Digitel Tech & AI
Lenovoร่วมNVIDIAขับเคลื่อนAIเปิดตัว 'Lenovo Hybrid AI Advantage'

กรุงเทพฯ, ประเทศไทย –1 เมษายน 2568 – Lenovo เปิดตัว Lenovo Hybrid AI Advantage โซลูชันใหม่ร่วมกับเอ็นวิเดีย (NVIDIA) ณ งานประชุม NVIDIA GTC 2025 ซึ่งโซลูชันนี้ถูกออกแบบมาเพื่อนำเทคโนโลยี AI มาใช้เพิ่มประสิทธิภาพทางธุรกิจโดยเฉพาะ ผ่านการพัฒนา Agentic AI ที่สามารถวิเคราะห์ วางแผน และดำเนินการเพื่อบรรลุเป้าหมายได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งโซลูชัน AI แบบครบวงจรเหล่านี้ได้ผ่านการรับรองมาตรฐานที่จะสามารถช่วยให้องค์กรใช้ AI Agents ได้เหมาะสมกับแต่ละการใช้งานที่หลากหลาย รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพ ความคล่องตัว และความน่าเชื่อถือให้การทำงานในยุคเอไอเป็นเรื่องง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น
จากผลการสำรวจล่าสุดจาก IDC โดย Lenovo เผยว่าผลตอบแทนจากการลงทุน (Return on investment) ยังคงเป็นอุปสรรคใหญ่ที่สุดในการนำ AI มาปรับใช้ในธุรกิจ แม้ว่าการลงทุนใน AI เพิ่มขึ้นถึงสามเท่าก็ตาม โดย AI Agents จะเข้ามาพลิกโฉมการทำงานในองค์กร ทั้งในแง่ของการช่วยแก้ปัญหาอันซับซ้อน การเขียนโค้ด ไปจนถึงวางแผนหลายขั้นตอน ให้ธุรกิจสามารถดำเนินงานได้เร็วขึ้น เพิ่มอัตราผลผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมลดอุปสรรคด้านผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) และตอบโจทย์ผู้นำธุรกิจที่ต้องการเห็นผลตอบแทนจากการลงทุนได้ชัดเจน ผ่านนวัตกรรมล้ำสมัยอย่างโซลูชัน Lenovo Hybrid AI ที่ผสานพอร์ตโฟลิโอ AI แบบครบวงจรของ Lenovo เข้ากับความสามารถในการปรับแต่ง Agentic AI ได้อย่างอิสระ บนแพลตฟอร์มการประมวลผลใหม่ล่าสุดอย่าง NVIDIA Blackwell Ultra, NVIDIA RTX PRO 6000 Blackwell Server Edition GPUs และนวัตกรรมเครือข่ายขั้นสูง ซึ่งช่วยให้องค์กรสามารถเร่งการพัฒนาแอพพลิเคชันต่าง ๆ ที่ใช้ AI เป็นตัวขับเคลื่อนทำงานได้อย่างเต็มศักยภาพ เช่น การวิเคราะห์ข้อมูล หรือการสร้างวิดิโอแบบเรียลไทม์
Yuanqing Yang, Chairman and CEO, Lenovo กล่าวว่า “ที่ Lenovo เรามุ่งมั่นขับเคลื่อนเทคโนโลยี AI อันชาญฉลาดสำหรับทุกคน โดยรวมเอาโมเดล AI, ฐานข้อมูล และขุมพลังการประมวลผล ที่ทำงานบนอุปกรณ์ Edge และ Cloud เชื่อมต่อผ่านเครือข่ายเพื่อมอบโซลูชัน AI ที่จะเข้ามาเสริมศักยภาพทั้งด้านนวัตกรรมและการทำงาน โดย Lenovo Hybrid AI ที่ร่วมกับ NVIDIA จะผสานบริการอันล้ำสมัยเข้ากับโครงสร้างพื้นฐาน Blackwell รุ่นใหม่ ช่วยให้องค์กรปรับขยาย Agentic AI ได้ทั้งรูปแบบส่วนตัวและสาธารณะได้ง่ายดายยิ่งขึ้น พร้อมมอบประโยชน์สำคัญในด้านต่าง ๆ ตั้งแต่ประสิทธิภาพ, ต้นทุน, ความคุ้มค่า, ความปลอดภัย, การเข้าถึง ไปจนถึงความสามารถที่ปรับให้เหมาะสมได้ตามความต้องการในแต่ละธุรกิจ”
Jensen Huang, Founder and CEO, NVIDIA กล่าวว่า “AI Agents ที่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างยืดหยุ่นนั้นจะเป็นตัวกำหนดการทำงานรูปแบบใหม่ในสังคม การร่วมมือของ NVIDIA และ Lenovo ในครั้งนี้ มุ่งมั่นในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญต่าง ๆ เพื่อขับเคลื่อนการอนุมานและวิเคราะห์ของเทคโนโลยี AI ในระดับที่ใหญ่ขึ้น โดยนำ Agentic AI จากการวิจัยมาพัฒนาไปสู่แอพพลิเคชันระดับองค์กรที่พร้อมใช้งานจริงในโลกธุรกิจ”
การขับเคลื่อนการทำงานยุคใหม่ด้วย Hybrid AI และ Agentic AI
