Authority & Harm
ตร.เร่งล่าชายอ้างตัวตร.เป็นกรรมการวัดฯ เชิดเงินทำบุญวัดไร่ขิงหาย1แสน

นครปฐม-ญาติร้องสื่อ ชายกลางคนอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและเป็นกรรมการวัดไร่ขิง พระอารามหลวง แฝงตัวเข้ามาในพิธีพระราชทานเพลิงศพคนในครอบครัว จากนั้นได้เชิดเงินทำบุญ 100,000 บาท หนีออกจากงานโดยนั่งรถวินจักรยานยนต์ที่หน้าวัด โดยมีการจับภาพใบหน้าและมีภาพจากกล้องวงจรปิดเห็นพฤติกรรมชัดเจน ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวผ่านมาแล้วตั้งแต่เดือนมกราคม 2568 จนถึงบัดนี้ยังไม่สามารถจับกุมตัวหรือทราบเบาะแส จึงวอนสื่อให้ช่วยเปิดเผยพฤติกรรมและเร่งติดตามหาคนร้ายหากจับกุมได้หรือชี้เบาะแสมีเงินรางวัลนำจับให้ 5,000 บาท
วันที่ 7 มิถุนายน 68 ผู้สื่อข่าวติดตามรายงานข้อมูล จากกรณี เพจ "ศูนย์วิทยุมูลนิธิกู้ภัยพรานพิทักษ์ อ.สามพราน จ.นครปฐม สำนักงานใหญ่" ได้มีการโพสต์ภาพและข้อความช่วยมีการติดตามชายกลางคนซึ่งได้แอบอ้างตัวเข้ามาฉกเงินในงานพระราชทานเพลิงศพ จำนวน 100,000 บาท ภายในวัดไร่ขิง พระอารามหลวง โดยมีการระบุภาพ เห็นใบหน้าชัดเจนและมีการติดตามภาพจากกล้องวงจรปิดเห็นคนดังกล่าวที่เข้ามาอยู่ในพิธี และข้อความว่า " ลำดับเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 5 ม.ค. 2568 งานพิธีพระราชทานเพลิงศพ นายพิชัย ลีลาขจรจิต (ฮกยู้ แซ่เหลี่ยว) ณ วัดไร่ขิง พระอารามหลวง
14:40 คนร้ายเข้ามาดูลาดเลาภายในงาน โดยอ้างตัวว่ารู้จักกับผู้ตาย โดยบอกว่าผู้ตายเคยให้ผลไม้ทาน และทำทีว่าตนเองเป็นเจ้าหน้าที่ของวัด (กรรมการวัด) ขอแลกเบอร์ (ปลอม) กับ น.ส.ศรีประไพ ลีลาขจรจิต (พยาน 1) โดยมาขอนั่งแถวหลังใกล้ๆ กับโต๊ะที่วางซองเงินเพื่อสังเกตุการณ์ภายในงาน ไม่ยอมนั่งร่วมกับแขกภายในงาน
14:45 ช่วงเวลาที่มีการเคลื่อนย้ายของชำร่วยบนโต๊ะไปวางไว้บริเวณเมรุเพื่อแจกให้กับแขกเหรื่อ ในช่วงชุลมุน คนร้ายได้พูดกับผู้กล่าวหา (น.ส. ณัฐสุดา ลีลาขจรจิต) ว่าตนเป็นกรรมการวัดจะขอนำเงินไปถวายวัดที่กุฏิ ผู้กล่าวหาได้หลงเชื่อจึงมอบเงินที่จะนำถวายวัดเตรียมใส่ซองเป็นเงินสดจำนวน 1 แสนบาท และซองเงินช่วยงานอีกจำนวนหนึ่งให้กับคนร้ายโดยไม่ได้ถามเจ้าภาพ (นายชูเกียรติ) ผู้เป็นบิดาให้ดีก่อน โดยมีผู้ร่วมรับทราบคือป้าหน่อย ( พยาน 2) ว่าเงินได้ถูกส่งมอบให้กับตัวแทนวัดไปแล้ว (คนร้าย)
15:35 ป้าแจง ผู้ร่วมจัดงานได้ถามว่าเงินใส่ซองอยู่ที่ไหน และได้ไถ่ถามกับพยาน 1 (น.ส. ศรีประไพ) ว่าได้เคลื่อนย้ายเงินไปหรือไม่ พยาน 1 จึงได้เข้าไปถามกับ น.ส.ณัฐสุดา (ผู้กล่าวหา) และป้าหน่อย (พยาน 2) ว่าให้เงินไปได้อย่างไร โดยเจ้าภาพงานได้รับทราบเรื่องราว และมีญาติอีกหลายท่านร่วมรับรู้เหตุการณ์
