In News
นายกฯเยี่ยมคารวะปธน.และเลขาฯพรรค ของเวียดนามพร้อมร่วมมือในทุกระดับ

ฮานอย-นายกรัฐมนตรีเยี่ยมคารวะประธานาธิบดีเวียดนาม เน้นย้ำรักษาแนวทางการหารืออย่างต่อเนื่อง ทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคี เพื่อขับเคลื่อนความร่วมมือรอบด้าน หลังจากนั้นนายกฯเข้าพบเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ยืนยันพร้อมยึดนโยบาย ยกระดับความร่วมมือด้านการเมืองความมั่นคง เศรษฐกิจความเชื่อมโยง และความสัมพันธ์ระดับประชาชน
เยี่ยมคารวะปธน.เวียดนามยึดการหารือในทุกระดับ
วันนี้ (16 พฤษภาคม 2568) เวลา 15.00 น. ณ ห้องรับรองพิเศษ ทำเนียบประธานาธิบดีเวียดนาม กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เข้าเยี่ยมคารวะนายเลือง เกื่อง (H.E. Mr. Luong Cuong) ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ในโอกาสการเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการ
ทั้งสองฝ่ายได้หารืออย่างสร้างสรรค์ในหลากหลายประเด็น พร้อมแสดงเจตจำนงร่วมกันในการยกระดับความร่วมมือทวิภาคีให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นในทุกมิติ สะท้อนถึงความเชื่อมั่นซึ่งกันและกันในฐานะประเทศหุ้นส่วนที่มีบทบาทสำคัญต่อภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง
นายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีเวียดนามต่างยินดีต่อความสำเร็จของไทยและเวียดนาม ในการประกาศยกระดับความสัมพันธ์สู่ “หุ้นส่วนยุทธศาสตร์รอบด้าน” (Comprehensive Strategic Partnership) ถือเป็นพัฒนาการสำคัญของความสัมพันธ์ระหว่างกัน และยืนยันเจตนารมณ์ที่จะขับเคลื่อนความร่วมมือในทุกด้านให้เกิดผลเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น พร้อมต่างกล่าวชื่นชมความใกล้ชิดของประชาชนทั้งสองประเทศที่เป็นพื้นฐานสำคัญของความสัมพันธ์ระหว่างรัฐ
ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันถึงความจำเป็นในการเพิ่มพูนความไว้เนื้อเชื่อใจและการติดต่อระดับสูงอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะระหว่างกระทรวงกลาโหมและกองทัพของทั้งสองประเทศ พร้อมสนับสนุนแนวทางจัดตั้งกลไกคณะกรรมการความร่วมมือระดับสูงด้านการทหาร (High-Level Committee: HLC) เพื่อเป็นเวทีขับเคลื่อนความร่วมมือด้านความมั่นคงให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมถึงการแลกเปลี่ยนข้อมูลและความร่วมมือในด้านการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ การพัฒนาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ การป้องกันและปราบปรามยาเสพติด อาชญากรรมข้ามชาติ และการร่วมกันรับมือกับปัญหา online scams ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนของทั้งสองประเทศ
ด้านความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ทั้งสองฝ่ายให้ความสำคัญกับการเพิ่มมูลค่าการค้าและการลงทุนระหว่างกันอย่างต่อเนื่อง โดยเห็นพ้องร่วมกันที่จะผลักดันให้บรรลุเป้าหมายการค้าระดับ 25,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในอนาคตอันใกล้ โดยลดอุปสรรคทางการค้า อำนวยความสะดวกด้านพิธีการศุลกากร และเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทานในอุตสาหกรรมเป้าหมาย นอกจากนี้ ยังยืนยันสนับสนุนการลงทุนของกันและกัน
ขณะเดียวกัน ไทยยินดีต้อนรับการลงทุนจากภาคเอกชนเวียดนามในไทยเพื่อขยายความร่วมมือและใช้ประโยชน์จาก value chain ร่วมกันอย่างเต็มที่
