In Bangkok

กทม.ตั้งมั่นค้นหาผู้สูญหายวินาทีสุดท้าย กู้ภัยพร้อมK9ค้นทวนซากอาคารสตง.



กรุงเทพฯ-ตั้งมั่นค้นหาผู้สูญหายจนวินาทีสุดท้าย กู้ภัยพร้อม K9 ค้นทวนซากอาคาร สตง. ก่อนปิดภารกิจ 13 พ.ค. นี้

(12 พ.ค. 68) รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย พญ.วันทนีย์ วัฒนะ ปลัดกรุงเทพมหานคร ผู้อำนวยการเขตจตุจักร ผู้บริหารสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เจ้าหน้าที่และสุนัข K9 จากกรมการสัตว์ทหารบก นำสื่อมวลชนลงพื้นที่สังเกตการปฏิบัติการค้นหาชิ้นส่วนผู้สูญหาย ณ บริเวณด้านหลังศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ถนนกำแพงเพชร เขตจตุจักร ซึ่งเป็นจุดทิ้งซากอาคาร สตง. 

นายภุชพงศ์ สัญญโชติ ผู้อำนวยการกองปฏิบัติการดับเพลิงและกู้ภัย 3 กล่าวว่า ภาพรวมการปฏิบัติงานกู้ภัย เราจะมีการเก็บข้อมูลของผู้สูญหายจากการสอบปากคำญาติและผู้เกี่ยวข้องและแหล่งข้อมูลต่าง ๆ เมื่อวิเคราะห์แล้วเราจึงพุ่งเป้าการค้นหาไปที่ช่วงบันไดที่คาดว่าจะมีผู้สูญหายรวมกันอยู่เยอะที่สุด แต่เป็นเรื่องยากที่จะมีผู้รอดชีวิตเพราะการถล่มของตัวอาคารทับซ้อนกันเป็นชั้นแพนเค้กทำให้มีช่องว่างน้อยมากซึ่งยืนยันได้จากการกู้ซากค้นหาตลอดเวลาที่ผ่านมา

นายภุชพงศ์ กล่าวต่อไปว่า แต่ความท้าทายที่ยากยิ่งกว่านั้นคือการนำร่างผู้เสียชีวิตออกจากซากอาคาร เนื่องจากความสูงของอาคารในวันเกิดเหตุสูงถึง 137 เมตร หลังการถล่มกลายเป็นกองซากอัดแน่นเหลือ 26.8 เมตร เป็นงานที่ยากมากในการค้นหาแต่เราก็พยายามเต็มที่ และพบร่างผู้เสียชีวิตมากที่สุดที่เราประกอบเป็นร่างได้ 89 ร่าง ซึ่งยังคงสูญหาย ณ ตอนนี้ 7 ราย จากนี้เป็นกระบวนการทางนิติวิทยาศาสตร์ที่จะพิสูจน์ชิ้นส่วนกว่า 200 ชิ้นที่เก็บกู้ได้เพื่อยืนยันจำนวนผู้สูญหายต่อไป

นายภุชพงศ์ กล่าวอีกว่า สุดท้าย เมื่อเรานำร่างผู้สูญหายออกจากอาคาร จะมีการขนวัสดุต่าง ๆ มารวมกันที่จุดทิ้งกองซากอาคารซึ่งตอนนี้สูงราว 8 เมตร แต่จะลดลงให้ได้เหลือ 6 เมตร เนื่องจากป้องกันดินสไลด์รอบ ๆ พื้นที่ เป็นการคำนึงถึงผลกระทบสภาพแวดล้อมรอบงาน โดยระหว่างนี้จะมีการตรวจสอบโดยสุนัข K9 และทีมกู้ภ้ยทุกวันในตอนเช้าและเย็น ดำเนินการค้นหาชิ้นส่วนผู้สูญหายเพื่อนำไปตรวจสอบเทียบ DNA กับญาติที่ได้ตรวจเป็นข้อมูลไว้แล้ว วันนี้ก็ได้นำสื่อมวลชนมาดูกระบวนการทำงานของทีมในพื้นที่เก็บซากอาคารให้เห็นภาพความละเอียดในการทำงานของเรา

รองผู้ว่าฯ ทวิดา กล่าวเสริมว่า วันนี้สื่อมวลชนจะได้เห็นภาพและกระบวนการทำงานของสุนัข K9 ในส่วนรั้วที่สำนักการโยธา กทม. มีการล้อมกองซากเศษปูนไว้ก็จะยังคงไว้ เพราะยังถือเป็นพื้นที่ที่ต้องมีทั้งหลักฐานและวัสดุอุปกรณ์ ไม่สามารถมีใครนำออกไปได้ ดังนั้นจึงจะต้องรักษาความปลอดภัยต่อ รวมทั้งกล้องที่ กทม. ติดไว้นั้น วันพรุ่งนี้จะมีการประชุมหารืออีกครั้งว่าจะยังคงเหลือกล้องไว้ที่จุดใดบ้าง ทั้งนี้ เมื่อส่งมอบพื้นที่ ทางตำรวจจะอายัดพื้นที่ต่อเพื่อดำเนินการในเชิงรูปคดีต่อไป

ด้านเจ้าหน้าที่เทคนิคการฝึกจากศูนย์การสุนัขทหาร กรมการสัตว์ทหารบก กล่าวว่า เราทำการค้นหาตั้งแต่แรกเริ่มที่มีการทะยอยนำดินจากตึก สตง. มาไว้ ณ จุดนี้ โดยค้นหาทั้งเช้าและเย็น ในเรื่องการค้นหานั้น สุนัขต้องการสติ สมาธิ และอิสระ วันนี้จะได้เห็นว่าทีมสุนัข K9 ค้นหาอย่างไร หากเจอหรือไม่เจอชิ้นส่วนมนุษย์จะทำอย่างไร ทั้งนี้ จากการค้นหาเราไม่เจอชิ้นส่วนมนุษย์มาร่วมนับสัปดาห์แล้ว แต่เพื่อความแน่นอนจึงต้องใช้สุนัข K9 จนวินาทีสุดท้ายเพื่อเคลียร์พื้นที่