In News

นายกฯถกเอกชนรายใหญ่อังกฤษผลักดัน สินค้าเกษตร/มอบใบรับรองอาหารไทย



กรุงเทพฯ-“นายกฯ“ ถกภาคเอกชนรายใหญ่ของอังกฤษ จับมือทีมไทยแลนด์ร่วมกันพลักดันสินค้าเกษตรและอาหารของไทย สร้างมูลค่าในสหภาพยุโรปและสำรวจร้านอาหารไทยสุดฮิตในยุโรปเมนู”เมี่ยงคำ“ขึ้นชื่อ นายกฯ” มอบประกาศนียบัตรรับรองร้านอาหารไทยพร้อมเชิญชวนต่างชาติสัมผัสเสน่ห์ ทั้งคุณภาพ-รสชาติไทยแท้พร้อมยกระดับตรา Thai SELECT ติดดาวเทียบชั้นมิชลิน

ในวันพฤหัสบดีที่ 22 พฤษภาคม 2568 เวลาประมาณ  10.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น ณ กรุงลอนดอน) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะผู้แทนจากกระทรวงพาณิชย์ นำโดยนายเอกฉัตร ศีตวรรัตน์ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ และนายพรวิช ศิลาอ่อน รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ได้ประชุม ร่วมกับภาคเอกชนและผู้นำเข้าสินค้ารายสำคัญของสหราชอาณาจักร ณ กรุงลอนดอน อาทิ Selfridges, CP Intertrade, Boonrod Brewery (Singha), Chang Beer, Thai Tana, Asco, Manning Impex, Patara Restaurants และ Bangkok Bank (PLC)

โดยนายกรัฐมนตรีได้รับฟังและหารือร่วมกันกับภาคเอกชน เพื่อผลักดันการขยายมูลค่าการค้าสินค้าเกษตรและอาหารของไทย การเพิ่มช่องทางการนำเข้าสินค้าอาหาร และสินค้าไลฟ์สไตล์ ตลอดจนการผลักดันการจัดทำ FTA เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าสู่ตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสินค้าเกษตรและอาหาร และลดอุปสรรคทางการค้า เช่น สินค้าไก่แปรรูป ตลอดจนการเข้าไปประกอบวิชาชีพในสหราชอาณาจักรของพ่อครัว แม่ครัว และพนักงานนวดแผนไทย ซึ่งเป็นที่ต้องการของผู้ประกอบการท้องถิ่น รวมถึงการสนับสนุนทางการเงินให้แก่ผู้ประกอบการ เพื่อเข้ามาลงทุนในสหราชอาณาจักรมากขึ้น 

นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในฐานะทีมประเทศไทย ร่วมกันผลักดันให้การค้าและการลงทุนกับสหราชอาณาจักรขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อไปสู่การเป็นพันธมิตรทางเศรษฐกิจที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น อันจะนำมาซึ่งการจัดทำความตกลงการค้าเสรีร่วมกันต่อไปในอนาคต รวมทั้งทุกประเทศในสหภาพยุโรปอีกด้วย

ทั้งนี้  ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า ในปี 2567 สหราชอาณาจักรเป็นคู่ค้าอันดับที่ 4 ของไทยในภูมิภาคยุโรป การค้ารวมระหว่างไทยและสหราชอาณาจักรมีมูลค่า 6,657.26 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (-2.31%) โดยเป็นการส่งออกมูลค่า 4,195.66 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (7.06%) และเป็นการนำเข้า 2,461.60 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (-16.63%) สินค้าส่งออก 5 อันดับแรกที่ไทยส่งออกไปยังสหราชอาณาจักรได้แก่ ไก่แปรรูป (809.78 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) เครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องจักรกล (444.32 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) อัญมณีและเครื่องประดับ (395.52 ล้านเหรียญสหรัฐฯ)รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ (289.72 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) และรถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ (263.93 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) โดยสินค้าในหมวดอาหารที่ไทยส่งออกไปยังสหราชอาณาจักรมากที่สุด ได้แก่ ไก่แปรรูป ผลิตภัณฑ์ข้าวสาลีและอาหารสำเร็จรูปอื่น สิ่งปรุงรสอาหารอาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ข้าว ผลไม้กระป๋องและแปรรูป เนื้อสัตว์และของปรุงแต่งที่ทำจากเนื้อสัตว์ ผลิตภัณฑ์ข้าว ไก่สดแช่เย็นแช่แข็ง และเครื่องดื่ม