ผู้นำทั้งสองฝ่ายต่างยินดีต่อความใกล้ชิดของประชาชนไทยและเวียดนาม โดยเฉพาะชุมชนชาวไทยเชื้อสายเวียดนามในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย ซึ่งทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอย่างมีพลัง พร้อมส่งเสริมการท่องเที่ยวและการพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นผ่านความร่วมมือระหว่างจังหวัดของไทยและเวียดนาม โดยจะมีการจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ร่วมกัน เช่น roadshow และ business matching ระหว่างเมืองคู่มิตรกว่า 20 คู่ เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนระดับประชาชน และขยายโอกาสทางเศรษฐกิจให้แก่ชุมชนในทั้งสองประเทศอย่างทั่วถึง
ในช่วงท้าย ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันที่จะรักษาแนวทางการหารืออย่างต่อเนื่อง ทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคี เพื่อขับเคลื่อนความร่วมมือให้ทันต่อบริบทโลกที่เปลี่ยนแปลง พร้อมยืนยันเจตจำนงที่จะทำงานร่วมกันเพื่อเสริมสร้างสันติภาพ เสถียรภาพ และความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาค
เลขาฯพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามยืนยันพร้อมยึดนโยบายยกระดับความร่วมมือ
เวลา 15.40 น. ณ ที่ทำการพรรคคอมมิวนิสต์สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้าเยี่ยมคารวะนายโต เลิม (H.E. Mr. To Lam) เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ในโอกาสการเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการ
นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณที่รัฐบาลเวียดนามให้การต้อนรับที่อบอุ่น และยินดีที่ได้ทราบว่าเลขาธิการพรรคฯ มีความคุ้นเคยกับประเทศไทยเป็นอย่างดี จึงได้ใช้โอกาสนี้เชิญท่านเลขาพรรคฯ เยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในปีหน้า (พ.ศ. 2569) ในโอกาสฉลองครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ไทย-เวียดนาม เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างไทย –เวียดนาม ให้ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยินดีที่ไทยและเวียดนามได้ประกาศยกระดับความสัมพันธ์เป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์รอบด้าน (Comprehensive Strategic Partnership) สะท้อนความสำคัญที่ดีต่อกันและความตั้งใจที่จะยกระดับความร่วมมือในด้านต่าง ๆ ให้ก้าวหน้าและเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ย้ำว่าไทยและเวียดนามเป็นประเทศสำคัญในภูมิภาคนี้ และความร่วมมือที่ใกล้ชิดระหว่างกันจึงเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาของภูมิภาคด้วย โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง
ส่วนทางด้านการเมืองความมั่นคง สองประเทศยินดีที่ไทยและเวียดนามมีการแลกเปลี่ยนการเยือนและการหารือในระดับสูงอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะระหว่างหน่วยงานด้านความมั่นคง โดยนายกรัฐมนตรีเห็นควรสนับสนุนการความร่วมมือระหว่างกันมากขึ้น เพื่อแก้ปัญหาความมั่นคงและอาชญากรรมข้ามแดน โดยเฉพาะการปราบปรามยาเสพติด online scams และการประมง IUU
ด้านเศรษฐกิจและความเชื่อมโยง ทั้งสองฝ่ายยินดีที่มูลค่าการค้าไทย-เวียดนามขยายตัวอย่างสมดุล พร้อมขอบคุณรัฐบาลเวียดนามที่ให้การสนับสนุนการลงทุนของไทยในเวียดนาม ขณะเดียวกันได้เชิญชวนให้ภาคเอกชนเวียดนามมาลงทุนในไทยมากขึ้น
นอกจากนี้ ไทยและเวียดนามมีความสัมพันธ์ระดับประชาชนที่แน่นแฟ้น เป็นสะพายเชื่อมสายสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ
ในช่วงท้าย เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ยังยกย่องความสัมพันธ์ไทย-เวียดนาม เปรียบเสมือนเสาหลัก ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อสองประเทศและอาเซียนโดยรวมอีกด้วย