In Global

จีนพิทักษ์ความเป็นธรรม/ความเท่าเทียม ท่ามกลางสถานการณ์ระหว่างประเทศที่วุ่นวาย



นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนเยือนเวียดนาม มาเลเซีย และกัมพูชาอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 14 - 18 เมษายน ในการเยือนครั้งนี้ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงได้แสดงจุดยืนในหลักการที่ชัดเจนว่า จีนในฐานะประเทศใหญ่ มุ่งมั่นรักษาการค้าเสรี ต่อต้านการกลั่นแกล้งการกระทำเพียงลำพังฝ่ายเดียว และจะสร้างประชาคมมนุษย์ที่มีอนาคตร่วมกัน จุดยืนดังกล่าวของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ซึ่งเน้นถึงความรับผิดชอบและผลประโยชน์ร่วมกัน ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากประเทศต่างๆ ในภูมิภาค และทำให้เกิดความเชื่อมั่นในการส่งเสริมความสามัคคีและความร่วมมือระหว่างประเทศต่างๆ  มากขึ้น

สงครามการค้าและสงครามภาษีศุลกากรทำลายผลประโยชน์อันชอบธรรมของประเทศต่างๆ ทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศกำลังพัฒนา นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซียกล่าวในระหว่างประธานาธิบดีสี จิ้นผิงเยือนมาเลเซียว่า สิ่งที่เรากำลังเห็นอยู่ในปัจจุบันไม่ใช่การประเมินความไม่สมบูรณ์ของโลกาภิวัตน์อย่างตรงไปตรงมา แต่เป็นการถอยกลับไปสู่ลัทธิชนเผ่าทางเศรษฐกิจ คำพูดดังกล่าวของนายกรัฐมนตรีมาเลเซียสะท้อนถึงความคิดเห็นร่วมกันของประชาคมโลกในขณะนี้

ในช่วงเวลาที่ประเทศต่างๆ กำลังแสวงหาเสถียรภาพและความแน่นอน พร้อมทั้งปฏิเสธการกลั่นแกล้งโดยลำพังฝ่ายเดียว และกฎแห่งป่า การเยือนสามประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของประธานาธิบดี สี จิ้นผิงได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนถึงความมุ่งมั่นอันแน่วแน่ของจีนในการรักษาความเป็นพหุภาคีและระบบการค้าระหว่างประเทศตามกฎเกณฑ์  

นับวันจีนจึงได้รับการชื่นชมจากประชาคมโลกมากขึ้นว่า เป็นผู้สนับสนุนการค้าเสรีอย่างแข็งขัน และเป็นผู้ปกป้องผลประโยชน์ร่วมกันของประเทศกำลังพัฒนา รวมทั้งเป็นพลังขับเคลื่อนความร่วมมือในภูมิภาค

ท่ามกลางสถานการณ์ระหว่างประเทศที่ซับซ้อนวุ่นวาย จีนยังคงเป็นหุ้นส่วนที่ แข็งแกร่ง และเชื่อถือได้ของประเทศต่างๆ ทั่วโลกเสมอ 

ในระหว่างเยือนเวียดนาม ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงเน้นย้ำว่า ทั้งจีนและเวียดนามต่างได้ประโยชน์จากโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจ ทั้งสองฝ่ายต้องเสริมสร้างความมุ่งมั่นทางยุทธศาสตร์ ร่วมกันต่อต้านลัทธิเอกภาคีและการกลั่นแกล้ง และทำงานร่วมกัน เพื่อรักษาระบบการค้าเสรีของโลก และเสถียรภาพของห่วงโซ่อุตสาหกรรมและห่วงโซ่อุปทาน

