Authority & Harm
รพ.นครปฐมชี้แจง'อาการผู้ป่วยถูกรถทับ' ที่องค์พระปฐมเจดีย์กระดูกหลังหัก3ชิ้น

นครปฐม-โรงพยาบาลนครปฐมออกประกาศรายงานอาการบาดเจ็บผู้ป่วยถูกรถทับภายในองค์พระปฐมเจดีย์ พบมีกระดูกสันหลังส่วนคอหักสามชิ้นและส่วนอกอีกสองชิ้น โดยเตรียมทำการผ่าตัดในวันที่ 31 กรกฎาคม 2568 นี้ และเรียนแจ้งความคืบหน้าให้ทราบต่อไป
วันที่ 30 กรกฎาคม 68 จากกรณีที่มีคลิบภาพวงจรปิดชายชราถูกรถยนต์ SUV ขับเคลื่อนมาทับร่างขณะกำลังนั่งอยู่ในลานจอดรถภายในรั้วองค์พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม ฝั่งตะวันตก ซึ่งปรากฏเป็นภาพสะเทือนใจเมื่อพบว่าคนขับเป็นหญิงค่อนข้างมีอายุ ได้ลงมานิมนต์สามเณรมาดูและรีบเดินออกจากไปจากที่เกิดเหตุโดยไม่ได้อยู่ดูอาการหรือช่วยประสานงานเพื่อการช่วยเหลือเบื้องต้น จนเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณถึงเหตุการณ์ที่กล้องสามารถจับภาพได้ ในเหตุการณ์ดังกล่าว
ล่าสุด โรงพยาบาลนครปฐม ออกประกาศโรงพยาบาลนครปฐมเรื่องการบาดเจ็บของผู้ป่วยที่โดนรถทับ ตามคลิบที่ปรากฏ โดยมีข้อความว่า ประกาศโรงพยาบาลนครปฐม เรื่อง รายงานอาการบาดเจ็บของผู้ป่วยที่โดนรถทับ ที่บริเวณถนนด้านในองค์พระปฐมเจดีย์ (ฉบับที่ 1)
จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 เวลาประมาณ 07.00 น. โรงพยาบาลนครปฐม ได้รับรายงานว่า เกิดอุบัติเหตุมีชายสูงอายุถูกรถทับ บริเวณถนนในองค์พระปฐมเจดีย์ หลังเกิดเหตุ รถกู้ชีพโรงพยาบาลนครปฐม นำส่งผู้ป่วยมายังห้องฉุกเฉินโรงพยาบาล ผู้ป่วยรู้ตัว สัญญาณชีพอยู่ในเกณฑ์ปกติ แพทย์ตรวจ พบบาดแผลฉีกขาดบริเวณ ใบหูข้างซ้ายและคาง ขาอ่อนแรงทั้งสองข้าง ส่งเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์สมองและคอ พบว่า กระดูกสันหลังส่วนคอชิ้นที่ห้าถึงเจ็ดและกระดูกสันหลังส่วนอกชิ้นที่หนึ่งหักไม่มีเลือดออกในสมอง ไม่พบรอยแตกของกะ แพทย์ให้การรักษาโดยการดึงกระดูกกะโหลกศีรษะ (skull traction) และวางแผนผ่าตัดยึดตรึงกระดูกหักด้วยสกรู ( Pedicle screw fixation)
ผู้ป่วยมีโรคประจำตัว ภาวะหัวใจเต้น ใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจและมีภาวะซีด ขณะ แพทย์ศัลยกรรม อายุรกรรมแพทย์โรคหัวใจ และทีมพยาบาล ให้การรักษาอย่างใกล้ชิดในหอผู้ป่วยศัลยกรรมกระดูกและข้อ และแพทย์ได้แก้ไขภาวะซีด โดยให้เลือดทดแทนหนึ่งถุง และเตรียมผู้ป่วยเพื่อผ่าตัดในวันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ซึ่งทางโรงพยาบาล จะรายงานความก้าวหน้าการให้การรักษาในโอกาสต่อไป โรงพยาบาลนครปฐม 30 กรกฎาคม 2568
ทั้งนี้จากคลิปดังกล่าวได้มีกระแสข่าวออกไปว่าผู้ได้รับบาดเจ็บชายสูงวัยที่ปรากฏในคลิปได้เสียชีวิตลงแล้วจึงได้มีการแจ้งว่าผู้ป่วยยังได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดจากทีมแพทย์พยาบาลโรงพยาบาลนครปฐมซึ่งขณะนี้ได้มีการติดต่อประสานงานกับทางญาติแล้ว ขณะที่มีการสอบถามข้อมูลจากผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์แต่ยังไม่มีใครกล้าให้ข้อมูลอย่างชัดเจนซึ่งเป็นสิ่งที่สังคมกำลังจับตาถึงการช่วยเหลือและการเยียวยาของผู้ขับรถที่เป็นหญิงคนดังกล่าว