นายกฯมอบประกาศนียบัตรรับรองร้านอาหารไทย

และเมื่อเวลา 10.15 น. ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร   ทีมไทยแลนด์นำโดย นายเอกฉัตร ศีตวรรัตน์ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ และนายพรวิช ศิลาอ่อน รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้จัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ตราสัญลักษณ์ Thai SELECT โฉมใหม่ ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร โดยมีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน พร้อมมอบประกาศนียบัตรแก่ร้านอาหาร Thai SELECT จำนวน 20 ราย เพื่อผลักดันนโยบายส่งเสริม Soft Power ของรัฐบาลไทยในสาขาอาหาร ขยายบทบาทอาหารไทยสู่เวทีโลกนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ได้กล่าวถึงแนวนโยบายของรัฐบาลในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรม Soft Power โดยเฉพาะ “อาหารไทย” ซึ่งเป็นหนึ่งในเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก ทั้งด้านรสชาติ คุณภาพ และความพิถีพิถันในการปรุง พร้อมย้ำถึงความสำคัญของการสร้างเครือข่ายร้านอาหารไทยในต่างประเทศให้เป็นด่านหน้าในการเผยแพร่อัตลักษณ์ไทยควบคู่กับการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ

 

ภายหลังพิธีมอบประกาศนียบัตร นายกรัฐมนตรีได้ร่วมกิจกรรมสาธิตการทำอาหารไทย เมนู “เมี่ยงคำ” โดยมีเชฟไทยประจำร้านอาหาร Thai SELECT เป็นผู้ร่วมสาธิต และมี Influencer และสื่อมวลชนในพื้นที่เข้าร่วมอย่างคึกคักกว่า 20ราย ก่อนจะเข้าสู่การหารือร่วมกับภาคเอกชนด้านการท่องเที่ยว ซึ่งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเป็นผู้ดำเนินการ เพื่อรับฟังข้อเสนอแนะแนวทางการส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยในสหราชอาณาจักร ควบคู่กับการประชาสัมพันธ์ Soft Power ของไทยปัจจุบัน ร้านอาหารไทยในอังกฤษ เริ่มมีเมนูเมี่ยงมากขึ้น โดยเฉพาะร้านอาหารไทยที่เจ้าของร้าน หรือ เชฟ เป็นชาวอังกฤษที่มีชื่อเสียง เนื่องจากเมนูเมี่ยงเป็นเมนูที่มีวัตถุดิบไทยหลากหลาย เช่น ผลไม้ สมุนไพร ต่างๆ มีรสชาติที่น่าสนใจ 

โดย Thai SELECT เป็นตราสัญลักษณ์ที่กระทรวงพาณิชย์มอบให้กับร้านอาหารไทย และผลิตภัณฑ์อาหารไทยสำเร็จรูป ที่มีมาตรฐานและรสชาติไทยแท้ โดยล่าสุดได้มีการยกระดับ โดยใช้ “ดาวเกียรติยศรูปดอกกล้วยไม้” เป็นสัญลักษณ์ เพื่อสะท้อนถึงคุณภาพระดับสากล รสชาติไทยแท้ และประสบการณ์ที่เปี่ยมด้วยเสน่ห์ ได้แบ่งการรับรองออกเป็น 4 ระดับ ได้แก่

1.Thai SELECT Casual – ร้านอาหารบรรยากาศเป็นกันเอง เช่น ร้านขนาดเล็กหรือ Food Truck

