Authority & Harm

ฝ่ายปค.พังงาวาวงแผนดักซุ่มจับเครือข่าย ยาเสพติด2วันรวบได้3ผู้ต้องหา



พังงา-ฝ่ายปกครองจังหวัดพังงาวาวงแผนดักซุ่มจับเครือข่ายยาเสพติดในสวนปาล์มน้ำมันที่ตะกั่วป่าและวันที่15กรกฏาคมฝ่ายปกครองจังหวัดพังงาบุกจับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติดกลางชุมชน รวบ 2 ผู้ต้องหา พร้อมยาบ้า 111 เม็ด อีก 4 รายพบปัสสาวะเป็นบวก

เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2568  ตั้งแต่เวลา 21.00 น.-02.00 น. ของวันรุ่งขึ้น ภายใต้การอำนวยการของ นายไพรัตน์ เพชรยวน ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา นายบัญชา ธนูอินทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา นายจักรกฤษณ์ ฝั่งชลจิตร์ ปลัดจังหวัดพังงา นายพิชญพัทธ์ เรืองชาตรี นายอำเภอตะกั่วป่า และนายศุภฤกษ์ เกตุสุรินทร์ ป้องกันจังหวัดพังงา ได้มอบหมายให้นายอัจฉริยะ เพียรทอง หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดพังงา นำสมาชิก อส. สังกัด ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดพังงา บูรณาการร่วมกับฝ่ายปกครองตะกั่วป่า ออกดำเนินการปราบปรามและแก้ปัญหายาเสพติดตามนโยบายสำคัญของรัฐบาล กระทรวงมหาดไทย กรมการปกครอง และ ผวจ.พังงา        

ด้วยชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดพังงา ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ ม.9 ต.โคกเคียน อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ที่สวนปาล์มแห่งหนึ่งมักเป็นสถานที่ ที่กลุ่มพ่อค้ายาจะใช้เป็นที่ซื้อขายยาเสพติดกันอยู่เป็นประจำ จึงขอให้ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดพังงาเข้าดำเนินการตรวจสอบ ทางเจ้าหน้าที่วางแผนส่งกำลังเข้าพื้นที่ดักซุ่มรอ จนถึงเวลาประมาณ 22.00 น. ก็ได้เห็นรถจักรยานยนต์คันหนึ่งขับซ้อน 3 เข้ามาในสวนปาล์ม เป็นผู้ชาย2คน หญิง1คน จากนั้นจึงไปจอดรถอยู่ภายในสวนปาล์มอยู่ช่วงเวลาหนึ่ง จากนั้นประมาณ 10 นาที จนขับออกมาจากด้านในสวนปาล์ม เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวขอตรวจค้น จนสามารถจับกุมตัว น.ส.จริยา (ขอสงวนนามสกุล) หรือหมวย อายุ 32 ปี ชาว ต.บางนายสี อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 202 เม็ด จึงแจ้งข้อกล่าวหา มียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 แอมเฟตามีน (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตเสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 แอมเฟตามีน (ยาบ้า) โดยไม่ได้รับอนุญาต  โดยผู้ถูกจับกุมได้รับสารภาพตลอดทุกข้อกล่าวหา จึงนำส่งพนักงานสอบสวนสภ.ตะกั่วป่าดำเนินการตามกฎหมาย ส่วนชายอีก2คนนั้นตรวจปัสสาวะพบสารเสพติดจึงได้นำตัวมาทำประวัติและนำเข้าสู่กระบวนการบำบัดตามระบบ บสต. ต่อไป

ฝ่ายปกครองพังงาบุกจับกุมเครือข่ายค้ายาบ้ากลางชุมชนรวบ2ผู้ต้องหา 

และล่าสุดภายใต้การอำนวยการของนายไพรัตน์ เพชรยวน ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา, นายบัญชา ธนูอินทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด, นายจักรกฤษณ์ ฝั่งชลจิตร์ ปลัดจังหวัด และนายศุภฤกษ์ เกตุสุรินทร์ ป้องกันจังหวัด ได้มอบหมายให้นายอัจฉริยะ เพียรทอง หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดพังงา นำกำลังสมาชิก อส. บูรณาการร่วมกับร่วมกับนายทรงชัย นาคฤทธิ์ กำนัน ต.ถ้ำน้ำผุด และผู้นำท้องที่ในตำบลถ้ำน้ำผุด ออกดำเนินการออกปราบปรามเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่ตามนโยบายรัฐบาลกระทรวงมหาดไทยและผู้ว่าราชการจังหวัด

สืบเนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้าน ม.2 ต.ถ้ำน้ำผุด ว่ามีชายวัยรุ่นชื่อเล่น “เวฟ” มีพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายยาเสพติดให้กับกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่  ทางเจ้าหน้าที่จึงวางแผนล่อซื้อ โดยสายลับสามารถซื้อมาจากเป้าหมายได้สำเร็จ ก่อนรายงานให้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมบุกเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 1/5 ม.2 ต.ถ้ำน้ำผุด เมื่อไปถึงไม่พบตัวนายเวฟ พบกลุ่มผู้ชายจำนวน 7 ราย และหญิง 2 ราย รวม 9 ราย กำลังนั่งเลี้ยงไก่อยู่หน้าบ้าน จึงเข้าควบคุมตัวไว้แล้วทำการสอบถามจนทราบนายเวฟพึ่งออกจากบ้านไป จึงตรวจสอบบริเวณโดยรอบบ้านจนสามารถจับกุมตัว นายจิระศักดิ์ (สงวนนามสกุล) หรือตั้ม อายุ 32 ปี ได้พร้อมของกลางยาบ้า 10 เม็ด โดยแจ้งข้อหาครอบครองและเสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (แอมเฟตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต 
ต่อมาก็มีชายวัยรุ่นคนหนึ่งขับขี่รถจักรยานยนต์สวมหมวกกันน็อกแบบเต็มใบ พร้อมสะพายกระเป๋าขับเข้ามาจอดบริเวณบ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัว วัยรุ่นคนดังกล่าวก็พยายามวิ่งหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงวิ่งไล่ติดตามจนสามารถจับกุมตัวได้ พบว่าคือนายอนุพงษ์ (สงวนนามสกุล) หรือเวฟ อายุ 21 ปี ชาว อ.เมืองพังงา พร้อมด้วยของกลางยาบ้าจำนวน 101 เม็ด ธนบัตรล่อซื้อ 2 ฉบับ ไฟแช็กดัดแปลง (ไฟลอย) 1 อัน จึงแจ้งข้อกล่าวหา มียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 แอมเฟตามีน (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยไม่ได้รับอนุญาต เสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 แอมเฟตามีน (ยาบ้า) โดยไม่ได้รับอนุญาต ขับขี่ยานพาหนะขณะมีสารเสพติดในร่างกาย โดยไม่ได้รับอนุญาต และเมื่อตรวจสอบพบว่า นายอนุพงษ์ฯ เพิ่งจะถูกจับกุมไปเมื่อช่วงต้นปีนี้ ขณะนี้ยังอยู่ในช่วงประกันตัวออกมาเพื่อต่อสู้คดี 

ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง2รายได้ให้การรับสารภาพ จึงทำการควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวนสภ.เมืองพังงา ดำเนินการทางกฎหมาย ขณะที่จากการตรวจปัสสาวะผู้ที่อยู่ในบ้าน พบว่า มี 4 ราย (ชาย 3 หญิง 1) มีสารเสพติดในร่างกาย เจ้าหน้าที่จึงทำประวัติและนำเข้าสู่กระบวนการบำบัดตามระบบ บสต. ต่อไป