EDU Research & Innovation

'เอสจียู'เน้นบทบาทอาชีพกุมารแพทย์ เพื่อสุขภาพ-ความเป็นอยู่ที่ดี-เด็กไทย



กรุงเทพฯ ประเทศไทย - 7กรกฎาคม 2568: ท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับสุขภาพกายและสุขภาพจิตของเด็กไทยคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเซนต์จอร์จ (St. George’s University – SGU) ประเทศเกรเนดา หมู่เกาะเวสต์อินดิส ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญและคุณค่าของวิชาชีพกุมารเวชศาสตร์ ซึ่งมีบทบาทในการดูแลสุขภาวะทั้งทางร่างกายและอารมณ์ของเด็ก พร้อมทั้งให้การสนับสนุนครอบครัวในช่วงเวลาที่เปราะบาง โดยกุมารแพทย์ถือเป็นกำลังสำคัญในการส่งเสริมสุขภาพที่ดีให้กับเยาวชนไทย ซึ่งจะเป็นรากฐานสำคัญของสังคมในอนาคต

ผลสำรวจที่มุ่งเน้นถึงสุขภาพในกลุ่มเด็กและเยาวชนไทยชี้ให้เห็นแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของภาวะน้ำหนักเกินและโรคอ้วน โดยผลสำรวจนี้พบว่า 42.4% ของประชากรไทยที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไปมีภาวะอ้วน ขณะที่สหพันธ์โรคอ้วนโลกคาดการณ์ว่า ภายในปี 2573 เด็กไทยอายุต่ำกว่า 20 ปีเกือบ 50% จะมีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วน ในด้านกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุขรายงานว่า เด็กไทยอายุระหว่าง 5 ถึง 8 ปี มีอัตราปัญหาพัฒนาการล่าช้า ความบกพร่องในการเรียนรู้ ภาวะสมาธิสั้น หรือสติปัญญาต่ำอยู่ที่ 1 ใน 14 คน ซึ่งปัญหาเหล่านี้มีแนวโน้มเชื่อมโยงกับการเจ็บป่วยทางจิต การใช้สารเสพติด และภาวะซึมเศร้าเมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่

Dr. Ahmed Husseinศิษย์เก่าจากหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิตของมหาวิทยาลัยเซนต์จอร์จ รุ่นปี 2022 แนะนำว่า การตรวจสุขภาพเด็กเป็นประจำคือมาตรการป้องกันที่สำคัญที่สุด “ในแต่ละช่วงวัยจะมีแนวทางการดูแลเฉพาะและเครื่องมือคัดกรองโรคที่เหมาะสม” โดยกล่าวต่อว่า “การตรวจสุขภาพตามนัดจะช่วยให้กุมารแพทย์สามารถให้คำแนะนำที่เหมาะสมกับแต่ละคนในด้านโภชนาการ พัฒนาการ และสุขภาพจิตใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

กุมารเวชศาสตร์เป็นสาขาที่ให้ความรู้สึกเติมเต็มอย่างลึกซึ้ง เพราะไม่ใช่แค่การรักษาเด็ก แต่ยังหมายถึงการอยู่เคียงข้างทั้งครอบครัวในช่วงเวลาที่อ่อนไหวที่สุด” Dr. Husseinกล่าว “คุณจะกลายเป็นที่ปรึกษาที่ไว้ใจได้ ช่วยให้พ่อแม่ก้าวข้ามความไม่แน่นอน และส่งเสริมให้พวกเขาดูแลสุขภาพลูกได้อย่างมั่นใจแม้อยู่นอกคลินิก บทบาทนี้ต้องใช้ทั้งความเข้าใจ ความเข้มแข็ง และความหลงใหลที่แท้จริงในการสร้างผลกระทบระยะยาว”

เมื่อสะท้อนถึงเส้นทางสู่วิชาชีพกุมารแพทย์Dr. Husseinอธิบายว่านี่คือสายงานที่เต็มไปด้วยความสุขและพลังในทุกวัน “การพบกับคนไข้แต่ละคนก็เหมือนกับการได้พบเพื่อนใหม่มาเล่นด้วยกัน เราหัวเราะ เล่น และหยอกล้อกันระหว่างเวลาตรวจ พร้อมรับมือกับเหตุผลหลักของการมาเยี่ยม การทำงานนี้เปรียบเสมือนการเติมพลังตลอดทั้งวัน”

เพื่อตอบรับกับปัญหาที่เพิ่มขึ้นหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ไม่ว่าจะเป็นการเสพติดหน้าจอ ความวิตกกังวล และการพัฒนาทักษะทางสังคมที่ล่าช้าในเด็ก Dr. Hussein แนะนำให้ครอบครัวสร้างสภาพแวดล้อมที่เชื่อมโยงทางอารมณ์อย่างแท้จริง “กิจวัตรประจำวันที่ให้ความสำคัญกับการเล่นกลางแจ้ง การมีปฏิสัมพันธ์แบบเผชิญหน้า และการเปิดใจทางอารมณ์” เขาระบุว่า เป็นกุญแจสำคัญในการเสริมสร้างความยืดหยุ่นให้กับเด็กๆ ในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหลักสูตรต่างๆ ของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเซนต์จอร์จ ได้ทางเว็บไซต์ของSGU