15:40 มารดาของผู้กล่าวหา น.ส.นพเกตุ (พยาน 3) ได้ทราบว่าเงินถูกขโมยไปแล้ว และได้สอบถามว่าสน.ที่ใกล้ที่สุดอยู่ที่ไหนกับ น.ส.อินทุรัตน์ ผู้เป็นหลานและเป็นคนในพื้นที่
15:50 น.ส.นพเกตุ (พยาน 3) ได้ไปติดต่อวัดเพื่อขอภาพคนร้ายจากกล้องวงจรปิด และตามนางทัศนีย์ (พยาน 4) เข้าร่วมแจ้งความที่ สน.โพธิ์แก้ว กับรตท. ธนภัทร โดยได้นำรูปคนร้ายขณะถือเงินออกไปจากศาลาวัดและโบกมือเรียกวินมอเตอร์ไซค์ (พยาน 5) ออกไปจากวัด ทางสน.โพธิ์แก้วได้รับแจ้งความและลงบันทึกประจำวัน
16:30 เจ้าภาพ (นายชูเกียรติ) บิดาของผู้กล่าวหารับทราบการแจ้งความ และเข้าปลอบขวัญผู้กล่าวหาหลังจบพิธีการ
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เข้าสอบถามข้อมูลจาก นางวิไล (นามสมมติ) ญาติผู้เสียชีวิตและผู้เสียหาย โดยบอกว่า เมื่อวันที่ 5 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งช่วงวันดังกล่าวเป็นวันที่จะเป็นการพระราชทานเพลิงศพซึ่งมันบรรยากาศในงานก็จะดูยุ่งมากแต่ก็มีชายคนดังกล่าวได้เข้ามาที่งานแล้วบอกว่ารู้จักกับผู้ตาย เนื่องจากผู้ตายเคยเอาผลไม้ให้กินจนรู้สึกว่าอยากจะกลับมาขอบคุณแล้วบอกว่าตัวเองเนี่ยเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วก็เป็นเจ้าหน้าที่ของวัดไร่ขิงแต่เมื่อได้ถามไปแล้วว่าอยู่ที่ท้องที่ใดก็ไม่ได้บอกให้แน่ชัดจากนั้นก็ได้เชิญไปนั่งในจุดที่รับแขก โดยได้ทำการเชิญไปถึงสี่ครั้งแต่ใช่คนดังกล่าวก็ไม่ยอมไปนั่งจึงได้ปล่อยให้ยืนอยู่ในจุดดังกล่าว แต่มาในช่วงที่พี่ชายจะนำซองไปถวายทำบุญให้กับวัดไร่ขิงพระอารามหลวง ซึ่งมีซองทั้งหมดสี่ซองในพาน โดยมีการนำเงินสองซองเก็บไว้และจะนำอีกสองซองซึ่งมีเงินบรรจุอยู่ในนั้นซองละ 50,000.02 บาทซองรวมเป็นเงิน 100,000 บาท แต่ใช้คนดังกล่าวได้มาบอกหลานว่าเดี๋ยวจะขออาสานำเงินเข้าไปให้กับทางวัดเองซึ่งทุกคนเชื่อว่าเค้าเป็นเจ้าหน้าที่ของวัดและเป็นตำรวจด้วยก็ได้มอบหมายไป แต่เมื่อเขาได้เงินไปแล้วมีการสอบถามกันเงินก็ไม่ได้ไปถึงภายในวัดจึงได้มาขอติดตามดูกล้องวงจรปิดพบว่าเขาได้ซองไปแล้วและได้รีบวิ่งหนีออกไปขึ้นรถวินจักรยานยนต์ซึ่งอยู่หน้าวัดและได้ว่าจ้างให้ไป จอดส่งอยู่แถวย่านพุทธมณฑลสาย 4 โดยตอนนี้ได้แจ้งความเอาไว้ที่สถานีตำรวจภูธรโพธิ์แก้วอำเภอสามพรานซึ่งอยู่ที่ด้านหน้าวัดไร่ขิงพระอรามหลวงแล้ว โดยอยากจะขอแจ้งว่าหากใครพบเห็นชายคนดังกล่าวตามภาพที่ปรากฏขอให้แจ้งเบาะแสไปที่สถานีตำรวจภูธรโพธิ์แก้ว ซึ่งทางเราจะมีรางวัลนำจับและแจ้งเบาะแสให้ 5000 บาท และไม่อยากให้ชายคนนี้ไปก่อเหตุที่อื่นอีก
