Authority & Harm
ตม.ระนองได้สนธิหน่วยงานมั่นคงในพื้นที่ รวบหนุ่มรัสเซียหนีหมายจับจากตปท.

ระนอง-ตม.ระนอง สนธิกำลังหน่วยงานมั่นคงในพื้นที่ รวบหนุ่มรัสเซียตามหมายจับต่างประเทศคาลานจอดรถห้างดัง
ด้วยเมื่อ วันนี้ (12 เม.ย.68) เวลาประมาณ 10.30 น. ฝ่ายสืบสวน ตม.จว.ระนอง ได้รับการประสานจาก จนท. ประจำจุดตรวจอันดามัน ว่า ตรวจพบ Mr.Verba Aleksandr วัน/เดือน/ปี/เกิด 18/06/1979 สัญชาติรัสเซีย ถือหนังสือเดินทางประเทศรัสเซีย เลขที่ 767765439 เป็นบุคคลมีข้อมูลหมายแจ้งตำรวจสากล ประเภทหมายแจ้ง หมายสีแดง แจ้งเตือนบุคคลที่มีหมายจับต่างประเทศ/ต้องการตัว รหัสหมายแจ้ง NOMTD.3034086.6819927 ประเภทเอกสารหนังสือเดินทาง หมายเลขเอกสาร 767765439 พิจารณาแล้วน่าเชื่อว่าจะเป็นบุคคลต้องห้ามเข้ามาในราชอาณาจักรตามมาตรา 12(7) แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง 2522 “มีพฤติการณ์น่าเชื่อว่าเป็นบุคคลที่เป็นภัยต่อสังคม ฯ หรือบุคคลที่เจ้าหน้าที่รัฐบาลต่างประเทศได้ออกหมายจับ” และบุคคลต่างด้าวน่าจะรู้ตัวว่าตนเองมีหมายจับติดตัวและเป็นบุคคลมีลักษณะต้องห้ามเข้ามาในราชอาณาจักรไทย จึงหลบหนีออกไปจากช่องตรวจไม่เข้ามารายงานตัวต่อพนักเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองประจำช่องตรวจ จึงแจ้งข้อมูลให้งานสืบสวน ตม.จว.ระนอง ออกสืบสวนติดตามตัวมาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
งานสืบสวน ตม.จว.ระนอง ประสานข้อมูล ส.ทท.กก.2 บก.ทท.3, กก.สืบสวนภ.จว.ระนอง, สภ.เมืองระนอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ให้เฝ้าระวังบุคคลดังกล่าว และออกติดตามสืบสวน กระทั่งเวลาประมาณ 16.00 น. เจ้าหน้าที่ แจ้งว่าพบบุคคลมีลักษณะตรงตามที่ ตม.จว.ระนอง แจ้งประสานข้อมูลไว้กำลังเดินอยู่บริเวณลานจอดรถห้างบิ๊กซี สาขาระนอง จึงได้เชิญตัวบุคคลดังกล่าวมาสืบสวน สอบสวน ที่ ตม.จว.ระนอง ซึ่งจาการตรวจสอบพบว่าบุคคลดังกล่าว ชื่อ Mr.Verba Alexsandr วัน/เดือน/ปีเกิด 18/06/1979 สัญชาติรัสเซีย ถือหนังสือเดินทางประเทศรัสเซีย เลขที่ 767765439 ครั้งหลังสุดเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรทาง ด่าน ตม.จว.ระนอง (จุดตรวจอันดามัน) เมื่อวันที่ 13 ก.พ.68 ได้รับการตรวจลงตราประเภท ผ-60 (ม.17) ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรถึง วันที่ 14 เม.ย.68 และเป็นบุคคลตามข้อมูลแจ้งเตือนจากระบบสารสนเทศ สตม. เป็นบุคคลเดียวกันกับบุคคลตามข้อมูลหมายแจ้งตำรวจสากล ประเภทหมายแจ้ง หมายสีแดง แจ้งเตือนบุคคลที่มีหมายจับต่างประเทศ/ต้องการตัว รหัสหมายแจ้ง NOMTD.3034086.6819927 ประเภทเอกสาร
หนังสือเดินทาง หมายเลขเอกสาร 767765439 จริง
ข้อกฎหมาย ระเบียบที่เกี่ยวข้อง
1. ตามมาตรา 12(7) แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง 2522 “มีพฤติการณ์น่าเชื่อว่าเป็นบุคคลที่เป็นภัยต่อสังคม และอาจจะก่อเหตุร้ายให้เกิดอันตรายต่อความสงบสุขหรือความปลอดภัยของประชาชน หรือความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร หรือบุคคลที่เจ้าหน้าที่รัฐบาลต่างประเทศได้ออกหมายจับ”
