Travel Soft Power & Sport
'ไวน์ คอนเนคชั่น'รับยกย่องในความมุ่งมั่น ตั้งเป้าใช้ไข่ไก่Cage-Free100%

“ไวน์ คอนเนคชั่น” ได้รับการยกย่องในความมุ่งมั่นตั้งเป้าหมายใช้ไข่ไก่จากฟาร์มเลี้ยงแบบไม่ใช้กรง หรือ Cage-Free 100% ครอบคลุมร้านทั่วไทย ภายในปี 2028
กรุงเทพฯ – ไวน์ คอนเนคชั่น (Wine Connection) ผู้นำเครือข่ายร้านไวน์และร้านอาหารธีมไวน์ชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้รับการชื่นชมจาก Lever Foundation องค์กร NGO ระดับนานาชาติ สำหรับการตั้งเป้าหมายเปลี่ยนมาใช้ไข่ไก่จากฟาร์มเลี้ยงแบบไม่ใช้กรง หรือ Cage-Free 100% ในประเทศไทยภายในปี 2028 โดยเป้าหมายดังกล่าวจะครอบคลุมการดำเนินงานทั้งหมดในประเทศไทย ซึ่งรวมถึงร้านค้าและร้านอาหารในเครือ 81 สาขา ประกอบด้วยร้านไวน์ 46 สาขา และร้านเดลี่ ทาปาสบาร์ และบิสโทรอีก 35 สาขา
เชฟมาร์โก อัลบาโน (Chef Marco Albano) หัวหน้าฝ่ายการทำอาหาร ไวน์ คอนเนคชั่น ประจำประเทศไทย “เรามุ่งมั่นที่จะยกระดับคุณภาพและความยั่งยืนในการจัดหาอาหาร จึงตั้งเป้าหมายภายในปี 2028 เราจะเปลี่ยนใช้ไข่ไก่จากฟาร์มเลี้ยงแบบไม่ใช้กรง หรือ Cage-Free 100% ทั้งในรูปแบบไข่เปลือกและไข่เหลวในทุกกระบวนการดำเนินงาน ความตั้งใจนี้ไม่เพียงช่วยส่งเสริมสวัสดิภาพสัตว์ แต่ยังตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคที่ใส่ใจเรื่องจริยธรรมและการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนมากยิ่งขึ้น”
คุณภูฬิฏา ศยาวรานน ผู้จัดการโครงการด้านความยั่งยืนของ Lever Foundation ซึ่งได้ร่วมงานกับไวน์ คอนเนคชั่นในโครงการนี้ เผยว่า “ความมุ่งมั่นที่ยอดเยี่ยมของไวน์ คอนเนคชั่นในการเปลี่ยนมาใช้ไข่ไก่จากฟาร์มเลี้ยงแบบไม่ใช้กรง หรือ Cage-Free 100% ถือเป็นก้าวสำคัญที่แสดงถึงความใส่ใจทั้งต่อผู้บริโภคและความยั่งยืน พร้อมทั้งเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับบริษัทในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม (Food and Beverage) อื่น ๆ การใช้ไข่ไก่จากฟาร์มเลี้ยงแบบไม่ใช้กรงช่วยยกระดับสวัสดิภาพสัตว์อย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้งยังช่วยให้ผู้บริโภคได้รับผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยและมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น ความมุ่งมั่นในครั้งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของกระแสความยั่งยืนที่เพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม (Food and Beverage) ทั่วทั้งเอเชีย”
การผลิตไข่ไก่จากฟาร์มเลี้ยงแบบไม่ใช้กรง ซึ่งเปิดโอกาสให้ไก่ไข่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระในสภาพแวดล้อมแบบเปิด ช่วยยกระดับมาตรฐานสวัสดิภาพสัตว์และลดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยทางอาหารได้อย่างมีนัยสำคัญ เมื่อเทียบกับระบบการผลิตไข่ในกรง จากการวิจัยของหน่วยงานความปลอดภัยทางอาหารแห่งสหภาพยุโรป (European Food Safety Authority) พบว่า ฟาร์มไข่ไก่ที่เลี้ยงแบบไม่ใช้กรงมีอัตราการปนเปื้อนของเชื้อซัลโมเนลลาสายพันธุ์สำคัญต่ำกว่าฟาร์มที่ใช้ระบบกรงถึง 25 เท่า ซึ่งนำไปสู่การแนะนำโดยหน่วยงานดังกล่าวให้สนับสนุนการผลิตไข่ไก่แบบไม่ใช้กรงเท่านั้น ทั้งนี้ ผู้บริโภคจำนวนมากยังได้เลือกหลีกเลี่ยงการบริโภคไข่ไก่จากกรง เพื่อสนับสนุนสวัสดิภาพของไก่ไข่