In Thailand

ร้อยเอ็ดถกคกก.โรคติดต่อมีมติ5เรื่องด่วน



ร้อยเอ็ด-ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดร้อยเอ็ด ได้มีมติสำคัญ 5 เรื่องใหญ่และย้ำเข้มงวดป้องกันโควิดอีก 7 ประเด็นสำคัญ

วันที่ 21 กรกฎาคม 2564 เวลา 13.30 น. นายชยันต์ ศิริมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดร้อยเอ็ด ตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ครั้งที่ 42/2564 ร่วมกับคณะกรรมการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) และคณะทำงานศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคจังหวัดร้อยเอ็ด (ศปก.จ.รอ) ณ ห้องประชุมพระเวสสันดร ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมนี้ได้มีการประชุมผ่านระบบ Zoom   Meeting ไปยังหน่วยงานราชการ นายอำเภอ และหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยมีนายเธียรชัย พุทธรังษี รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด นายชูศักดิ์ ราชบุรี ปลัดจังหวัดร้อยเอ็ด  นายปิติ ทั้งไพศาล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด  นายชาญชัย จันทร์วรชัยกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลร้อยเอ็ด พร้อมด้วยคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดร้อยเอ็ด คณะกรรมการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) และคณะทำงานศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคเรืจังหวัดร้อยเอ็ด (ศปก.จ.รอ) เข้าร่วมประชุม

การประชุมในครั้งนี้ที่ประชุมได้รับทราบ สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)และผลการดำเนินงานให้บริการวัคซีนโควิด-19 จังหวัดร้อยเอ็ด คำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่ 10 /2564 เรื่องพื้นที่สถานการณ์ที่กำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด  พื้นที่ควบคุม และพื้นที่เฝ้าระวังสูง ฯ ลงวันที่ 18 กรกฎาคม 2564  ประกาศจังหวัดร้อยเอ็ด เรื่องมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันควบคุมการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019  (โควิด-19) ฉบับที่ 37 ลงวันที่ 21 กรกฎาคม 2564  แนวทางการประสานรับส่งผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 กลับมารักษาต่อที่จังหวัดร้อยเอ็ด การสื่อสารความเสี่ยงและสร้างการรับรู้สำหรับประชาชน การดำเนินการตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ของหน่วยงานอื่นๆ  ที่เกี่ยวข้อง และ ที่ประชุมได้มีมติสำคัญ ดังนี้
1. เห็นชอบการเสนอขอจัดซื้อวัคซีนโมเดอร์นา  (Moderna) จากสภากาชาดไทย จำนวน 18,200 โด๊ส เพื่อจัดสรรและฉีดให้กลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่มเปราะบางในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด ตามข้อเสนอของอบจ.ร้อยเอ็ด
2. เห็นชอบในการจัดซื้อชุดน้ำยาเก็บตัวอย่างสิ่งส่งตรวจ (VTM) และอุปกรณ์สำหรับเก็บตัวอย่าง เพื่อตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนนา 2019 ทางห้องปฏิบัติการ ตามที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ดเสนอ
3. เห็นชอบในหลักการในการจัดหาชุดตรวจ Antigen Test Kit (ATK) สำหรับตรวจคัดกรองการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ตามที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ดเสนอ
4. เห็นชอบในการจัดงานส่งเสริมการเผยแพร่พระพุทธศาสนาเนื่องในเทศกาลวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา ประจำปี 2564 โดยให้ปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนด และตามมติมหาเถรสมาคมโดยเคร่งครัด
5. เห็นชอบในการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวออกนอกพื้นที่เพื่อการทำงาน ลูกจ้างสัญชาติ เมียนมา จำนวน 24 คน จากอำเภอเสลภูมิ ไปจังหวัดภูเก็ต ตามที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดร้อยเอ็ดเสนอ

โอกาสนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ดได้เน้นย้ำในประเด็นสำคัญ ดังนี้
1. เข้มงวดควบคุมการติดเชื้อภายในจังหวัดในอยู่ในระดับที่สามารถจัดการได้
2. หน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจทุกแห่งให้ Work Form Home ร้อยละ 50
3. ข้าราชการ ลูกจ้าง พนักงาน ของรัฐ/รัฐวิสาหกิจ งดเดินทางออกนอกพื้นที่จังหวัด กรณีมีเหตุจำเป็นต้องขออนุญาตจากผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น /งดเดินทางไปพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด กรณีมีเหตุจำเป็นต้องขออนุญาต และเมื่อเดินทางกลับมาต้องรายงานตัว กักตัว ตรวจโรค และแจ้งเจ้าพนักงานควบคุมโรคทราบ การประชุม/อบรม สัมมนา ที่เป็นการรวมคนให้งดหรือเลื่อนออกไปก่อน กรณีจำป็นให้ถือปฏิบัติตามประกาศจังหวัด หรือจัดประชุมทางออนไลน์
4. จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการฯ ทุกระดับ (จังหวัด อำเภอ ตำบล / จัดตั้งชุดลาดตระเวรเคลื่อนที่เร็วประจำศูนย์ 24 ชม.
5. ตั้ง Local Quarantine ทุกระดับ (จังหวัด อำภอ ตำบล) และต้องมี Community Isolation (CI) ทุกตำบล
6. เร่งตรวจเชื้อทุกรายที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง แยกกักตัว / แยกผู้ป่วยให้หมาะสม ป่วยหนักรักษาครบ จบได้แน่
7. ให้ทุกอำเภอจัดทำข้อมูลผู้เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง/ผู้ป่วยแยกรายตำบล เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการบริหารจัดการในระดับพื้นที่ ทั้งการจัดหาเตียงรองรับ และการสนับสนุนด้านงบประมาณของอปท. รวมถึงการวางแผนจัดซื้อ ATK สำหรับตรวจคัดกรองโรคแต่ละพื้นที่ต่อไป

พร้อมนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ดได้กล่าวว่า จังหวัดร้อยเอ็ดจะสนับสนุนให้มีการปลูกพืชสมุนไพร โดยเฉพาะฟ้าทะลายโจร กระชายขาว และตรีผลา รวมถึงพืชสมุนไพรชนิดอื่นๆ ให้มากขึ้น เพื่อนำไปสู่การผลิตเป็นยาสมุนไพรเพื่อรักษาโรคต่างๆ ต่อไป

“เร่งตรวจเชื้อ แยกกักตัว คัดแยกผู้ป่วยให้เหมาะสม ป่วยหนักรักษาครบ จบได้แน่...โควิด 101”