In Global
‘อาเซียน–จีน’จับมือ เร่งเชื่อมเศรษฐกิจ เปิดเกมรุกฝ่าวิกฤตการค้าโลก

เซี่ยงไฮ้, 25 เม.ย. (ซินหัว) – ท่ามกลางความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้นของการค้าโลก ผู้เชี่ยวชาญจากมาเลเซียและจีนได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างอาเซียนกับจีนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยในเวทีสัมมนาอาเซียน-จีน ที่จัดขึ้นล่าสุด ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ผู้เข้าร่วมจากหลากหลายภาคส่วนต่างเห็นพ้องถึงศักยภาพของการใช้ประโยชน์จากตลาดขนาดใหญ่ร่วมกัน เพื่อขับเคลื่อนการบูรณาการระดับภูมิภาค และต่อต้านกระแสการกีดกันทางการค้าที่กำลังเพิ่มขึ้น
โลว์ เคียน ชวน (Low Kian Chuan) ประธานสภาธุรกิจมาเลเซีย–จีน (Malaysia China Business Council) กล่าวว่าการที่มาเลเซียดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนในปีนี้ ถือเป็นโอกาสสำคัญในการผลักดันความร่วมมือเพื่อบูรณาการภูมิภาคและการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยเขาระบุว่าการลงนามความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน-จีน (ACFTA) ฉบับที่ 3.0 จะเป็นหนึ่งในวาระหลักของปีนี้ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจและขยายความร่วมมือในหลายมิติ
นับตั้งแต่การเปิดตัวเขตการค้าเสรีอาเซียน-จีน ฉบับแรกในปี 2010 ความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุนระหว่างทั้งสองฝ่ายก็เติบโตอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของกันและกันต่อเนื่องถึง 5 ปีติดต่อกัน แม้จะเผชิญกับแรงกดดันจากภาวะการค้าโลก แต่ในไตรมาสแรกของปี 2025 มูลค่าการค้าระหว่างจีนกับอาเซียนยังเติบโตขึ้นถึง 7.1%
วอง ชุน ไว (Wong Chun Wai) ประธานสำนักข่าวแห่งชาติมาเลเซีย (Malaysian National News Agency) เน้นย้ำถึงความสำคัญของการเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างอาเซียนกับจีน ด้วยการรวมทรัพยากรเพื่อสร้างตลาดขนาดใหญ่และพัฒนาโซ่อุปทานในระดับภูมิภาค เขาเชื่อว่าความร่วมมือนี้จะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ ท่ามกลางแนวโน้มของภาคธุรกิจทั่วโลกที่เริ่มลดการพึ่งพาตลาดเดียว
โลว์ ยังกล่าวถึงโอกาสความร่วมมือในอนาคตที่น่าจับตา เช่น การพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เศรษฐกิจดิจิทัลและเศรษฐกิจสีเขียว รวมถึงการปรับโครงสร้างห่วงโซ่มูลค่าโลก โดยเขาเน้นว่าการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างจริงจัง จะเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างการเติบโตที่ทั่วถึงและยั่งยืนในภูมิภาค
ลี บุน ไช (Lee Boon Chye) ประธานบริษัท ไบโออีโคโนมี คอร์ปอเรชัน (Bioeconomy Corporation) และที่ปรึกษาศูนย์ศึกษายุทธศาสตร์ภูมิภาค (Centre of Regional Strategic Studies – CROSS) ประเทศมาเลเซีย เรียกร้องให้ประเทศในอาเซียนใช้โอกาสในการเข้าถึงศักยภาพของจีนในด้าน AI พร้อมแนะนำให้ขยายความร่วมมือด้านการวิจัยร่วมกัน นอกจากนี้ยังเสนอให้มีการขยายข้อตกลงภาษีศูนย์เปอร์เซ็นต์ให้กว้างขึ้น และเพิ่มความร่วมมือในระบบห่วงโซ่อุปทาน เพื่อส่งเสริมการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
อุตสาหกรรมใหม่ของจีน โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้า แบตเตอรี่ลิเทียม และพลังงานแสงอาทิตย์ กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วในภูมิภาคอาเซียน โดยบริษัทชั้นนำอย่างบีวายดี (BYD) และ จี๋ลี่ (Geely) ได้ตั้งฐานการผลิตในประเทศไทย มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ซึ่งช่วยยกระดับขีดความสามารถของอุตสาหกรรมในท้องถิ่น
ในเวทีเดียวกันนี้ ยังมีการเปิดเผยรายงานวิจัยร่วมระหว่างสำนักงานบริการข้อมูลข่าวสารเศรษฐกิจจีน (CEIS) และสำนักข่าวซินหัว ที่ชี้ให้เห็นว่าตลาดขนาดใหญ่ของจีนและอาเซียน ซึ่งมีประชากรรวมกันกว่า 2 พันล้านคน จะสามารถเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการเติบโตอย่างยั่งยืนของภูมิภาค และเป็นเกราะป้องกันแนวโน้มการกีดกันทางการค้าในระดับโลก โดยการลงนามความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน-จีน (ACFTA) ฉบับที่ 3.0 ที่กำลังจะเกิดขึ้น คาดว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่แห่งความร่วมมือที่มีมาตรฐานสูงขึ้น เชื่อมโยงแน่นแฟ้นขึ้น และครอบคลุมยิ่งขึ้นระหว่างอาเซียนและจีน
(เนื้อหาโดย Gao Pan, เรียบเรียงโดย Yu Huichen, Xinhua Silk Road, https://www.xinhuathai.com/silkroad/511278_20250425 , https://en.imsilkroad.com/p/345270.html)