Authority & Harm

สองตาหลานพิการสุดช้ำตัวแสบแอบเอา โฉนดจำนำ5แสนจ่อไร้บ้านซุกหัวนอน



บุรีรัมย์-อำเภอห้วยราช/หนุ่มพิการนั่งวีลแชร์วัย 34 ปีเลี้ยงตาวัย 85 ปีตามลำพัง เงินเดือนพิการ-เบี้ยคนชราพออยู่ได้ แต่มาเจอข่าวร้ายน้าชายคือลูกชายของตา แอบเอาโฉนดที่นา 10 ไร่และบ้านพร้อมที่ดิน 2 งานไปกู้นอกระบบ 5 แสนผ่านมาแล้ว 4 ปี แล้วหนีไป ตาถึงกับช็อคป่วยซึมเศร้ายังไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหนหากนายทุนไล่ที่

วันที่ 26 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องทุกข์จากชาวบ้านบ้านถนน หมู่ 4 ต.โคกเหล็ก อ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์ ว่ามีสองตาหลานพิการซึ่งอยู่กันตามลำพัง กำลังจะกลายเป็นผู้ป่วยซึมเศร้าทั้งสองคน หลังทราบข่าวร้ายนายทุนจะมาไล่ที่

จากการตรวจสอบพบบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านปูนชั้นเดียวเลขที่ 72 หมู่ 4 ต.โคกเหล็ก พบนายทาปกรณ์(ทา-ปะ-กอน) หรือนัฐ เจริญรัมย์ อายุ 34 ปี (โทรศัพท์ 084-5847376)พิการขาทั้งสองข้างต้องนั่งรถวีลแชร์ และมีหน้าที่เลี้ยงดูนายนวน เจริญรัมย์ อายุ 85 ปี ตาของตัวเองซึ่งป่วยเป็นโรคซึมเศร้าไม่ยอมพูดกับใคร

นายทาปกรณ์ เล่าว่า พ่อของตนเป็นชาวกัมพูชา แม่ตามไปอยู่กับพ่อตั้งแต่ตนยังเล็ก ส่วนตัวเองพิการจากการตกต้นไม้เมื่อครั้งอายุได้ 13 ปี หรือประมาณ 21 ปีที่แล้วกระดูกสันหลังหัก หลังจากนั้นต้องใช้รถวีลแชร์มาโดยตลอด 

อาศัยอยู่กับตาและน้าชายคือลูกชายของตาอีก 2 คน รวม 4 คนเมื่อประมาณ 4 ปีที่แล้ว น้าชายคนหนึ่งไปทำงานต่างจังหวัดอีกคนไปทำงานต่างประเทศ แล้วหายไปทั้งสองคนไม่ติดต่อมาทางบ้าน

จนกระทั่งตามาทราบว่าลูกชายตาแอบเอาโฉนดที่นา 10 ไร่ และบ้านที่ตากับตนอาศัยอยู่เนื้อที่อีกประมาณ 200 ตารางวา ไปกู้เงินนอกระบบกับนายทุน หลังจากที่ตาทราบเรื่องกลายเป็นคนซึมเศร้าไม่พูดกับใคร ตนต้องรับหน้าที่หุงข้าว ทำกับข้าวมาให้ตากิน รวมถึงการทำความสะอาดภายในบ้านตนก็เป็นคนทำ

นายทาปกรณ์ เล่าด้วยว่า ที่ผ่านมามีเทศบาลโคกเหล็กมาดูแลเรื่องอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับตนเป็นอย่างดี เงินที่ได้จากเบี้ยคนพิการจำนวน 800 บาทกับเบี้ยคนชราของตาอีก 800 บาท รวมเป็น 1,600 บาทสองคนตาหลานก็พออยู่ได้

แต่พอมารู้ว่าโฉนดที่ดินกับโฉนดบ้านที่อยู่อาศัย ไปอยู่กับนายทุนและเป็นเงินก้อนโตถึง 500,000 บาท ยังไม่รวมดอกเบี้ย ยอมรับว่าหนักหนาและไม่รู้ว่าน้าชายจะมีโอกาสเอามาใช้หนี้ได้หรือไม่ ที่สำคัญใกล้จะครบกำหนดที่นายทุนจะไล่ที่หรือยังตนเองยังไม่รู้และน่าเป็นห่วงว่าหากเกิดขึ้นจริงไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน

ขณะที่นายจุม เจริญรัมย์ อายุ 77 ปี น้องชายนายนวน เล่าว่าบ้านของตนอยู่ไม่ไกล จะมาช่วยเหลือบ้างแต่มาอยู่ประจำไม่ได้ ยอมรับว่าสงสารพี่ชายและหลานที่ต้องอยู่อย่างลำบากทั้งยังมีเรื่องมาบีบหัวใจอีกด้วย

ธีรยุทธ์ ชำนาญกอง ผู้สื่อข่าว จ.บุรีรัมย์ รายงาน