Authority & Harm
สรุปลำดับเหตุการณ์เรือหางยาวชนกันจม น้ำตาย1รายในแม่น้ำปราจีนจนพบศพ

ปราจีนบุรี-รายงานสรุปลำดับเหตุการณ์เรือหางยาวชนกันจมน้ำตาย 1 รายในแม่น้ำปราจีนบุรี บริเวณโค้งคุ้งแม่น้ำต้นน้ำปราจีนบุรีใกล้สะพาน หน้าวัดวังบัวทองหมู่ที่ 4 ต.หาดนางแก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี
เมื่อเวลา 19.55 น.วันนี้ 16 ก.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ปราจีนบุรีสรุป เหตุการณ์อุบัติเหตุทางน้ำ เรือหางยาว 2ตอนของชาวประมงพื้นบ้าน 2 ลำคือนายโยธิน สาหร่าย อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 117 หมู่ที่ 4 ต.หาดนางแก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี กับนายชัชชัย หรือ เปิล อินไพร อายุ 43 ปี เลขที่ 79/2 หมู่ 4 ต.หาดบางแก้ว ที่ต่างออกวางตาข่ายหาปลาในต้นน้ำแม่น้ำปราจีนบุรีลำ ได้ชนประสานงากันในแม่น้ำปราจีนบุรี ขณะต่างฝ่ายกำลังเร่งขับเรือกลับบ้านเรือสวนทางกันช่วงโค้งแล้วชนกันสนั่น เมื่อค่ำของวันที่14 ก.ค.68 สถานที่เกิดเหตุบริเวณโค้งคุ้งแม่น้ำต้นน้ำปราจีนบุรีใกล้สะพาน หน้าวัดวังบัวทองหมู่ที่ 4 ต.หาดนางแก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี
ส่งผลให้มีคนขับเรือหาปลาสูญหายภายในน้ำ 1 ราย คือ นายโยธิน สาหร่าย อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 117 หมู่ที่ 4 ต.หาดนางแก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ส่วนอีก 1 รายคือนายชัชชัย หรือเปิล อินไพร อายุ 43 ปี เลขที่ 79/2 หมู่ 4 ต.หาดบางแก้ว ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
ต่อมา เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสัจจะพุทธธรรม แห่งประเทศไทย (อ.กบินทร์บุรี) พร้อมทีมค้นหาใต้น้ำอุปกรณ์ส่องสว่าง และเครื่องซาวเดอร์ค้นหาใต้น้ำร่วมกับชาวบ้านกว่า 50 คน ช่วยกันค้นหาตัวบุคคลสูญหายในที่เกิดเหตุตลอดทั้งคืนแต่ไม่พบ
ในวันที่2 ของการติดตามค้นหา พ.ต.ต.โสภณ จีนสุทธิ์ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.สระบัว อ.กบินทร์บุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานร่วมตรวจสอบร่องรอยการเฉี่ยวชนของเรือหางยาว และ สอบถามพยานสิ่งแวดล้อมที่บริเวณจุดเกิดเหตุ มีญาติและเพื่อนคนสูญหายจำนวนมากยังปักหลักเฝ้าดูตรงจุดเกิดเหตุตลอดทั้งคืนทั้งวันด้วยความเป็นห่วงแต่ยังไม่พบร่างของผู้สูญหายแต่อย่างใด
เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้จำลองเหตุการณ์ขณะที่เรือของเรือทั้ง 2 ลำวิ่งสวนกันบริเวณทางโค้งคุ้งแม่น้ำ โดยใช้เชือกยาว 10 เมตรมัดถ่วงกับก้อนหินโยนลงในน้ำดูว่า หลังจากเรือชนกันผู้สูญหายตกลงในน้ำแล้วถูกกระแสน้ำพัดไปจะถูกน้ำพัดไปติดอยู่บริเวณใดซึ่งระดับน้ำในแม่น้ำปราจีนบุรีตรงจุดเกิดเหตุมีความรู้เฉลี่ย 6 เมตร ซึ่งกระแสน้ำด้านล่างมีการไหลวนย้อนขึ้นเป็นบางช่วง