2.Thai SELECT 1 ดาว – ร้านอาหารคุณภาพดีในรูปแบบ Fine-Casual Dining

3.Thai SELECT 2 ดาว – ร้านอาหารคุณภาพเยี่ยม รูปแบบ Upscale Dining

4.Thai SELECT 3 ดาว – ร้านอาหารไทยคุณภาพยอดเยี่ยมระดับพรีเมียม

ปัจจุบันมีร้านอาหารไทยในต่างประเทศทั่วโลกกว่า 18,852 ร้าน โดยตั้งแต่ปี พ.ศ.2531 มี 1,779 ร้าน ที่ได้รับตราสัญลักษณ์  Thai SELECT และในสหราชอาณาจักร มีร้านอาหารที่ได้รับการรับรอง Thai SELECT จากกระทรวงพาณิชย์ รวมทั้งสิ้น 115 ร้าน ครอบคลุมหลายเมืองใหญ่ อาทิ ลอนดอน แมนเชสเตอร์ กลาสโกว์ และเอดินบะระ เพื่อใช้พลังแห่งวัฒนธรรม นำร่องด้วย “อาหารไทย” เป็นเครื่องมือในการขยายบทบาทประเทศไทยบนเวทีโลก ทั้งในด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และการสร้างภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งผ่าน Soft Power ของไทย

'นายกฯ'ถกภาคเอกชนรายใหญ่ของอังกฤษ

ก่อนหน้านี้ช่วงเวลาประมาณ  10.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น ณ กรุงลอนดอน) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะผู้แทนจากกระทรวงพาณิชย์ นำโดยนายเอกฉัตร ศีตวรรัตน์ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ และนายพรวิช ศิลาอ่อน รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ได้ประชุม ร่วมกับภาคเอกชนและผู้นำเข้าสินค้ารายสำคัญของสหราชอาณาจักร ณ กรุงลอนดอน อาทิ Selfridges, CP Intertrade, Boonrod Brewery (Singha), Chang Beer, Thai Tana, Asco, Manning Impex, Patara Restaurants และ Bangkok Bank (PLC)

โดยนายกรัฐมนตรีได้รับฟังและหารือร่วมกันกับภาคเอกชน เพื่อผลักดันการขยายมูลค่าการค้าสินค้าเกษตรและอาหารของไทย การเพิ่มช่องทางการนำเข้าสินค้าอาหาร และสินค้าไลฟ์สไตล์ ตลอดจนการผลักดันการจัดทำ FTA เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าสู่ตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสินค้าเกษตรและอาหาร และลดอุปสรรคทางการค้า เช่น สินค้าไก่แปรรูป ตลอดจนการเข้าไปประกอบวิชาชีพในสหราชอาณาจักรของพ่อครัว แม่ครัว และพนักงานนวดแผนไทย ซึ่งเป็นที่ต้องการของผู้ประกอบการท้องถิ่น รวมถึงการสนับสนุนทางการเงินให้แก่ผู้ประกอบการ เพื่อเข้ามาลงทุนในสหราชอาณาจักรมากขึ้น 

นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในฐานะทีมประเทศไทย ร่วมกันผลักดันให้การค้าและการลงทุนกับสหราชอาณาจักรขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อไปสู่การเป็นพันธมิตรทางเศรษฐกิจที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น อันจะนำมาซึ่งการจัดทำความตกลงการค้าเสรีร่วมกันต่อไปในอนาคต รวมทั้งทุกประเทศในสหภาพยุโรปอีกด้วย

ทั้งนี้  ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า ในปี 2567 สหราชอาณาจักรเป็นคู่ค้าอันดับที่ 4 ของไทยในภูมิภาคยุโรป การค้ารวมระหว่างไทยและสหราชอาณาจักรมีมูลค่า 6,657.26 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (-2.31%) โดยเป็นการส่งออกมูลค่า 4,195.66 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (7.06%) และเป็นการนำเข้า 2,461.60 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (-16.63%) สินค้าส่งออก 5 อันดับแรกที่ไทยส่งออกไปยังสหราชอาณาจักรได้แก่ ไก่แปรรูป (809.78 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) เครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องจักรกล (444.32 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) อัญมณีและเครื่องประดับ (395.52 ล้านเหรียญสหรัฐฯ)รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ (289.72 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) และรถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ (263.93 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) โดยสินค้าในหมวดอาหารที่ไทยส่งออกไปยังสหราชอาณาจักรมากที่สุด ได้แก่ ไก่แปรรูป ผลิตภัณฑ์ข้าวสาลีและอาหารสำเร็จรูปอื่น สิ่งปรุงรสอาหารอาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ข้าว ผลไม้กระป๋องและแปรรูป เนื้อสัตว์และของปรุงแต่งที่ทำจากเนื้อสัตว์ ผลิตภัณฑ์ข้าว ไก่สดแช่เย็นแช่แข็ง และเครื่องดื่ม