Authority & Harm

เด็ก8ขวบถูกแม่ตีย้ายไปอยู่กะยายแล้ว



นครปฐม-เด็กชายวัย 8 ขวบที่ปรากฏในคลิบถูกย่าทำร้ายถูกส่งตัวไปอยู่กับยายในที่ปลอดภัยแล้ว โดยผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์เป็นน้องสาวของผู้ก่อเหตุบอกรับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้นเพราะรุนแรงเกินไป ปกติหลานไม่ดื้อน่าจะแค่ตักเตือนโดย พบว่าพี่สาวตนเองนั้นดื่มเหล้าบ่อยครั้ง ส่วนตัวไม่เอาเรื่องที่ถูกทำร้าย แต่คดีของหลานให้ดำเนินตามกฎหมายเต็มที่ เผยแม่เด็กทำงานที่เกาหลีร้องไห้โอเมื่อเห็นคลิบ โดยตำรวจเร่งรวบรวมหลักฐานรอประสานงานสหวิชาชีพสอบปากคำเด็กชายหลังสภาพจิตใจพร้อมให้ข้อมูลที่เกิดขึ้น


วันนี้ 12 ก.ค. 64 ผู้สื่อข่าวรายงาน จากกรณี ช่วงหัวค่ำของเมื่อวานที่ได้มีกรณีที่มีผู้แชร์คลิบ สาวใหญ่ซึ่งตอนแรกถูกระบุว่าเป็นแม่ของน้องกล้า (นามสมมติ) อายุ  8 ขวบ ทำร้ายร่างกายอย่างรุนแรงทำให้ประชาชนที่ได้เห็นภาพดังกล่าวเกิดความสะเทือนใจและได้มีการเร่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามช่วยเหลือเด็กชายคนดังกล่าวและให้จับกุมสาวใหญ่ที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ไวที่สุด ซึ่งในช่วงคืนวันเดียวกัน พล.ต.ต.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต รอง ผบช.ภ.7 รรท.ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.ชัชปัณฑกาณฑ์  คล้ายคลึง รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม และ พ.ต.อ.ธีรเชษฐ์ ธนวินรวีร์ ผกก.สภ.เมืองนครปฐม ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่บริเวณ ม.4 ต.หนองงูเหลือม อ.เมือง จ.นครปฐม กระทั่งสามารถช่วยเหลือเด็กชายคนดังกล่าวออกมาได้อย่างปลอดภัยและติดตามจับกุม นางอำพร ห้วยหงษ์ทอง หรือพร ซึ่งที่แท้เป็นย่าของน้องกล้า (นามสมมติ) หลังหลบหนีได้บริเวณตำบลทุ่งรี อำเภอเมืองนครปฐม ห่างจากจุดเกิดไม่ไกล 

โดยวันนี้ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับ นางสาวเสาวลักษณ์ ห้วยหงส์ทอง อายุ 48 ปี น้องสาวของนางอำพร ซึ่งได้เป็นผู้อยู่ในเหตุการณ์ในคลิบซึ่งคนที่ถ่ายคลิบไว้ได้เป็นลูกสาวของตนเอง บอกว่า เหตุการณ์ดังกล่าว ตนเองได้ขี่รถจักรยานยนต์ พาน้องเค้ก ลูกสาวและน้องกล้า หลานชายไปส่งที่บ้าน จากนั้นได้ น้องกล้าได้ไปขออนุญาตกับนางอัมพร ซึ่งเป็นย่า เพื่อจะไปเล่นสเก็ตบอร์ด แต่ยังไม่ทันได้ออกไปไหน นางอัมพรก็ได้เกิดความโมโหอย่างหนัก และได้ลงมือทำร้ายหลานแท้ๆ ของตัวเองอย่างหนักและได้ทำร้านตนเองดังที่ปรากฏในคลิบ ซึ่งจนถึงตอนนี้ตนเองก็ยังไม่รู้ว่า นางอัมพรทำไปเพราะอะไร ซึ่งตนเองมองว่าเป็นเรื่องที่รุนแรงจนรับไม่ได้ และมีผู้ใหญ่บ้านได้พาตนไปแจ้งความที่ สภ.เมืองนครปฐม กระทั่งมีการช่วยน้องกล้า (นามสมมติ) มาได้และจับกุมพี่สาวของตนเองในคืนเดียว

