Biz news

'ไทยเวิล์ด์แวร์'ผนึกภาคเอกชนหาแนวร่วม แก้ปัญหาขยะพลาสติกบรรจุภัณฑ์อาหาร



กรุงเทพฯ–บริษัท ไทยเวิลด์แวร์ โพลีโพรดักส์ จำกัดผนึกกำลังพันธมิตรธุรกิจ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน)และเครือเบทาโกรร่วมกันหาทางออกปัญหาขยะพลาสติกจากบรรจุภัณฑ์อาหารเพื่อปลุกระดมความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมจากทุกฝ่ายภายใต้การจัดเสวนา “นวัตกรรมบรรจุภัณฑ์อาหารยุค New Normalกับการลดปัญหาสิ่งแวดล้อม” ในงาน Propak Asia 2020 ไบเทค บางนา

นายประเสริฐ ไตรจักรภพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยเวิลด์แวร์โพลีโพรดักส์ จำกัด เปิดเผยว่า “บริษัท ไทยเวิลด์แวร์ โพลีโพรดักส์ จำกัดภายใต้กลุ่มศรีเทพไทย ในฐานะผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์อาหารแบบใช้ครั้งเดียว(Single Use) ที่จัดจำหน่ายให้กับองค์กรและบริษัทชั้นนำของไทยตระหนักและให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมมาโดยตลอดล่าสุดบริษัทฯ ตอบรับนโยบายภาครัฐโดยการยกเลิกการผลิตถุงพลาสติกแต่ยังมีหลายผลิตภัณฑ์ที่ไม่สามารถเลิกการใช้ได้ไทยเวิลด์แวร์โพลีโพรดักส์

ในฐานะผู้ผลิตที่มุ่งมั่นในการมีส่วนร่วมและแสดงจุดยืนต่อการรับผิดชอบจากปัญหาขยะพลาสติกที่เกิดขึ้น จึงได้ร่วมมือกับไออาร์พีซี ในฐานะซัพพลาย Raw Material ซึ่งเป็นผู้ผลิตเม็ดพลาสติกให้กับบริษัทฯและเครือเบทาโกรในฐานะลูกค้าที่นำบรรจุภัณฑ์อาหารมาบริการผู้บริโภคเพื่อให้อาหารมีความปลอดภัย มาร่วมหาแนวทางการแก้ไขโดยมุ่งหวังว่าเวทีการแลกเปลี่ยนนี้จะเป็นการจุดประกายให้ภาคเอกชนมีความตื่นตัวต่อการรับผิดชอบปัญหาสิ่งแวดล้อมในระยะยาวโดยมีแนวทางการจัดการ 2 ส่วน

ส่วนแรก คือการพัฒนากระบวนการผลิตโดยใช้วัตถุดิบในการผลิตให้น้อยลง และทำให้แข็งแรงขึ้นเพื่อลดปริมาณพลาสติก ส่วนที่สอง คือการเลือก Raw Materialจากซัพพลายเออร์ที่มีนวัตกรรมในการนำพลาสติกชีวภาพมาทดแทนซึ่งเรามองว่าทางไออาร์พีซีไม่ได้มีเพียงนวัตกรรมแต่ยังมีกระบวนการจัดการขยะพลาสติก ทั้งขยะจากอุตสาหกรรมและขยะจากหลังจากที่ผู้บริโภคได้นำไปที่อย่างเหมาะสมสอดคล้องกับนโยบายของบริษัทฯที่เชื่อว่าการจัดการปัญหาขยะพลาสติกอย่างจริงจังนั้นต้องให้มูลค่ากับการจัดการหลังนำไปใช้ ดังนั้น บริษัทฯจึงมองว่าเราไม่ได้เพียงซื้อเม็ดพลาสติกจากไออาร์พีซีแต่เราซื้อความรับผิดชอบในการจัดการขยะด้วย

นอกจากนี้บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับแนวทาง EPR (ExtendedProducer Responsibility) ที่พร้อมรับผิดชอบขยะพลาสติกตลอดกระบวนการผลิตทั้งหมด รวมทั้งยินดีสนับสนุนตลอดจนเข้าร่วมแคมเปญด้านการจัดการขยะ และในอนาคตบริษัทฯอยากรวมกลุ่มเพื่อสร้างกรีนซัพพลายเชน เพื่อสนับสนุนลูกค้าที่ต้องการหาซัพพลายที่ตอบโจทย์ทั้งด้านคุณภาพการใช้งานและมีความรับผิดชอบต่อผลิตภัณฑ์ที่กลายเป็นขยะจากการบริโภค”

คุณนพดล ปิ่นสุภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC ได้กล่าวว่า “ IRPCมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนนโยบายด้านความยั่งยืนเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจสังคม และสิ่งแวดล้อมให้มีความสมดุลโดยปลูกฝังเข้าไปในวิถีการทำงานของบุคคลากรของ IRPC (ispirit)และขยายผลไปยังคู่ค้าและลูกค้า โดยคำนึงถึงหลักการ human centric

เพื่อคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีของทุกคนในสังคมผ่านการค้นคว้าวิจัยและพัฒนาจนได้นวัตกรรมที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ โดยไม่ละเลยการตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมในฐานะผู้ประกอบการอุตสาหกรรมปิโตรเลียมและปิโตรเคมี IRPCได้ดำเนินการจัดการปัญหาขยะพลาสติกซึ่งเป็นหนึ่งในความท้าทายที่สำคัญของอุตสาหกรรมพลาสติกไทยโดยริเริ่มโครงการ Eco Solutionหรือโมเดลต้นแบบการจัดการขยะพลาสติกตั้งแต่กระบวนการผลิตไปจนถึงขยะพลาสติกที่เกิดขึ้นหลังการใช้งาน เพื่อให้เกิดการรีไซเคิลอย่างถูกวิธีมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นกระบวนการทำงานแบบ Close Loopไม่ทำให้ขยะพลาสติกที่เกิดขึ้นจากกระบวนการผลิตออกนอกระบบไปเป็นภาระแก่ชุมชนและสังคม