ช่วงโค้งคุ้งแม่น้ำนี้ชาวบ้านบอกว่า มักเกิดอุบัติเหตุทางน้ำประจำ จึงพากันออกมาช่วยค้นหาและแจ้งกู้ภัยฯมาช่วยค้นหาต่ออีกตลอดทั้งวัน-ทั้งคืนจนถึงเป็นวันที่ 2แล้วแต่ก็ยังไม่พบ
ทางภรรยาคนตายบอกว่า ก่อนสามีออกจากบ้านวันเกิดเหตุมีลางสังหรณ์ร้าย สามีพูดกับลูกว่า "พ่ออายุ 50 ปี วัยเบญจเพศก็จะตายแล้ว"พูดกับลูกสั้นๆเพียงแค่นี้ ถ้าหากพบร่างของสามีก็จะนำไปบำเพ็ญกุศลศพทางศาสนาที่วัดบางบัวทองในหมู่บ้าน
ด้านชาวบ้านได้จุดธูปบอกกล่าวให้คนหาปลาที่เคยถูกแหพันจมน้ำตายขณะหาปลาช่วงเวลาโพล้เพล้ผีตากผ้าอ้อมช่วงหน้าวัดบริเวณเดียวกับเรือล่มนี้ ให้เปิดทางให้เห็นร่างของผู้สูญหายด้วย และเชื่อว่าเป็นตัวตายตัวแทน
และ ในวันนี้ (16 ก.ค.) วันที่ 3 ของการจมน้ำสูญหาย ช่วงเช้า ทางภรรยาคนตายพร้อมญาติ หมอดู ในหมู่บ้าน ได้พากันมาทำพิธีขอขมาที่ริมแม่น้ำที่เกิดเหตุ
โดยเมื่อคืนก่อนหน้าวิญญาณมาเข้าฝันเมียพบคนตายว่าไม่ใส่เสื้อผ้าบอกหนาวและหิวข้าว ขอให้ทำพิธีเอาข้าวให้กินเมียได้นำอาหารหวานคาว มาทำพิธีเปิดทางให้สามีได้กิน ที่บริเวณท่าน้ำห่างจากจุดเกิดเหตุ 300 เมตร โดยหมอดูบอกว่าร่างของสามีมาติดอยู่ที่บริเวณนี้ หากเพระแม่คงคาได้กินอาหารหวานคาวเสร็จแล้ว จะทำให้พบเห็นร่างของคนตาย
และก่อนหน้าช่วงกลางดึกได้นำไห 4 หู ไปทิ้งกลับคืนไว้ตรงบริเวณเหนือจุดเกิดเหตุ ทั้งนี้ก่อนหน้าคนสูญหายไปหาปลาในแม่น้ำปราจีนบุรีที่เหนือสะพานหน้าวัดวังบัวทองหน้าศาล แล้วเจอไหโบราณ 4 หู จึงได้นำขึ้นไปไว้ที่วัดวังบัวทอง หมอดูบอกเจ้าของไหได้อยากได้ไหคืน ไหดังกล่าวคนสูญหายได้มา 1 ปีกว่าในแม่น้ำขณะคนสูญหายไปหาปลาที่เหนือสะพานหน้าวัดวังบัวทองหน้าศาลเก่าพบ หากเอาไปคืนจะพบศพ จึงช่วยกันนำไปคืนแล้วเมื่อกลางดึกเมื่อคืนนี้และเชื่อปมการตายมาจากคนตายไปหาปลาพบไหโบราณแล้วได้นำขึ้นมาจากแม่น้ำหน้าศาลเจ้าที่เจ้าของสมบัติหวงมาทวงคืนพร้อมเอาชีวิต
หลังจากได้ทำพิธีจุดธูปขอขมาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้วร่องเรือหากัน 8 ลำ ห่างจากที่เกิดเหตุ 300 เมตร พบคนสูญหายตายขึ้นอืดติดในพุ่มไม้ริมตลิ่งสภาพร่างนายโยธินไม่สวมเสื้อนุ่งกางขาสั้นสีดำลอยคว่ำหน้าติดอยู่ใต้พุ่มไม้ริมตลิ่งจากจุดเกิดเหตุ 300เมตร จึงแจ้งตำรวจและแพทย์เวร จากโรงพยาบาลกบินทร์บุรี ร่วมชันสูจน์พลิกศพของผู้เสียชีวิต สภาพศพตามร่างกายเปื่อยยุ่ยบางส่วน มีเลือดออกที่ปาก ญาติไม่ติดใจจะตั้งบำเพ็ญกุศลศพที่วัดวังบัวทองโดยจะสวดพระอภิธรรม 3 คืน
มานิตย์ สนับบุญ-ข่าว / ทองสุข สิงห์พิมพ์ – ภาพ / ปราจีนบุรี