ในมาเลเซีย ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงเรียกร้องให้มีการเปิดกว้าง การรวมตัว ความสามัคคีและความร่วมมือ เพื่อต่อต้านการแยกห่วงโซ่อุปทาน กลยุทธ์ "สนามเล็ก รั้วสูง" (small yard, high fence) และการจัดเก็บภาษีศุลกากรในทางที่ผิด ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงยังเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ในภูมิภาคร่วมกันเชิดชูส่งเสริมค่านิยมแห่งเอเชีย ได้แก่ สันติภาพ ความร่วมมือ การเปิดกว้างและการรวมตัวเป็นหนึ่งเดียว เพื่อต่อต้านกฎแห่งป่าที่ยอมให้ผู้แข็งแกร่งล่าเหยื่อผู้ที่อ่อนแอกว่า นอกจากนี้ ยังต้องเสริมสร้างเสถียรภาพและความแน่นอนแห่งเอเชีย เพื่อรับมือกับปัญหาที่ทำให้เกิดความไม่มั่นคงและไม่แน่นอนในทั่วโลก จุดยืนดังกล่าวของประธานาธิบดีสี จิ้นผิงได้ชี้แนวทางที่ถูกต้องในการเดินหน้าท่ามกลางความขัดแย้งและความไม่แน่นอนของสถานการณ์โลกในปัจจุบัน

ในการเยือนกัมพูชา ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กล่าวว่า จีนและกัมพูชา เป็นพลังสำคัญในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา ต้องยึดมั่นในค่านิยมร่วมกันแห่งสันติภาพ ความสามัคคี และความร่วมมือ เขายังเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายร่วมต่อต้านการกลั่นแกล้งโดยลำพังฝ่ายเดียว และปฏิบัติตามหลักพหุภาคีอย่างแท้จริง

ข้อเสนอดังกล่าวของจีนสอดคล้องกับกระแสหลักของยุคสมัย และความปรารถนาร่วมกันของประเทศต่างๆ จึงไม่เพียงถูกมองว่าเป็นแหล่งที่มาของเสถียรภาพเท่านั้น แต่ยังเป็นแบบแผนความร่วมมือและการพัฒนาในระยะยาวอีกด้วย

ลัทธิเอกภาคีและการดำรงสถานะความเป็นเจ้าโลกนั้นไม่ได้รับการสนับสนุนจากชาวโลก และไม่มีประเทศใดต้องการกลับไปสู่ความโดดเดี่ยวอีก

เวียดนามกล่าวว่า พร้อมที่จะเสริมสร้างการประสานงานและความร่วมมือกับจีน พร้อมทั้งจะยึดมั่นในความเป็นพหุภาคีและหลัก 5 ประการแห่งการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ และพิทักษ์กฎเกณฑ์การค้าระหว่างประเทศ  

มาเลเซียระบุว่า มาเลเซียให้ความสำคัญกับความมั่นคงแน่นอนของจีน และจะรักษามิตรภาพที่มั่นคงและมีหลักการกับจีน นอกจากนี้ มาเลเซียยังระบุว่า อาเซียนจะไม่ยอมรับภาษีศุลกากรใดๆ ที่เรียกเก็บโดยลำพังฝ่ายเดียว พร้อมทั้งจะส่งเสริมความก้าวหน้าร่วมกันผ่านความร่วมมือ เพื่อรักษาการเติบโตทางเศรษฐกิจ

กัมพูชากล่าวว่า ยินดีที่จะเสริมสร้างการประสานงานและความร่วมมือกับจีน เพื่อปกป้องผลประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองฝ่าย 

เสียงที่เห็นพ้องต้องกันและฉันทามติที่เพิ่มมากขึ้นเหล่านี้ สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นร่วมกันในการปกป้องความร่วมมือในภูมิภาคและรักษาความเป็นธรรมและความเท่าเทียมในระดับโลกท่ามกลางสถานการณ์ที่ส่งผลกระทบทางลบที่เพิ่มมากขึ้นจากนอกภูมิภาค

ท่ามกลางความท้าทายระดับโลก จีนยังคงเป็นหุ้นส่วนและผู้ช่วยเหลือประเทศต่างๆ ทั่วโลก ทั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบของประเทศใหญ่ที่มุ่งมั่นเพื่อผลประโยชน์และชัยชนะร่วมกัน ท่ามกลางการกีดกันทางการค้าที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น จีนจะยังคงขยายการเปิดกว้างในระดับสูง และทำงานอย่างใกล้ชิดกับทุกประเทศ โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อส่งเสริมการพัฒนาให้ทันสมัย