โดยมีการรวบรวมและจัดทำฐานข้อมูลที่อยู่ในอุตสาหกรรมพลาสติกเพื่อนำมาใช้ในการบริหารจัดการและนำขยะพลาสติกกลับมาใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ โดยร่วมมือกันในการสร้างสรรค์ ออกแบบผลิตภัณฑ์ที่สามารถใช้วัตถุดิบที่มาจากขยะพลาสติกหรือเม็ดพลาสติกรีไซเคิล ซึ่งพร้อมที่จะนำไปขึ้นรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆที่สามารถใช้ได้ในชีวิตประจำวัน จนกลายเป็นสังคม Zero Plastic Wasteโครงการดังกล่าวนี้ได้รับความร่วมมือจากลูกค้าผู้ประกอบการในซึ่งอุตสาหกรรมพลาสติกระดับประเทศ 15 ราย ซึ่ง บริษัทไทยเวิล์ดแวร์ฯก็เป็นหนึ่งในพันธมิตรที่ได้เข้าร่วมโครงการนี้ด้วย

นอกจากนี้ IRPC เอง ยังได้คิดค้นวิจัยและพัฒนาเม็ดพลาสติกชนิดใหม่ๆที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อาทิเช่น Pararene ซึ่ง เป็นพลาสติกชนิด bio-based polystyrene grade ที่ประกอบด้วยวัสดุธรรมชาติ 20%เพื่อลดการใช้วัสดุที่เป็น oil-based ในกระบวนการผลิตและยังสามารถนำมารีไซเคิลได้ 100%ในเรื่องของความยั่งยืนนั้น การทำคนเดียวมันไม่ใช่ความยั่งยืนอย่างแท้จริงต้องขยายไปสู่ห่วงโซ่อุปทานรวมถึงลูกค้าและคู่ค้า ตั้งแต่ต้นน้ำไปยัง end product เพื่อส่งต่อผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสู่ผู้บริโภค โดยใช้องค์ความรู้และนวัตกรรมของเราให้เกิดประโยชน์สูงสุด”

ดร.นุกูล เอื้อพันธเศรษฐ ผู้อำนวยการวิจัยและพัฒนาหน่วยงานวิจัยและพัฒนาบรรจุภัณฑ์ บริษัทศูนย์วิทยาศาสตร์ เบทาโกรจำกัด กล่าวว่า “สถานการณ์โควิด-19ได้ส่งผลให้ผู้บริโภคตระหนักถึงคุณภาพและความปลอดภัยของอาหารยิ่งขึ้น รวมถึงให้ความใส่ใจกับการเลือกรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพทั้งการเข้าครัวเพื่อทำอาหารรับประทานเอง และสั่งเดลิเวอรี (Delivery)ทั้งหมดนี้ส่งผลเชิงบวกต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศบางส่วนให้ยังคงดำเนินต่อไปได้เครือเบทาโกรในฐานะผู้ผลิตอาหารชั้นนำของประเทศได้ตระหนักถึงหน้าที่สำคัญในการรักษาปลอดภัยของห่วงโซ่การผลิตอาหารอย่างสูงสุดเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบด้าน Food Supply ในวงกว้าง

นอกจากนี้จากแนวโน้มความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเครือเบทาโกรจึงตระหนักถึงความปลอดภัยในการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ควบคู่ไปกับความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและการบริหารจัดการขยะบรรจุภัณฑ์ตลอดช่วงอายุ (Green Value Chain)โดยความสำคัญกับบรรจุภัณฑ์ที่มีส่วนในการรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์อาหารทั้งด้านความสะอาด ความสดใหม่ และรสชาติ ตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบการผลิต การเลือกใช้เทคโนโลยี การออกแบบบรรจุภัณฑ์การแยกขยะบรรจุภัณฑ์หลังการบริโภคและการบริหารจัดการขยะบรรจุภัณฑ์อย่างเป็นระบบครบวงจรซึ่งเป็นอีกหนึ่งความท้าท้ายที่จะสำเร็จขึ้นได้จากความร่วมมือกันทั้งในเชิงกลยุทธ์และเชิงปฏิบัติการณ์ของภาครัฐและเอกชนทุกฝ่าย เกี่ยวข้องในGreen Supply Chain นี้

สำหรับการเข้าร่วมโครงการสร้างกรีนซัพพลายเชนครั้งนี้ทางเบทาโกรสนใจศึกษา Green Packaging Technology และคัดเลือกGreen Packaging Supplierที่เหมาะสมต่อผลิตภัณฑ์ของเครือเบทาโกรในรูปแบบต่าง ๆรวมถึงการมีส่วนร่วมกับคู่ค้าใน Green Supply Chainเพื่อสื่อสารเรื่องปัญหาสิ่งแวดล้อมให้กับผู้บริโภคในวงกว้างเพื่อสร้างความตระหนักรู้และการปลูกจิตสำนึก ซึ่งเครือเบทาโกร

คาดหวังว่าจากความร่วมมือครั้งนี้จะก่อให้เกิด Green Ecosystemอย่างเป็นรูปธรรมที่ส่งผลเชิงบวกต่อเศรษฐกิจ สังคมและชุมชนอย่างแท้จริงต่อไป”