลาดความงามปี 2567 อยู่ที่ 258,275 ล้านบาท และคาดว่าตลาดศัลยกรรมเสริมความงามปี 2568 จะเพิ่มเป็น 76,500 ล้านบาท เติบโต 2.8% จากปีก่อน (ข้อมูลจาก Grand View Research และศูนย์วิจัยกสิกรไทย)

ส่วนปัจจัยที่ขับเคลื่อนตลาด ได้แก่

 1) กลุ่มลูกค้าใหม่ เช่น ผู้ชายวัยรุ่น (+65%) วัยทำงาน (+20%)   LGBTQIA+ และ Gen Z

2) กลุ่ม 50+ ที่ใช้จ่ายสูงกว่าคนรุ่นใหม่ถึง 2 เท่า โดยเฉพาะผู้หญิงที่ให้ความสำคัญกับการชะลอวัย และ

 3) กลุ่ม Medical Tourism ที่เติบโตเฉลี่ย 5% ต่อปี

คุณทิป มัณฑิตา จินดา กูรูด้านการตลาดดิจิทัล จาก Digital Tips Academy กล่าวว่า "เรากำลังเจอกับกลุ่มลูกค้าที่เรียกว่า ‘Skintellectual’ หรือ ผู้บริโภคกลุ่ม Beauty ที่มีความรู้เรื่องส่วนผสม ประโยชน์ และวิทยาศาสตร์ของผลิตภัณฑ์ดูแลผิว รวมถึงเข้าใจสภาพผิวและความต้องการเฉพาะของผิวตนเอง ซึ่งกลุ่มนี้มีความรู้และชอบหาข้อมูล ดังนั้น ธุรกิจความงามจึงต้องให้ความสำคัญกับคอนเทนต์ที่มีคุณภาพ และสื่อสารอย่างสม่ำเสมอ"

นพ. ณชนก ทัพขวา ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ความงาม กล่าวว่า การสื่อสารบนแพลตฟอร์มดิจิทัลสำหรับแพทย์และคลินิกต้องเริ่มจากการกำหนดบทบาทให้ชัดเจน หากเป็นแพทย์ ต้องปฏิบัติตามกฎข้อบังคับทางการแพทย์อย่างถูกต้องก่อนพูดถึงผลิตภัณฑ์หรือเครื่องมือทางการแพทย์ ส่วนคลินิกต้องศึกษากฎการโฆษณาและขออนุญาตจาก สบส. ให้ถูกต้องตั้งแต่ต้น  นอกจากนี้ Core Value เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยสร้างความแตกต่างและ Loyalty จากลูกค้า ควรสื่อสารความเชี่ยวชาญและจุดเด่น
ที่ชัดเจน เช่น การรักษาที่เจ็บน้อย (Pain-free) เพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมายที่ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ในการรักษา”

คุณมัณฑิตา ยังได้สรุป 7 Checklist สำหรับธุรกิจความงามและนักการตลาดสายบิวตี้ที่ต้องการสร้าง Impact บนแพลตฟอร์มดิจิทัล

1.ทำคอนเทนต์ให้ความรู้ที่ลึกและหลากหลาย

2.อัปเดต Google My Business เพื่อเพิ่มการค้นหา

3.เผยแพร่รีวิวและผลลัพธ์การใช้ผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง

4.สร้างเว็บไซต์ที่ใช้งานง่าย รองรับ SEO

5.วิเคราะห์ Keyword และปรับปรุงผลลัพธ์บน Search Engine

6.วางกลยุทธ์โฆษณาให้แม่นยำผ่านช่องทางดิจิทัล

7.เข้าใจ Core Value ของแบรนด์และสื่อสารอย่างสม่ำเสมอ