Authority & Harm

ตร.บุกรวบแก๊งค์ปล่อยข่าวปลอมโชเชียล 2รายใส่ไฟพิพาทไทย-เขมร/โชว์ปืนสวย



นครปฐม-ปฏิบัติการที่ 1 :  กก.2 บก.สอท.3 รวบสาวเจ้ากรมข่าวลือ โพสต์เฟคนิวส์ใส่ไฟกรณีพิพาทไทย-เขมร และปฏิบัติการที่ 2 : กก.3 บก.สอท.2 รวบสาวใหญ่โพสต์ปืนอวดโซเชียล

สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.สอท.3 ตรวจพบผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊ก ชื่อ “Lucky Farm” ได้โพตส์ข้อความเกี่ยวกับปัญหาแนวชายแดนระหว่างไทย-กัมพูชา โดยมีข้อความบางส่วนเป็นข้อมูลที่ไม่เกิดขึ้นจริงที่อาจทำให้ประชาชนหลงเชื่อแตกตื่นได้ อาทิ โพสต์ว่าเกิดเหตุระเบิดขึ้นบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา จนทำให้มีทหารเสียชีวิตหลายราย โพสต์ว่ามีการสั่งให้อพยพประชาชนบริเวณชายแดน และโพสต์ข้อความอื่นๆ อีกหลายครั้ง จนมีบัญชีเฟซบุ๊กของคนทั่วไปเข้ามากดไลก์โพสต์ดังกล่าวจำนวนหลายราย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออำนาจศาลออกหมายจับผู้กระทำดังกล่าวและหมายค้นพื้นที่เป้าหมาย

ต่อมา วันที่ 8 มิ.ย.68 พ.ต.อ.อรุณณพันธ์ วานิช์ชานันท์ ผกก.2 บก.สอท.3 ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดสนธิกำลังร่วมกับ พ.ต.อ.ชาญชัย อินนรา ผกก.สส.ภ.จว.อุบลราชธานี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ในสังกัด ร่วมกันนำหมายค้นศาลจังหวัดอุบลราชธานี ที่ 55/2568 ลงวันที่ 8 มิ.ย.68 เข้าตรวจค้นบ้านพักหลังหนึ่ง ในพื้นที่ ต.กุดลาด อ.เมืองอุบลราชธานี จ.อุบลราชธานี

ผลการตรวจค้น สามารถจับกุม น.ส.ภิรัญญาฯ อายุ 32 ปี ชาวอุบลราชธานี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่น ที่ จ 556/2568 ลงวันที่ 8 มิ.ย.68 ในข้อหา “นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิด ความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคง ในทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือโครงสร้างพื้นฐานอันเป็นประโยชน์สาธารณะของประเทศฯ” พร้อมตรวจยึดของกลางเป็น โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ Oppo สีเหลือง รุ่น A77s  จำนวน 1 เครื่อง

เบื้องต้น ผู้ต้องหาเปิดเผยว่า ปัจจุบันตนเองไม่ได้ประกอบอาชีพ แต่เคยทำธุรกิจคอกควายแล้วเจ๊ง ปัจจุบันสามีทำงานที่เกาหลีแล้วส่งเงินมาให้ใช้ ที่ตนเองทำไปเพราะได้รับข้อมูลข่าวสารจากสื่อโซเชียลต่าง ๆ ซึ่งตนเองไม่ทราบว่าเป็นข้อมูลที่จริงหรือไม่ อีกทั้ง ตนเองมีอคติเกี่ยวกับกรณีพิพาทระหว่างประเทศไทย-กัมพูชาอยู่แล้ว จึงได้คิดข้อความและโพสต์ลงในสื่อโซเชียลของตนเอง โดยที่โพสต์ไปไม่ได้ทำเพื่อสร้างรายได้ใดใด จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.สอท.3 ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

อย่างไรก็ตาม ตำรวจไซเบอร์ไม่ได้มีเจตนาจำกัดเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น แต่มีหน้าที่ในการปกป้องสังคมจาก “ข้อมูลเท็จที่สร้างผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของประเทศ” โดยเฉพาะเมื่อมีผู้ไม่ประสงค์ดีพยายามใช้ “ข้อมูลเท็จปลอมเป็นข่าว” เพื่อบิดเบือน หรือสร้างความเข้าใจผิดในวงกว้างผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียการดำเนินการในกรณีนี้ เป็นไปเพื่อมุ่งปกป้องสิทธิของประชาชนที่มีต่อข่าวสารที่ถูกต้อง และ ไม่ให้ประชาชนตกเป็นเหยื่อของข้อมูลที่ถูกจัดทำขึ้นโดยมีเป้าหมายอื่นแอบแฝง ดังนั้น การใช้สิทธิเสรีภาพควรมาพร้อมกับความรับผิดชอบเพราะข่าวปลอมเพียงโพสต์เดียวอาจส่งผลให้เกิดความเข้าใจผิดเป็นวงกว้าง เกิดความตื่นตระหนก สร้างความเสียหายทั้งต่อบุคคลและสาธารณะได้

จับกุมการกระทำผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนผิดกฎหมายปฏิบัติการที่ 2 : กก.3 บก.สอท.2 รวบสาวใหญ่โพสต์ปืนอวดโซเชียล

สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.สอท.2 สืบสวนพบเฟซบุ๊กชื่อว่า “อ๋อย เกาะปักเป้า” มีพฤติกรรมโพสต์ภาพผู้หญิงพกอาวุธปืนโชว์ ภาพอวดอาวุธปืนหลายกระบอกวางบนโต๊ะหน้าบ้าน และโพสต์อวดใบรับรองการยิงปืน
จากสนามยิงปืน

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายได้สำเร็จ กระทั่ง พ.ต.ท.ศราวุธ ตะดวงดี และ พ.ต.ท.บุญเสริม อนุมาตรฉิมพลี สว.กก.3 บก.สอท.2 ได้ร่วมนำกำลังพร้อมหมายค้นศาลจังหวัดราชบุรี ที่ 231/2568 ลงวันที่ 5 มิ.ย.68 เข้าทำการตรวจค้นบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่ ถ.เพชรเกษม ต.หน้าเมือง อ.เมืองราชบุรี จ.ราชบุรี

ผลการตรวจค้น พบนางกิติยา หรือ จูน อายุ 41 ปี พร้อมของกลางเป็นอาวุธปืนพกสั้น แบบกึ่งอัตโนมัติ ขนาด 9 มม. ยี่ห้อ Beretta รุ่น MOD.92 fs จำนวน 1 กระบอก, กระสุนปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 12 นัด แม็กกาซีนสำหรับบรรจุ
กระสุนปืน จำนวน 1 อัน และซองพกในหนังสีดำจำนวน 1 ชิ้น

เบื้องต้น ผู้ต้องหายอมรับว่าของกลางดังกล่าวเป็นของตนเองจริง โดยซื้อมาในราคา 40,000 บาท เพื่อไว้ป้องกันตัว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อหา “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดย่ไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน” นำตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมเร่งสืบสวนขยายผลถึงแหล่งที่มาของอาวุธปืนดังกล่าวต่อไป