ในปัจจุบันข้อมูลต่าง ๆ ถูกสร้างขึ้นในหลากหลายอุตสาหกรรม ตั้งแต่การผลิต การค้าปลึก ธนาคาร สาธารณสุข รวมถึงศูนย์ข้อมูลขององค์กรและแหล่งข้อมูลสาธารณะ โครงสร้างพื้นฐานแบบ Hybrid AI ช่วยในการรวบรวม จัดเก็บ และประมวลผลข้อมูลอย่างราบรื่น นอกจากนี้ยังสามารถใช้ฝึกโมเดล AI บนคลาวด์และรองรับการประมวลผลแบบเรียลไทม์ที่ Edge หรือบนอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้เช่นกัน ด้วยความเชี่ยวชาญด้าน Hybrid AI Lenovo ได้พัฒนาโซลูชัน Lenovo Hybrid AI Advantage ร่วมกับ NVIDIA ที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับขยายและใช้งาน Agentic AI ได้เต็มประสิทธิภาพ ผ่านแนวคิดแบบ Factory-Style AI ซึ่งจะเปลี่ยนข้อมูลจำนวนมหาศาลให้กลายเป็นข้อมูลเชิงลึกที่นำไปใช้ในการตัดสินใจได้จริง และยังช่วยสร้างข้อได้เปรียบเชิงธุรกิจที่สำคัญ
Agentic AI ที่ผ่านการทดสอบและตรวจสอบอย่างสมบูรณ์
ในงาน NVIDIA GTC Lenovo เปิดตัวผู้ช่วยดิจิทัลอย่าง Lenovo AI Knowledge Assistant ที่เสริมประสบการณ์เข้าร่วมงานให้กับผู้เข้าร่วมงานและทำหน้าที่สนทนากับผู้เข้าร่วมงานแบบเรียลไทม์ ซึ่งโซลูชันนี้ขับเคลื่อนด้วยแพลตฟอร์ม Lenovo Agentic AI ที่ช่วยให้องค์กรปรับแต่งการใช้งาน Lenovo AI Library ได้อย่างรวดเร็ว พร้อมช่วยให้ธุรกิจขยายระบบอัตโนมัติ เสริมประสิทธิภาพการทำงาน และเร่งกระบวนการตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งผสานกับ NVIDIA AI Enterprise ที่มาพร้อมเครื่องมือสำคัญ เซตโมเดล AI สำเร็จรูป และฟีเจอร์ปรับใช้อัตโนมัติ นอกจากนี้ยังมี Lenovo AI Services ที่ช่วยให้นำ AI ไปใช้งานได้อย่างราบรื่น พร้อมคำนึงถึงความปลอดภัย และการใช้งาน AI อย่างมีความรับผิดชอบ
แพลตฟอร์ม Hybrid AI Factory สำหรับองค์กร รองรับการเติบโตอย่างยั่งยืน
ในยุคที่การประมวลผล AI กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว Lenovo พร้อมเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้องค์กรสร้าง AI Factory ของตนเอง พร้อมขยายขีดจำกัดความสามารถ และดำเนินงานในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย เพื่อส่งมอบโซลูชัน AI อันทรงพลังและเชื่อถือได้ แพลตฟอร์ม Hybrid AI Factory ของ Lenovo ประกอบด้วยโครงสร้างพื้นฐานศูนย์ข้อมูลแบบครบวงจร ตั้งแต่ เวิร์กสเตชัน เซิร์ฟเวอร์ ระบบเครือข่าย พื้นที่เก็บข้อมูล ไปจนถึงโซลูชันจากพาร์ทเนอร์ โดยใช้ Lenovo Validated Designs ที่อ้างอิงตาม NVIDIA Enterprise Reference Architectures โดยมีเซิร์ฟเวอร์ ThinkSystem ที่ผ่านการรับรองจาก NVIDIA ขับเคลื่อนด้วย NVIDIA Hopper และ Blackwell GPUs, Grace CPUs, Spectrum-XNetworking และ BlueField DPUs
Ecosystem factory AI ของ Lenovo ประกอบไปด้วย:
- WorkStation Lenovo ThinkStation PX ที่รองรับ AI มาพร้อม NVIDIA RTX PRO 6000 Blackwell Workstation Edition และ NVIDIA AI Workbench สำหรับนักพัฒนาโดยเฉพาะ
• Lenovo Neptune เครื่องแม่ข่ายโครงสร้างพื้นฐาน AI ที่ใช้ระบบระบายความร้อนจากของเหลว (Liquid-Cooled) ซึ่งมีประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนการประมวลผล AI ขนาดใหญ่ระดับองค์กร ดีไซน์มาเพื่อผู้ให้บริการคลาวด์ที่ต้องจัดการเวิร์กโหลด LLM โดยใช้เทคโนโลยีเร่งการประมวลผลรุ่นใหม่จาก NVIDIA
บริการ Lenovo AI Fast Start ที่พัฒนาขึ้นมาสำหรับการติดตั้ง ปรับใช้งานแบบบูรณาการ และการขยายระบบ AI อย่างรวดเร็ว พร้อมเป็นตัวช่วยสนับสนุนให้องค์กรใช้งานกรณีศึกษา และพิสูจน์มูลค่าทางธุรกิจได้ภายใน 90 วัน
โลกแห่งอนาคตกับ Hybrid AI
Lenovo Hybrid AI Advantage ร่วมกับโซลูชัน NVIDIA จะช่วยให้องค์กรในหลากหลายอุตสาหกรรมปลดล็อกศักยภาพของข้อมูลได้จากทุกที่ และนำ AI มาปรับใช้เพื่อสร้างคุณค่าทางธุรกิจได้อย่างแท้จริง สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://www.lenovo.com/us/en/servers-storage/solutions/ai/