นางสาวเสาวลักษณ์ บอกว่า หลังจากตำรวจสอบปากคำและไปตรวจร่างกายเสร็จแล้ว ได้ให้น้องกล้า ไปอยู่ที่บ้านของยายของเขา ซึ่งน้องกล้า (นามสมมติ) ไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ของตัวเอง เพราะพ่อนั้นติดคุกและแม่ได้เดินทางไปทำงานที่ประเทศเกาหลี จึงให้นางอัมพรเป็นผู้เลี้ยงดู ที่บ้านหลังที่เกิดเหตุ ซึ่งทางยายของน้องกล้า (นามสมมติ) ได้เคยขอรับไปเลี้ยง แต่นางอัมพร ไม่ยอมและได้เสนอขอให้ทางยายจ่ายเงินให้สัปดาห์ละ 1 พันบาทและจะให้อยู่บ้านยาย 5 วันและมาอยู่กับนางอัมพร 2 วัน ต่อสัปห์ดา จึงตกลงกันไม่ได้ และมาเกิดเรื่องดังกล่าวซึ่ง ตอนนี้แม่น้องกล้า (นามสมมติ) รู้เรื่องและเสียใจร้องไห้อย่างหนักกับคลิบที่ได้เห็น ส่วนตัวเองที่ถูกทำร้ายนั้นก็ได้แจ้งความไปแล้วแต่ไม่ได้ประสงค์เอาความผิดกับกับพี่สาวแต่เรื่องของหลานก็ให้เป็นไปตามกระบวนการกันต่อไป 

“ปกติฉันก็ไม่ได้คุยกับพี่สาวเพราะไม่ชอบนิสัยเขาซึ่งเขาดื่มเหล้าหนักเราก็ไม่ชอบอยู่แล้ว ยิ่งมาเห็นเมื่อวานว่าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ก็รับไม่ได้ เพราะหลายาชายไม่ใช่เด็กดื้อ เขากลัวมาเพราะร้องตลดว่ากลัว ซึ่งส่วนตัวเหตุว่าเกินกว่าเหตุ และมีคนมาต่อว่าทำไมถ่ายแต่คลิบไม่ลงไปช่วยหลาน ฉันก็อยากจะบอกว่าขาฉันหักมาก่อนมันเดินไม่ถนัด ส่วนคนที่ถ่ายคลิบก็เป็นเด็กอายุ 11 ปีไม่กล้าเข้าไปกลัวจะโดนตีแบบฉัน อยากให้คนเข้าใจฉันด้วย ซึ่งบาดแผลฉันที่ถูกเขาฟาดด้วยท่อนไม้ก็มีทั้งที่แขนและขาบวมช้ำอยู่ด้วย” นางสาวเสาวลักษณ์ กล่าว 

ขณะเดียวกัน วันนี้พนักงานาสอบสวน ได้กลับมาที่เกิดเหตุอีกครั้งเพื่อทำบันทึกและเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุอีกครั้งเพื่อรวบรวมไว้ประกอบสำนวนในการดำเนินคดี โดยพบว่าเป็น การกระทำเป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท คือ ประมวลกฎหมายอาญา ม.295  และ พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 ม.26(1) โดยจะมีการดูแลเด็กในเรื่องบาดแผลก่อน และจะดูสภาพจิตใจว่ามีความพร้อมหรือไม่ในการให้ดำเนินการสอบสวนซึ่งต้องมีการดำเนินการจากสหวิชาชีพ ทั้งตำรวจ แพทย์ นักจิตวิทยา อัยการ เพื่อรวมรวบหลักฐานในการดำเนินคดีกับ นางอัมพร อีกครั้ง และมีหลายหน่วยงานกำลังเร่งติดตามการดูแลเด็กในระยะยาวซึ่งตอนนี้อยู่กับยายในพื้นที่ปลอดภัยแล้ว