นายเล็ก (นามสมมติ) วินรถจักรยานยนต์ผู้รับคนร้ายออกไปในวันดังกล่าว บอกว่าช่วงเกิดเหตุคนร้ายได้เดินรีบเร่งมาหาตนเองบอกว่าให้ไปส่งที่แถวพุทธมณฑลสายสี่เนื่องจากญาติขับรถออกไปและตนเองได้ลืมของไว้ในรถซึ่ง ตอนแรกก็ไม่ทราบว่าเป็นคนร้ายก็ไปตามทางปกติจนกระทั่งถึงปากทางพุทธมณฑลสายสี่เค้าบอกจอดแล้วก็ เดินแยกย้ายจากกันไปส่วนเราก็ได้กลับมาที่วิลเพื่อรับลูกค้าตามปกติกระทั่งมีญาติของผู้ตายภายในงานได้เดินมาสอบถามว่าเห็นชายคนดังกล่าวหรือไม่ตนเองก็ได้แจ้งไปแล้วว่านำไปส่งตามจุดที่เค้าให้ส่ง โดยไม่ทราบว่าเป็นคนร้าย ซึ่งตอนนี้ได้มีการลงบันทึกประจำวันไว้ว่าไม่ได้มีความเกี่ยวข้องหรือมีทำความรู้จักกัน ส่วนชายคนที่ปรากฏภายในภาพและเป็นคนร้ายก็ขอยืนยันว่าไม่ใช่คณะกรรมการหรือเจ้าหน้าที่ของวัดไร่ขิงพระอารามหลวงแต่อย่างใดเพราะไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนซึ่งปกติในการจัดพิธีในงานศพต่างๆก็จะมีเจ้าหน้าที่ของวัดที่ดำเนินการเป็นประจำอยู่แล้วส่วนชายคนนี้ไม่เคยเห็นหน้าเลย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากเกิดการร้องเรียนในกรณีดังกล่าวซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้น เมื่อเดือนมกราคม 2568 โดยช่วงดังกล่าวยังไม่ได้เกิดเหตุการณ์เกี่ยวกับการติดตามข้อมูลของนายแย้มอดีตเจ้าอาวาส ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวภายในวัดไร่ขิงพระอารามหลวงก็เป็นไปตามปกติโดยจะมีเจ้าหน้าที่ในฝ่ายฌาปนสถานและพิธีกรรมเป็นผู้ดำเนินการ คาดว่าชายคนดังกล่าวน่าจะเป็นมืออาชีพที่มีลักษณะใช้วิธีการเหล่านี้ในการเข้าไปฉกเงินของเจ้าภาพมาหลายครั้งต่างพื้นที่โดยได้มาสังเกตว่าครอบครัวนี้เป็นครอบครัวที่ค่อนข้างมีฐานะและเป็นข้าราชการที่มีการขอพระราชทานเพลิงศพซึ่งจะต้องมีการถวายเงินหลังจบงานจึงได้แฝงตัวเข้ามาสังเกตจุดเก็บเงินและอาสาตัวเองเป็นเจ้าหน้าที่และกรรมการของวัดไร่ขิงพระอารามหลวง โดยอ้างว่าเป็นตำรวจเพื่อสร้างความเชื่อมั่น โดยถึงขนาดนี้ผ่านมาหลายเดือนยังไม่มีวี่แววในการติดตามจับกุมคนร้ายหรือแจ้งเบาะแสกลับมาที่กลุ่มผู้เสียหายหรือทางวัดไร่ขิงแต่อย่างใดซึ่ง ทางผู้เสียหายก็มีความวิตกว่าคนร้ายคนดังกล่าวเมื่อยังไม่ถูกจับกุมหรือเปิดเผยข้อมูลถึงพฤติกรรมอาจจะมีการใช้พฤติกรรมเหล่านี้แฝงตัวไปตามงานต่างๆและได้เงินไปโดยไม่มีการเผยแพร่ข้อมูลให้ทราบและเตือนภัยจึงขอให้มีการประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนพฤติกรรมให้สังคมได้ทราบ