In News

'ประเสริฐ'ประชุมบอร์ดเกาะรัตนโกสินทร์ฯ อนุมัติ4เรื่องเคาะ'ทางขึ้นลงรถไฟใต้ดิน'



กรุงเทพฯ-‘รองนายกฯ ประเสริฐ’ กำชับเร่งเดินหน้า ‘โครงการในกรุงรัตนโกสินทร์และเมืองเก่า’ หวังส่งต่อมรดกวัฒนธรรม ยกระดับการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ สร้างแหล่งเรียนรู้ใหม่ของเมืองกรุงฯ

วันที่ 21 พฤษภาคม 2568 เวลา 10.30 น. ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล   นายประเสริฐ  จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอนุรักษ์และพัฒนากรุงรัตนโกสินทร์และเมืองเก่า ครั้งที่ 1/2568 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีนายจตุพร บุรุษพัฒน์  ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดร.ชญานันท์ ภักดีจิตต์ เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เข้าร่วมด้วย   

นายประเสริฐ กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบในหลักการ

1. บัญชีรายชื่ออาคารที่มีคุณค่าควรอนุรักษ์ใน กรุงรัตนโกสินทร์ จำนวน 121 อาคาร เพื่อดำเนินการขับเคลื่อนเครื่องมือทางการเงิน ด้านมาตรการส่งเสริมด้านภาษี (tax incentive)  

2. การปรับปรุงสะพานระพีพัฒนภาคและสะพานบพิตรพิมุข บริเวณคลองโอ่งอ่าง โดยการปรับปรุงยกระดับท้องสะพานสูงขึ้นเป็น +2.00 ม. จากระดับน้ำทะเลปานกลาง เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวทางเรือ

3. โครงการจัดตั้งหอเฉลิมพระเกียรติกษัตริย์กฎหมายไทย พิพิธภัณฑ์ และหอจดหมายเหตุยกกระบัตร โดยปรับปรุงอาคารสำนักงานอัยการสูงสุด (อาคารหลักเมือง) ให้เหมาะสมแก่การเป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้ด้านกระบวนการยุติธรรมและพื้นที่สาธารณะใหม่ของเมือง

4. การออกแบบทางขึ้น - ลง สถานีรถไฟฟ้าและปล่องระบายอากาศ โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน - ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาเษก) สัญญาที่ 2 ช่วงหอสมุดแห่งชาติ - ผ่านฟ้า และสัญญาที่ 3 ช่วงผ่านฟ้า - สะพานพุทธ ในพื้นที่กรุงรัตนโกสินทร์  โดยคำนึงถึงคุณค่าความสำคัญประวัติศาสตร์ของพื้นที่มาเป็นแนวคิดหลักการออกแบบ ที่รักษารูปแบบและอัตลักษณ์ของพื้นที่

และ 5. โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ - มีนบุรี (สุวินทวงศ์) โดยพิจารณาในส่วนสถานีรถไฟฟ้า ทางขึ้น - ลง และปล่องระบายอากาศ ที่ขอเปลี่ยนแปลง บริเวณสถานีศิริราช สถานีสนามหลวง และสถานีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และเห็นชอบตำแหน่งทางขึ้น - ลง และปล่องระบายอากาศบริเวณสถานีหลานหลวง

ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ ได้กำชับขอให้ดำเนินการด้วยความระมัดระวัง คำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชน ผลกระทบต่อการจราจร และหลีกเลี่ยงพื้นที่ที่อาจมีผลกระทบต่อโบราณสถาน ตลอดจนดำเนินการตามแนวทางลดผลกระทบต่อมรดกทางวัฒนธรรม โบราณสถาน และหลักฐานทางโบราณคดี และรายงานผลการติดตามเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งออกแบบและสื่อความหมายให้สอดคล้องกับบริบทและคำนึงถึงคุณค่าทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของพื้นที่

นอกจากนี้ คณะกรรมการฯ เร่งให้มีการขับเคลื่อนงานอนุรักษ์และพัฒนาเมืองเก่า โดยผลักดันให้มีแผนปฏิบัติการด้านการอนุรักษ์และพัฒนาบริเวณเมืองเก่า และการทบทวนแผนปฏิบัติการฯ อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นกรอบในการพัฒนาเมือง รวมทั้ง เห็นชอบการปรับปรุงองค์ประกอบคณะอนุกรรมการอนุรักษ์และพัฒนาเมืองเก่า รายเมือง (เมืองเก่าพิษณุโลก เมืองเก่าสกลนคร เมืองเก่าแม่ฮ่องสอน เมืองเก่าน่าน เมืองเก่าบุรีรัมย์ และเมืองเก่าตรัง)