2. มาตรา 54 (วรรค 2) แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง 2522 “กรณีต้องสอบสวนเพื่อส่งตัวกลับตามวรรคหนึ่ง ให้นำมาตรา 19 และ มาตรา 20 มาบังคับใช้โดยอนุโลม”
3. มาตรา 19 “ในการตรวจและพิจารณาว่าคนต่างด้าวผู้ใดต้องห้ามมิให้เข้ามาในราชอาณาจักรหรือไม่ พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจ พิจารณาอนุญาตให้คนต่างด้าวผู้นั้นไป ณ ที่ใดที่เห็นสมควร โดยให้คำรับรองว่าจะมาพบพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อรับทราบคำสั่งตามวันเวลาและสถานที่ที่กำหนดก็ได้ หรือถ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ เห็นสมควรจะเรียกประกันหรือเรียกทั้งประกันและหลักประกันก็ได้ หรือพนักงานเจ้าหน้าที่จะกักตัวผู้นั้นไว้ ณ ที่ใด ตามที่เห็นเหมาะสมเพื่อดำเนินการตามพระราชบัญญัตินี้ก็ได้”4. มาตรา 20 “ในการที่พนักงานเจ้าหน้าที่กักตัวคนต่างด้าวผู้ใดไว้ตามมาตรา 19 ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจกักตัวคนต่างด้าวผู้นั้นได้เท่าที่จำเป็นตามพฤติการณ์แห่งกรณี แต่ห้ามมีให้กักตัวไว้เกิน 48 ชั่วโมง นับแต่เวลาที่ผู้ถูกกักตัวมาถึงที่ทำการของพนักงานเจ้าหน้าที่ ในกรณีที่มีเหตุจำเป็นจะยืดเวลาเกิน 48 ชั่วโมงก็ได้ แต่ไม่ให้เกินเจ็ดวันและพนักงานเจ้าหน้าที่บันทึกเหตุจำเป็นที่ต้องยืดเวลาให้ปรากฏด้วย
ในกรณีมีเหตุจำเป็นต้องกักตัวคนต่างด้าวไว้เกินกำหนดเวลาตามวรรคหนึ่งให้พนักงานเจ้าหน้าที่ยื่นคำร้องต่อศาลขอให้มีอำนาจกักตัวคนต่างด้าวนั้นไว้ต่อไปได้อีกและศาลอาจสั่งให้มีอำนาจกักตัวไว้เท่าที่จำเป็นครั้งละไม่เกิน 12 วันแต่ถ้าศาลเห็นควรสั่งให้ปล่อยตัวไปชั่วคราวหรือเรียกประกันหรือเรียกทั้งประกันและหลักประกันก็ได้”
ดังนั้น งานสืบสวน ฯ พิจารณาแล้วน่าเชื่อว่า Mr.Verba Aleksandr วัน/เดือน/ปีเกิด 18/06/1979 สัญชาติรัสเซีย ถือหนังสือเดินทางประเทศรัสเซีย เลขที่ 767765439 เป็นบุคคลต้องห้ามเข้ามาในราชอาณาจักรตามมาตรา 12(7) แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง 2522 “มีพฤติการณ์น่าเชื่อว่าเป็นบุคคลที่เป็นภัยต่อสังคม ฯ หรือบุคคลที่เจ้าหน้าที่รัฐบาลต่างประเทศได้ออกหมายจับ” เนื่องจากอยู่ระหว่างการประสานข้อมูลรายละเอียดกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเชื่อว่าหากไม่ควบคุมตัวไว้บุคคลดังกล่าวมีพฤติการณ์หลบหนี ไม่มารายงานตัวกับพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกำหนดนัด ดังนั้นในระหว่างการสอบสวนเพื่อเพิกถอนการอนุญาตและส่งตัวบุคคลต่างด้าวดังกล่าวกลับออกไปนอกราชอาณาจักร จึงแจ้งให้คนต่างด้าวพักอาศัยอยู่ที่อาคารควบคุมผู้ต้องกัก ตม.จว.ระนอง และได้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป