In Thailand

ครอท.ติง!อาชีวะเร่งแก้ปัญหาให้ครู-นศ.



กรุงเทพฯ-เอาอีก! อาชีวะขยันผิดเวลาควรเร่งแก้ปัญหาความเดือดร้อนครู บุคลากรนักศึกษาก่อนดีไหม ??

เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2564 นายเศรษฐศิษฏ์ ณุวงค์ศรี ประธานเครือข่ายคนรักษ์อาชีวศึกษาแห่งประเทศไทย(ค.ร.อ.ท.ได้รับเรื่องร้องเรียนมาจากผู้บริหารรองผู้อำนวยการและหัวหน้าแผนกฯจากวิทยาลัยที่ผู้บริหารระดับสูง ของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาได้มีหนังสือสั่งการ เชิญประชุมเชิงปฏิบัติการจัดทำมาตรฐานตัวชี้วัดและเกณฑ์ประเมินสถานศึกษาในโครงการผลิตอาชีวะพันธุ์ใหม่ New Growth engineในสถานการณ์โควิด -19ที่ยังรุนแรง ซึ่งโครงการดังกล่าวนี้ ทางสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาอนุมัติให้สำนักมาตรฐานการอาชีวศึกษาและวิชาชีพได้เร่งดำเนินการจัดทำคู่มือการบริหารงานและเกณฑ์ประเมินสถานศึกษาที่เข้าร่วมโครงการผลิตอาชีวะพันธุ์ใหม่ จัดให้มีการประชุมเชิงปฏิบัติการทั้งในห้องประชุม แบบ on site และผ่านระบบออนไลน์ ระหว่างวันที่ 16 ถึง 18 กรกฎาคม 2564ตั้งแต่เวลา 09.00-21.00 น. ณ สำนักพัฒนาสมรรถนะครูและบุคลากรอาชีวศึกษากรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นพื้นที่สีแดงควบคุมสูงสุด

ในหนังสือสั่งการเรื่องนี้ผู้ที่ต้องเข้าประชุมประกอบด้วยผู้อำนวยการวิทยาลัย รองผู้อำนวยการทั้ง 4 ฝ่าย ประกอบด้วยรองผู้อำนวยการฝ่ายแผนงานและความร่วมมือ รองผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนากิจการนักเรียนนักศึกษา รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารทรัพยากร รองผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการ และหัวหน้าแผนกวิชาในสาขาต่างๆจำนวนกว่า 27 สถานศึกษาจากทั่วประเทศ ที่ต้องเดินทางเข้าประชุมร่วมกับส่วนกลางมีความวิตกกังวล ในเรื่องของความปลอดภัยทั้งเรื่องโรงแรมสถานที่พัก การเดินทางของสถานศึกษาที่มาจากต่างจังหวัด และความเป็นอยู่เนื่องจากอยู่ในช่วงที่รัฐบาลประกาศ พระราชกำหนดการบริหารราชการในสภาวะฉุกเฉินและมีคำสั่งให้ work from home ห้ามเดินทาง แต่ทางสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษากลับมีข้อสั่งการมาอย่างกะทันหันเร่งด่วนมาก และตรงกับวันหยุดราชการถึง 2 วันคือวันเสาร์ที่ 17 กรกฎาคมและวันอาทิตย์ที่ 18 กรกฎาคม 2564 ซึ่งทำให้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์หนาหูว่า ทำไมจึงต้องมีการสั่งการเร่งด่วนทั้งที่หนังสือฉบับนี้ เมื่อดูเรื่องของวัตถุประสงค์แล้วก็ไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนขนาดนั้น และแหล่งข่าวระบุว่าโครงการนี้เพื่อทำผลงานทางวิชาการของผู้บริหารระดับสูงท่านหนึ่งเท็จจริงประการใดฝ่ายผู้บริหารระดับสูงได้ตรวจสอบเพื่อความโปร่งใส โดยที่ผู้บริหารสถานศึกษาและบุคลากรทั้ง 27 แห่ง มีความลำบากใจในประเด็นนี้อย่างมาก ที่ต้องถูกสั่งให้เข้าประชุม ตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ซึ่งโครงการดังกล่าวก็ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาหรือสถานการณ์ในเรื่องของการจัดการเรียนการสอนออนไลน์ ที่ในขณะนี้แต่อย่างใด จึงเป็นการสวนกระแสรัฐบาลเรื่องของ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในช่วงนี้ และเป็นการขยันผิดที่ผิดจังหวะผิดโอกาสทำให้เกิดความสุ่มเสี่ยงในการ แพร่ระบาดของเชื้อโควิดอย่างยิ่ง ขอให้ทางผู้ใหญ่ในกระทรวงศึกษาธิการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องการให้นายสุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ นายสุเทพ แก่งสันเทียะ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ได้พิจารณาทบทวนหรือสืบสวนหาข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าวนี้ให้กระจ่างชัดด้วย ขณะเดียวกันช่วงนี้สถานการณ์ covid ที่กำลังรุนแรงและยังไม่มีท่าทีจะแก้ได้ มีวิทยาลัยต่างๆได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากบุคลากรและนักเรียนนักศึกษาได้รับผลกระทบจากการติดเชื้อโควิคและมีการรายงานให้เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษาได้รับทราบอย่างต่อเนื่องตลอดมาแต่ยังไม่ได้รับการแก้ไขและได้รับการช่วยเหลืออยากให้สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาได้เร่งเข้าแก้ไขปัญหาตัวนี้โดยด่วนเพราะสถานศึกษาต่างๆกำลังรอรับการช่วยเหลือจากผู้บริหารระดับสูงเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้กับบุคลากรอาชีวศึกษา