Digitel Tech & AI
BCI: IdentityXคว้าชัยETDA Hackathonมุ่งยกระดับDigital IDไทย

กรุงเทพฯ-26 เมษายน 2568 – สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ประกาศผลสุดยอดนวัตกรรมจากเวที “ETDA Hackathon: Unlocking the Future of Digital ID” โจทย์แรก “e-Juristic Person Transaction” ณ House Samyan สามย่านมิตรทาวน์
หลังการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศอย่างเข้มข้น โดย ทีม BCI: IdentityX เจ้าของโซลูชัน VerifyX แพลตฟอร์มสำหรับ e-Juristic Transaction การทำธุรกรรมของนิติบุคคลแบบอิเล็กทรอนิกส์ ครอบคลุมการทำธุรกรรมนิติบุคคล ด้วยฟีเจอร์สำคัญ e-Juristic KYC, e-POA, d-Signature, e-Document Tracing โดยเน้นการยกระดับการออกหนังสือยืนยันยอดธนาคารอิเล็กทรอนิกส์ และ โซลูชันการรับรองงบการเงินด้วย d-Signing ชนะใจกรรมการ คว้ารางวัลชนะเลิศ รับเงินรางวัล 100,000 บาท พร้อมโอกาสต่อยอดโซลูชัน Digital ID สำหรับนิติบุคคลสู่การใช้งานจริง!
คุณจิตสถา ศรีประเสริฐสุข รองผู้อำนวยการ ETDA กล่าวว่า ETDA ขอแสดงความยินดีกับทั้ง 10 ทีมที่ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายของการแข่งขัน ETDA Hackathon: Unlocking the Future of Digital ID เวทีที่เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้แสดงความสามารถและสร้างสรรค์ไอเดีย ที่จะช่วยให้ Digital ID กลายเป็นเรื่องที่ทุกคนเข้าถึงได้จริง โดยเฉพาะในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในทุกภาคส่วนของสังคม ซึ่งหลังจากที่แต่ละทีมได้ผ่านกิจกรรมต่างๆ อย่างเข้มข้น จนก้าวสู่การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ กับโจทย์การแข่งขันครั้งที่ 1 กับหัวข้อที่ท้าทายและสำคัญมากต่ออนาคตของเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ นั่นคือหัวข้อ “e-Juristic Person Transaction” หรือการทำธุรกรรมของนิติบุคคลในรูปแบบดิจิทัล เพราะในยุคที่โลกหมุนเร็ว การทำธุรกรรมของภาคธุรกิจและองค์กรก็ต้อง ทันสมัย ปลอดภัย และตรวจสอบได้ การใช้ Digital ID สำหรับนิติบุคคลจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะช่วยให้การดำเนินงานเป็นไปได้อย่าง รวดเร็ว เชื่อถือได้ และลดความเสี่ยงจากการปลอมแปลงหรือฉ้อโกง เป้าหมายนี้สอดคล้องกับแผนการขับเคลื่อน Digital ID ระยะที่ 2 (พ.ศ. 2568–2570) ที่ ETDA มุ่งพัฒนาเพื่อให้ประเทศไทยมีระบบที่รองรับการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัลของนิติบุคคลได้อย่างน่าเชื่อถือ
สำหรับโจทย์ e-Juristic Person Transaction นี้ เราเปิดพื้นที่ให้เหล่านักพัฒนาและผู้มีใจรักนวัตกรรม ได้ออกแบบโซลูชันที่ตอบโจทย์หลากหลายด้านทั้ง ใช้งานได้จริง สอดคล้องกับกฎหมาย เชื่อมต่อกับระบบเดิมได้ และสามารถต่อยอดในอนาคตสู่การใช้งานได้จริง เพราะสิ่งที่เรามองหา ไม่ใช่แค่เทคโนโลยีล้ำสมัย แต่คือโซลูชันที่ตอบโจทย์และช่วยวางรากฐานให้กับ สภาพแวดล้อมดิจิทัลที่โปร่งใส มีธรรมาภิบาล และสร้างความมั่นใจให้กับทุกฝ่าย
โดยเส้นทางการแข่งขันสำหรับโจทย์ที่ 1 นี้ เริ่มตั้งแต่เปิดรับสมัคร มีทีมสนใจเข้าร่วมจำนวนมาก ก่อนจะผ่านการคัดเลือกอย่างเข้มข้นจนเหลือ 10 ทีมสุดท้าย ได้แก่ 1.ทีม ATTRA CARD 2.ทีม BCI: IdentityX 3.ทีม BOL 4.ทีม DeepPocket 5.ทีม Creden 6.ทีม EazyLaw 7.ทีม Finema Co. Ltd. 8.ทีม ID Pivot 9.ทีม InDistinct และ 10.ทีม TDID ที่ได้เข้าร่วมกิจกรรม Workshop และ Mentoring เพื่อลับคมไอเดียและเตรียมความพร้อมกับผู้เชี่ยวชาญจาก ETDA และพันธมิตร ก่อนเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศในวันนี้ (26 เมษายน 2568) ซึ่งทั้ง 10 ทีมได้นำเสนอผลงาน (Pitching) ต่อหน้าคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งเป็นการผนึกกำลังจากหน่วยงานชั้นนำทั้งภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง อาทิ ผู้บริหารจาก ETDA, กรมสรรพากร, สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA), สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) และ บริษัท เทคซอส มีเดีย สะท้อนถึงการบูรณาการมุมมองเพื่อเฟ้นหาสุดยอดนวัตกรรมอย่างแท้จริง
หลังจากการพิจารณาอย่างเข้มข้น จากแนวคิดโซลูชันที่หลากหลายที่มุ่งมั่นสร้างสรรเพื่อตอบโจทย์ภาคธุรกิจ ตั้งแต่การลดความยุ่งยากซับซ้อนของเอกสาร การยืนยันตัวตนผู้มีอำนาจลงนาม ไปจนถึงการสร้างความเชื่อมั่นในการทำสัญญาระหว่างองค์กร ในที่สุดผลการแข่งขัน ETDA Hackathon: Unlocking the Future of Digital ID โจทย์ที่ 1 “e-Juristic Person Transaction” ก็ได้ทีมผู้ชนะคว้ารางวัลชนะเลิศ คือ ทีม BCI: IdentityX กับผลงาน VerifyX แพลตฟอร์มสำหรับ e-Juristic Transaction การทำธุรกรรมของนิติบุคคลแบบอิเล็กทรอนิกส์ ครอบคลุมการทำธุรกรรมนิติบุคคล โดยเน้นยกระดับการออกหนังสือรับรองทางการเงินอิเล็กทรอนิกส์ คว้าเงินรางวัล 100,000 บาท และประกาศนียบัตรจาก ETDA ตามมาด้วยรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 คือ ทีม TDID กับผลงานแพลตฟอร์ม TrustBiz ช่วยพัฒนาให้การใช้เอกสารอิเล็กทรอนิกส์ เชื่อถือได้ ใช้งานได้จริง เป็น Solution การลงลายมือชื่อดิจิทัลสำหรับนิติบุคคล ได้รับเงินรางวัล 50,000 บาท และประกาศนียบัตรจาก ETDA และรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 คือ ทีม Creden จากผลงานแพลตฟอร์ม e-Transaction ครบวงจรตั้งแต่ e-Signature, e-KYC, e-Stamp duty ไปจนถึง e-KYB เพื่อช่วยให้นิติบุคคลยืนยันตัวตนและทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างปลอดภัย รวดเร็ว โปร่งใส และตรวจสอบได้ ได้รับเงินรางวัล 30,000 บาท และประกาศนียบัตรจาก ETDA นอกจากนี้ ทุกทีมที่ได้รับรางวัลยังมีโอกาสในการต่อยอดนวัตกรรมสู่การใช้งานจริงร่วมกับ ETDA และพาร์ทเนอร์ทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงโอกาสในการนำเสนอผลงานบนเวที Tech Showcase Stage ในงาน Techsauce Global Summit 2025 อีกด้วย
“ในฐานะที่ ETDA เป็นหน่วยงาน Co-Creation Regulator ที่มุ่งส่งเสริมและร่วมสร้างนิเวศน์ที่เอื้อต่อการใช้งาน Digital ID เชื่อมั่นว่าพลังของความร่วมมือและไอเดียจากเวทีนี้ จะช่วยผลักดันให้ประเทศไทยมีกลไกรองรับการทำธุรกรรมของนิติบุคคลที่ทันสมัย เชื่อถือได้ และใช้งานได้จริงด้วย Digital ID โดยผลลัพธ์ที่ได้จากการแข่งขัน จะเป็นก้าวสำคัญในการสร้างอนาคตที่ชัดเจนของการผลักดันให้เกิดการใช้งาน Digital ID ในวงกว้าง ยกระดับโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัล และเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของประเทศอย่างเป็นรูปธรรม โดย ETDA พร้อมเดินหน้าร่วมกับทุกภาคส่วน เพื่อเร่งขับเคลื่อนให้เกิดการผลักดัน Digital ID อย่างเป็นรูปธรรมต่อไป” คุณจิตสถา ศรีประเสริฐสุข กล่าวทิ้งท้าย
อย่างไรก็ตาม การเดินทางของ ETDA Hackathon: Unlocking the Future of Digital ID ยังไม่จบเพียงเท่านี้ เตรียมพบกับการแข่งขันสุดเข้มข้นในโจทย์ที่ 2 “Digital ID for Foreigners” ที่มุ่งเน้นการพัฒนาแนวทางการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัลสำหรับคนต่างด้าวในประเทศไทยกันต่อ ติดตามรายละเอียดและความเคลื่อนไหวเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์ www.etda.or.th หรือเฟซบุ๊ก ETDA Thailand (www.facebook.com/ETDA.Thailand)