In Bangkok

กทม.ปิดประชุมCMC2025ย้ำบทบาท ผู้นำรับมือภัยพิบัติชี้โลกยุคใหม่ต้องพร้อม



กรุงเทพฯ-กทม. ปิดประชุม CMC 2025 ตอกย้ำบทบาทผู้นำรับมือภัยพิบัติ ผู้ว่าฯ ชัชชาติชี้ โลกยุคใหม่ต้องพร้อมด้วยประสบการณ์และเทคโนโลยี 

(22 พ.ค. 68) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวปิดการประชุม Crisis Management Conference 2025 (CMC 2025) อย่างเป็นทางการ พร้อมมอบของที่ระลึกให้แก่ผู้แทนจากกรุงโซล ซึ่งจะรับหน้าที่เจ้าภาพจัดการประชุมในปีถัดไป โดยพิธีปิดจัดขึ้น ณ ห้อง Asawin Ballroom ชั้น 4 โรงแรมอัศวิน แกรนด์ คอนเวนชั่น เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร จากนั้น ผู้ว่าฯ ชัชชาติ และ รศ. ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ให้การต้อนรับผู้แทนจากเมืองสมาชิกทั้ง 8 เมือง ที่เดินทางเข้าเยี่ยมคารวะในโอกาสเยือนกรุงเทพฯ เพื่อเข้าร่วมการประชุม 

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า การประชุมในครั้งนี้เป็นเวทีสำคัญที่สะท้อนให้เห็นถึงพลังของความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้จากกรณีศึกษาต่าง ๆ ซึ่งช่วยเสริมศักยภาพของแต่ละเมืองในการบริหารจัดการวิกฤตได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหตุการณ์แผ่นดินไหวในประเทศเมียนมาเมื่อเดือนที่ผ่านมา เป็นกรณีศึกษาที่ชี้ให้เห็นถึงผลกระทบข้ามพรมแดนอย่างชัดเจน แม้ศูนย์กลางแผ่นดินไหวจะอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ กว่า 1,000 กิโลเมตร แต่กลับส่งผลให้เกิดเหตุการณ์ตึกถล่มในพื้นที่ก่อสร้าง ซึ่งนับเป็นเหตุการณ์ที่สร้างความเสียหายรุนแรง เช่นเดียวกับกรณีในเมืองใหญ่อย่างโตเกียวและโซล ทั้งหมดนี้ตอกย้ำว่าโลกในปัจจุบันกำลังเผชิญกับภัยพิบัติที่มีแนวโน้มเกิดขึ้นบ่อยครั้งและรุนแรงยิ่งขึ้น

จากประสบการณ์ในการจัดการภัยพิบัติที่ผ่านมา กรุงเทพมหานครได้เรียนรู้บทเรียนสำคัญสองประการ ได้แก่ หนึ่ง การมี “ประสบการณ์ภาคสนาม” ที่เพียงพอจะช่วยให้สามารถประเมินสถานการณ์และดำเนินการตอบสนองได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสอง การใช้ “เทคโนโลยี” โดยเฉพาะอากาศยานไร้คนขับ (โดรน) ที่มีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือชีวิตและประเมินพื้นที่เสี่ยงได้อย่างแม่นยำ ทั้งประสบการณ์และเทคโนโลยีจึงต้องทำงานควบคู่กันอย่างเป็นระบบ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรับมือกับวิกฤตในอนาคต ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ได้ขอบคุณผู้แทนทุกเมืองที่เข้าร่วมประชุม และแสดงความหวังว่าจะได้พบกันอีกครั้งที่กรุงโซล พร้อมทั้งขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการเยือนกรุงเทพฯ 

กรุงเทพมหานครเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม CMC 2025 ระหว่างวันที่ 22–23 พฤษภาคม 2568 ณ โรงแรมอัศวิน แกรนด์ คอนเวนชั่น เขตหลักสี่ ภายใต้แนวคิด “Collaboration for Crisis Management” โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมความร่วมมือระดับภูมิภาคด้านการบริหารจัดการวิกฤตและภัยพิบัติ ตลอดจนเน้นย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมือพหุภาคีในการเสริมสร้างความยืดหยุ่นและความยั่งยืนให้กับเมืองในยุคที่เผชิญความเสี่ยงรอบด้าน การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้กรอบโครงการ Asian Crisis Management Project (The New Network) ซึ่งเป็นเวทีประจำปีของเมืองสมาชิกจากภูมิภาคเอเชียที่มุ่งพัฒนาศักยภาพการรับมือกับภาวะวิกฤตผ่านการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และประสบการณ์ที่เป็นรูปธรรม

สำหรับการประชุมในครั้งนี้ มีผู้แทนจากเมืองสมาชิก 8 เมือง ได้แก่ กรุงโตเกียว กรุงโซล กรุงกัวลาลัมเปอร์ กรุงมะนิลา กรุงจาการ์ตา เมืองไทเป เมืองซินเป่ย (New Taipei) และสิงคโปร์ รวมจำนวนผู้เข้าร่วมประมาณ 30 คน โดยเนื้อหาการประชุมเน้นการเสวนา แลกเปลี่ยนแนวทางจัดการภัยพิบัติอย่างเป็นระบบ และการเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับภัยคุกคามที่ซับซ้อนมากขึ้นในบริบทของเมืองขนาดใหญ่

การประชุม CMC 2025 นอกจากจะเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความรู้แล้ว ยังเป็นโอกาสสำคัญที่กรุงเทพมหานครจะได้แสดงบทบาทผู้นำด้านการจัดการภัยพิบัติและวิกฤตในระดับภูมิภาค พร้อมทั้งเสริมสร้างความร่วมมือที่เข้มแข็งระหว่างเมืองสมาชิก เพื่อให้สามารถรับมือกับภัยคุกคามที่ซับซ้อนและเพิ่มมากขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ การประชุมประกอบด้วยการอภิปรายโดยผู้เชี่ยวชาญในหัวข้อสำคัญต่าง ๆ เช่น นวัตกรรมสำหรับเมืองอัจฉริยะ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แผนรับมือภัยพิบัติแบบบูรณาการ (CBRN) และการประสานงานในภาวะวิกฤต โดยมีผู้เชี่ยวชาญจากเมืองสมาชิกและนักวิชาการไทยที่มีประสบการณ์ตรงด้านการจัดการภัยพิบัติมาร่วมแบ่งปันองค์ความรู้และกลยุทธ์ที่เป็นเลิศ รวมถึงมีนิทรรศการนำเสนอประเด็นความปลอดภัยในเขตเมืองที่สำคัญ เช่น ประชากรกลุ่มเปราะบางในเมือง ความปลอดภัยบนท้องถนน และน้ำท่วมในเขตเมือง โดยมีเป้าหมายเพื่อถ่ายทอดข้อมูลเชิงลึกและแนวทางเชิงรุกในการยกระดับความปลอดภัยในเมืองและการพัฒนาอย่างยั่งยืน

นอกจากนี้ ในฐานะเจ้าภาพ กรุงเทพมหานครยังได้จัดกิจกรรมศึกษาดูงาน ณ สถานีดับเพลิงและกู้ภัยหนองจอก เพื่อแสดงศักยภาพของเมืองในการปฏิบัติการกู้ภัยในเขตเมืองและการบริหารจัดการน้ำท่วม ซึ่งเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในมหานครขนาดใหญ่