Authority & Harm

'บิ๊กเต่า'เจอเพิ่ม4บัญชีนอกระบบวัดไร่ขิง เข้มหาเส้นทางการเงิน/ไม่มีหมายเพิ่ม 



นครปฐม-บิ๊กเต่า นำทีมแจงความคืบหน้าตรวจสอบเงินวัดไร่ขิง พบมีบัญชีที่ไม่ได้แจ้งไว้เพิ่มอีก 4 บัญชี รวม 53 บัญชี ไม่ยืนยันว่าปกติทั้งหมด ย้ำเงินสดยังไม่ได้เช็คอาจมีมากกว่า 300 ล้านบาทที่โอนไปยังสาวที่ถูกจับกุม เตรียมแถลงความคืบหน้าพฤหัสนี้ ย้ำกระแสออกหมายจับ อีก หลายคนยังไม่มีมูลไปถึงจุดนั้น 

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง  เปิดเผยข้อมูลล่าสุดว่า การตรวจสอบเส้นทางการเงินวัดพบบัญชีเพิ่มเติมอีก 4 บัญชี รวมบัญชีวัดที่ตรวจสอบพบขณะนี้ 53 บัญชี แต่ยังไม่ยืนยันว่าทุกบัญชีผิดปกติ ยังอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบ ส่วนจะมีการโอนเข้าบัญชีของวัดหรือตัวอดีตเจ้าอาวาสวัดแล้วถูกโยกย้ายถ่ายเทไปที่ไหนบ้าง ตอนนี้อยู่ระหว่างการวบรวมพยานหลักฐาน จึงทำให้ไม่สามารถให้รายละเอียดของเรื่องนี้ได้ แต่การตรวจสอบที่เปิดเผยได้ตอนนี้คือไม่ได้มีแค่เงินในบัญชี แต่มีเรื่องเงินสดที่ยังตรวจสอบไม่ได้อาจมีมากกว่า 300 ล้านบาทก่อนหน้านี้ เป็นบัญชีที่เป็นของวัด โอนไปยังบัญชีอดีตเจ้าอาวาส และโอนต่อไปที่น.ส.อรัญวรรณ จำนวนหลายบัญชี 

สำหรับการสร้างวัตถุมงคล พบข้อมูลแล้วว่าวัดมีรายได้ในส่วนนี้และมีการทำบัญชีบัญชีแยกออกไปเป็นบัญชีเฉพาะกิจ โดยเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียด

ส่วนกระแสข่าวเรื่องของการออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติมจำนวน 24 ราย// บิ๊กเต่า ยืนยันว่าตอนนี้ยังไม่มีการออกหมายจับใคร เพราะยังอยู่ในขั้นตอนของการตรวจสอบเส้นทางการเงินของวัดให้มีความชัดเจน แต่หากพบใครทำผิดก็จะต้องดำเนินการอยู่แล้ว ไม่ได้ตั้งว่าจะต้องมีจำนวนคนที่ถูกออกหมายจับเท่าไหร่ 

สำหรับแนวทางหลังจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลางและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ยังคงลงพื้นที่มายังวัดไร่ขิง เพื่อทำการตรวจสอบรายละเอียดให้ครบทุกบัญชีการเงินของวัดไร่ขิง โดยเฉพาะความเคลื่อนไหวของแต่ละบัญชี ซึ่งจะต้องทำการบ้านอย่างหนักดูว่ามีบัญชีไหนเล็ดลอดออกไปบ้างหรือไม่ โดยเป็นการตรวจสอบทุกมิติ เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงกลับมาทำระบบเป็นมาตรฐานให้กับวัดต่าง ๆ ซึ่งจะทำให้แต่ละวัดชี้แจงรายได้ที่มาของเงินวัดได้อย่างชัดเจน ไม่ใช่เป็นแบบรัฏฐาธิปัตย์ ที่พระมีอำนาจสั่งการทุกอย่าง จนทำให้ระบบการเงินของวัดมีปัญหา โดยยืนยันว่าสิ่งที่เจ้าหน้าที่กำลังทำอยู่จะเป็นการทำให้เกิดประโยชน์มากที่สุดในวงการสงฆ์

นอกจากนี้ บิ๊กเต่า ได้แจ้งว่าในวันพฤหัสบดีที่ 22 พ.ค.ที่จะถึงนี้จะมีการแถลงข่าวสรุปภาพรวมทั้งหมดในคดี แต่เป็นการแถลงความคืบหน้าที่อาจจะยังทำการสืบสวนสอบสวนไม่ครบถ้วนทุกประเด็น ซึ่งเป็นการแจ้งให้กับพี่น้องประชาชนและสื่อมวลชนได้เห็นการทำงานที่มีความคืบหน้าของเจ้าหน้าที่ โดยในวันพรุ่งนี้ยังคงมีความเคลื่อนไหวที่วัดไร่ขิงต่อเนื่อง เพราะทางเจ้าหน้าที่จะเข้ามาตรวจสอบเส้นทางการเงินเพิ่มเติม

น.ส.อนงนาต ชีวานันทกุล ผู้อำนวยการกองปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ 5 เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบรายได้ทั้งหมดของวัด ไม่ว่าจะเป็นตู้บริจาค การขายวัตถุมงคล การขายอาหารปลา การขายของสวัสดิการต่าง ๆ ของวัด การให้เช่าที่ของวัด ทั้งตลาดเช้า ตลาดเย็นและตลาดวันอาทิตย์ เป็นการดูแหล่งรายได้ของวัดทั้งหมด โดยวัดไร่ขิงมีการทำบัญชีรายรับรายจ่ายถือเป็นต้นแบบของการทำบัญชีเสนอต่อสำนักพระพุทธศาสนา มีการทำบัญชีทั้งแบบรายวัน การสรุปยอดรายรับรายจ่ายเป็นรายเดือน แต่ยอมรับว่ามีเงินบางส่วนที่พบว่าไม่ถูกชี้แจงเป็นเงินที่อาจมีการรายงานไม่ครบถ้วน และในการพบบัญชีเพิ่มไม่ได้หมายความว่าเป็นการซุกซ่อนบัญชี เนื่องจากวัดไร่ขิงมีมูลนิธิองค์กรการกุศลด้วย ซึ่งใน 1 มูลนิธิก็มีหลายบัญชี ยอมรับว่ามีข้อสงสัย แต่ก็ไม่ใช่ทุกบัญชีจะพบความผิด 

ส่วนทุกบัญชีของวัดไร่ขิงจะต้องมีการรายงานต่อสำนักพระพุทธศาสนาทุกบัญชีเลยหรือไม่นั้น ทาง ปปท. จะต้องตรวจสอบหลักเกณฑ์กับทางสำนักพุทธฯ อีกครั้ง ยืนยันว่านี่ไม่ใช่การตรวจสอบเพื่อดำเนินคดีทางอาญา แต่เป็นการหามาตรการให้เกิดระบบการเงินที่ดีของวัด ซึ่งก็จะเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับวัดอื่นดำเนินการด้วย