In News
ภาวะเศรษฐกิจการคลังในเดือนก.พ.2568 'ท่องเที่ยว-ส่งออก'ปัจจัยหนุนให้เติบโต

กรุงเทพฯ-สถานการณ์เศรษฐกิจไทยในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการส่งออกสินค้าที่ขยายตัวในระดับสูง อีกทั้งการท่องเที่ยวภายในประเทศยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี การท่องเที่ยวจากต่างประเทศ และการบริโภคในหมวดสินค้าคงทนมีแนวโน้มชะลอตัวลง ทั้งนี้ ยังจำเป็นต้องติดตามสถานการณ์ของการผลิตภาคอุตสาหกรรม รวมถึงนโยบายเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าสำคัญ โดยเฉพาะสหรัฐฯ ที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยอย่างใกล้ชิด
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ว่า “สถานการณ์เศรษฐกิจไทยในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการส่งออกสินค้า ฃที่ขยายตัวในระดับสูง อีกทั้งการท่องเที่ยวภายในประเทศยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี การท่องเที่ยวจากต่างประเทศ และการบริโภคในหมวดสินค้าคงทนมีแนวโน้มชะลอตัวลง ทั้งนี้ ยังจำเป็นต้องติดตามสถานการณ์ของการผลิตภาคอุตสาหกรรม รวมถึงนโยบายเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าสำคัญ โดยเฉพาะสหรัฐฯ ที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยอย่างใกล้ชิด” โดยมีรายละเอียดสรุปได้ ดังนี้
เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน มีสัญญาณทรงตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อน: โดยปริมาณรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ ในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนร้อยละ 2.4 แต่ลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ -2.9 สอดคล้องกับรายได้เกษตรกรที่แท้จริง ในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ 1.2 ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 57.8 จากระดับ 59.0 ในเดือนก่อน เนื่องจากผู้บริโภคมีความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้า ขณะที่ปริมาณรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ ในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนร้อยละ -15.5 และลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ -14.4
เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการลงทุนภาคเอกชน มีสัญญาณชะลอตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยการลงทุนภาคเอกชนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร สะท้อนจากปริมาณการนำเข้าสินค้าทุน ในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ลดลงจาก
ช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ -15.6 และลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ -10.6 และปริมาณรถยนต์เชิงพาณิชย์จดทะเบียนใหม่ ในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ -11.5 แต่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ 0.4
มูลค่าการส่งออกสินค้าขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อน: โดยมูลค่าการส่งออกสินค้ารวมในรูปเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 อยู่ที่ 26,707.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 ที่ร้อยละ 14.0 และหากพิจารณาเฉพาะมูลค่าการส่งออกสินค้าที่ไม่รวมน้ำมันและสินค้าที่เกี่ยวเนื่อง ทองคำ และยุทธปัจจัย พบว่า ขยายตัวที่ร้อยละ 14.6 ตามการขยายตัวของสินค้าในหมวดอัญมณีและเครื่องประดับ (ไม่รวมทองคำ) เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ และเครื่องจักรกลและส่วนประกอบ โดยขยายตัวร้อยละ 106.3 51.3 32.8 และ 21.5 ตามลำดับ นอกจากนี้ ยางพารา น้ำตาลทราย ผลไม้กระป๋องและแปรรูป และอาหารสัตว์เลี้ยง ขยายตัวร้อยละ 35.7 25.8 22.5 และ 14.4 ตามลำดับ อย่างไรก็ดี การส่งออกข้าว ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง และเครื่องโทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ปรับตัวลดลง ทั้งนี้ เมื่อพิจารณามูลค่าการส่งออกสินค้า โดยจำแนกเป็นรายตลาดคู่ค้าหลักของไทย พบว่า ปรับตัวเพิ่มขึ้นในตลาดอินเดีย จีน และสหรัฐฯ และขยายตัวร้อยละ 156.8 22.4 และ 18.3 ตามลำดับ อย่างไรก็ดี ตลาดทวีปออสเตรเลีย ญี่ปุ่น และอาเซียน-9 ลดลงร้อยละ -7.7 -3.1 และ -1.1 ตามลำดับ
เครื่องชี้เศรษฐกิจไทยด้านอุปทาน โดยเฉพาะบริการด้านการท่องเที่ยวภายในประเทศปรับตัวดีขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน: โดยภาคบริการด้านการท่องเที่ยว ในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยรวม จำนวน 3.12 ล้านคน ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ -6.9 และลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ -12.0 ขณะที่การท่องเที่ยวภายในประเทศที่มีผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย ในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 จำนวน 23.0 ล้านคน คิดเป็นอัตราการขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ 3.5 และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ 4.2 ขณะที่ภาคการเกษตร สะท้อนจากดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตร ในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ 3.7 และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ 0.4 ตามการเพิ่มขึ้นในหมวดพืชผลสำคัญ อาทิ ข้าว และยางพารา เป็นต้น อย่างไรก็ดี ผลผลิตมันสำปะหลัง และข้าวโพด ลดลงจากเดือนก่อน สำหรับภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 93.4 จากระดับ 91.6 ในเดือนก่อนหน้า โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ
เสถียรภาพเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ดี: สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 อยู่ที่ร้อยละ 1.08 ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ร้อยละ 0.99 ส่วนสัดส่วนหนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนมกราคม 2568 อยู่ที่ร้อยละ 64.1 ต่อ GDP ซึ่งยังอยู่ภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลังที่ตั้งไว้ตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 สำหรับเสถียรภาพภายนอกยังอยู่ในระดับที่มั่นคง และสามารถรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้ สะท้อนจากทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูงที่ 244.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
สถานการณ์เศรษฐกิจโลกยังคงขยายตัว โดยได้รับแรงขับเคลื่อนจากภาคการผลิตและบริการ: สะท้อนจากดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของทั่วโลก (Global Composite PMI) ในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 อยู่ที่ระดับ 51.5 จุด ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 51.8 จุด แต่ยังอยู่สูงกว่าระดับ 50.0 จุด บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจโลกยังคงมีทิศทางขยายตัว โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของทั่วโลกภาคการผลิต (Global Manufacturing PMI) ในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 50.6 จุด จากระดับ 50.1 จุด ในเดือนก่อนหน้า โดยด้านผลผลิตและยอดคำสั่งซื้อใหม่ขยายตัวต่อเนื่อง ขณะที่ ราคาปัจจัยการผลิตยังคงเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของทั่วโลกภาคบริการ (Global Service PMI) ในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 อยู่ที่ระดับ 51.6 จุด ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 52.2 และสูงกว่าระดับ 50.0 จุด ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 26 บ่งชี้ว่าภาคบริการยังคงขยายตัว นอกจากนี้ สถานการณ์การท่องเที่ยวที่ยังฟื้นตัวต่อเนื่องประกอบกับการดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายในหลายประเทศ จะเป็นปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกในระยะต่อไป สำหรับสถานการณ์ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์และมาตรการการกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ ยังคงต้องติดตามอย่างต่อเนื่อง ภายใต้สถานการณ์ที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง