In Bangkok

กทม.คิกออฟจดทะเบียนสัตว์เลี้ยงชวนรับ เลี้ยงน้องฝังชิปเช็กสุขภาพฟรี



กรุงเทพฯ-กรุงเทพมหานครจัดกิจกรรม “KICK OFF การจดทะเบียนสัตว์เลี้ยง กรุงเทพมหานคร” ในวันเสาร์ที่ 2 และวันอาทิตย์ที่ 3 สิงหาคม 2568 ตั้งแต่เวลา 10.00 - 18.00 น. ณ ลานโปรโมชั่น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล อีสวิลล์ เขตลาดพร้าว โดยวันนี้ (2 ส.ค. 68) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดงาน โดยมี รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นพ.สุนทร สุนทรชาติ รองปลัดกรุงเทพมหานคร นายณภัค เพ็งสุข สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตลาดพร้าว นายธนเดช เพ็งสุข สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขตลาดพร้าว-บึงกุ่ม ผู้บริหารกรุงเทพมหานคร สำนักอนามัย สำนักงานเขตลาดพร้าว พร้อมผู้บริหารและผู้แทนภาคีเครือข่าย ร่วมเป็นเกียรติในงาน และพญ.ภาวิณี รุ่งทนต์กิจ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย เป็นผู้กล่าวรายงาน

● “จดทะเบียนสัตว์เลี้ยง” สำคัญอย่างไร?

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวว่า ปัจจุบันโลกเปลี่ยนไป สุนัขหรือแมวเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต การควบคุมดูแลและมีความรับผิดชอบจึงเป็นสิ่งสำคัญ โครงการลงทะเบียนหมาแมวของกรุงเทพมหานครเป็นโครงการสำคัญ เนื่องจากมีข้อบัญญัติใหม่ออกมา ที่กำหนดให้คนที่เลี้ยงสุนัขและแมวในเขตกรุงเทพมหานครต้องมีการลงทะเบียน โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อดูแลสุขอนามัยของสัตว์เลี้ยง และป้องกันการติดต่อโรคจากสัตว์สู่คน เช่น โรคพิษสุนัขบ้า ซึ่งยังพบอยู่ในแถวรอบนอกของกรุงเทพมหานคร และสุดท้ายคือการป้องกันการนำสุนัขแมวไปทิ้งให้กลายเป็นสุนัขแมวจรจัด ซึ่งเป็นปัญหาในหลายชุมชน

สำหรับตัวเลขสุนัขแมวที่มีเจ้าของขณะนี้อยู่ที่ประมาณ 170,000 ตัว ส่วนหมาแมวจรจัดประมาณ 30,000 ตัว แต่เชื่อว่ามีมากกว่านั้น หากมีการลงทะเบียนที่ชัดเจนจะทราบว่าใครนำหมาแมวไปปล่อย หรือหมาแมวพลัดหลงอยู่ที่ไหน จะได้ตามเจ้าของได้ถูก 

การลงทะเบียนที่ชัดเจนจะช่วยควบคุมการปล่อยสัตว์ หรือการเลี้ยงเพื่อแฟชั่นแล้วสุดท้ายนำไปทิ้ง ประชาชนอาจมองว่ายุ่งยาก แต่ในเมือง การเลี้ยงสัตว์ต้องมีความรับผิดชอบ การลงทะเบียนเพียงครั้งเดียว และติดชิปครั้งเดียว จากนั้นฉีดวัคซีนต่อเนื่อง เชื่อว่าในระยะยาวจะทำให้เมืองดีขึ้น มีความรับผิดชอบมากขึ้น และสุขอนามัยของทุกคนดีขึ้น

“พวกเราอาจจะต้องช่วยกันคนละไม้คนละมือ เราต้องดูแลสัตว์เลี้ยงให้ดี เพราะการดูแลสัตว์เลี้ยงเป็นความรับผิดชอบต่อสังคม กฎหมายจะเริ่มบังคับใช้ในวันที่ 10 มกราคม 2569 พวกเราที่มีสัตว์เลี้ยงก็ต้องมาลงทะเบียนกัน” ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าว

● ลงทะเบียนยากไหม? ทำที่ไหนได้บ้าง?

รองผู้ว่าฯ ทวิดา ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม ปีหน้า กฎหมายจะบังคับใช้แล้ว แต่ระหว่างนี้สามารถไปรับบริการและจดทะเบียน-ฝังชิป ได้ที่คลินิกสัตวแพทย์ของกรุงเทพมหานคร 8 แห่ง และหน่วยที่ลงพื้นที่ชุมชน ซึ่งหน่วยบริการของเราไม่ได้มีแค่ฉีดวัคซีน ทำหมัน แต่สามารถฝังชิปได้ด้วย โดยประชาชนสามารถติดตามหน่วยเคลื่อนที่ได้จากเฟซบุ๊กเพจ “กรุงเทพมหานคร” และ “สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร” หรือหากไปจดที่คลินิกเอกชนเอง ก็อาจมีค่าใช้จ่ายเล็กน้อย แต่สามารถนำเลขที่จดส่งมาที่กรุงเทพมหานครเพื่อขอขึ้นทะเบียนในระบบได้เช่นกัน

● กฎหมายใหม่เข้ม! พื้นที่ไม่พอ เลี้ยงเพิ่มไม่ได้ – ย้ายบ้านต้องแจ้ง

นอกจากนี้ ในข้อบัญญัติยังมีเรื่องขนาดพื้นที่การเลี้ยงสัตว์ เช่น ในคอนโดมิเนียมหรือห้องแถว จะมีตารางเมตรกำหนดว่าเลี้ยงได้กี่ตัว ถ้าเป็นบ้านจะกำหนดโดยพื้นที่บ้าน เช่น 50 ตารางวา 100 ตารางวา ซึ่งสามารถเลี้ยงสูงสุดได้ 6 ตัว หากท่านเลี้ยงเกินอยู่ก่อนที่กฎหมายจะบังคับใช้ กฎหมายจะไม่บังคับท่าน แต่ถ้านับจากวันที่กฎหมายบังคับ ท่านไม่สามารถเลี้ยงเพิ่มในพื้นที่ที่ไม่ได้รับอนุญาตหรือพื้นที่ที่ไม่เพียงพอได้แล้ว ทั้งนี้ แนะนำให้มาจดทะเบียนกับเรา ทางเราจะได้ให้คำปรึกษา อย่างไรก็ตาม หากท่านมีสัตว์เลี้ยงเกินจำนวนที่กำหนด อย่าทิ้งสัตว์เหล่านั้น ให้แจ้งเราว่าท่านเลี้ยงเกินอยู่ก่อนหน้านั้นแล้ว แต่ถ้าหลังจากกฎหมายถูกบังคับใช้ก็ต้องควบคุมไปกับเราด้วย

เรื่องการเปลี่ยนที่อยู่ รองผู้ว่าฯ ทวิดา กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อมีการเปลี่ยนที่อยู่ ต้องแจ้งให้พื้นที่ที่เราย้ายไปทราบทุกครั้ง เพื่อให้สามารถกำกับควบคุมได้ แม้เจ้าหน้าที่อาจไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบทุกบ้านได้จริง แต่หากเริ่มมีเสียงรบกวนเพื่อนบ้าน หรือมีปัญหาสุขอนามัย กลิ่น และมีการร้องเรียนเข้ามา เจ้าหน้าที่จะต้องดำเนินการตามกฎหมาย มีค่าปรับและมีการจัดการ แต่อย่าให้ไปถึงจุดนั้นเลย แนะว่าบ้านใกล้เรือนเคียงกันควรอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ดูแลน้องหมาน้องแมวของเราให้ดี เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาเหล่านี้

● พร้อมรับมือ! 1,000 ชิป รอให้บริการในงาน

สำหรับการออกหน่วย โดยปกติจะมีคนมาฝังชิปและจดทะเบียนกับเราหลักร้อย ซึ่งยังไม่มากเมื่อเทียบกับจำนวนสัตว์เลี้ยงที่มีเจ้าของทั้งหมดประมาณกว่า 170,000 ตัว โดยจากกฎหมายเดิมที่บังคับใช้ มีคนจดทะเบียนแล้วประมาณ 100,000 ตัว ยังเหลืออีกกว่า 70,000 ตัว ซึ่งถือเป็นข้อมูลปัจจุบัน แต่คาดว่าอาจมีการเปลี่ยนแปลงของตัวเลขเนื่องจากการคลอดลูกของสัตว์เลี้ยง โดยเราพยายามติดตามอยู่ หากถามว่าเราพร้อมไหม ทำทันไหม ขอตอบว่าชิปที่มีตอนนี้พร้อมแล้ว ภายในงานสองวันนี้มี 1,000 ชิป สามารถนำสัตว์เลี้ยงมารับบริการได้ ซึ่งหากใครมาวันนี้ไม่ทัน พรุ่งนี้ก็ยังสามารถมาที่เซ็นทรัลอีสวิลล์ได้ อย่างไรก็ตาม คาดว่าสามารถจดทะเบียนได้ทันกับจำนวนสัตว์เลี้ยงที่มีเจ้าของที่มีในขณะนี้

● เดินหน้าทำหมัน ควบคุมสัตว์จรไม่ให้เพิ่ม

 “ในส่วนของสัตว์จรจัด เราได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยได้องค์กรอย่าง Soi Dog ช่วยในการทำหมันเป็นอย่างมาก ตอนนี้หน่วยของเราออกทำหมันเกือบทุกวัน และมีความสามารถในการทำหมันได้ 100-200 ตัวต่อวัน ซึ่งมากกว่าเมื่อก่อนที่ทำได้เพียง 30-40 ตัว เชื่อว่าหากมีการควบคุมจำนวน จดทะเบียน รู้ว่าสัตว์เลี้ยงอยู่ไหน ร่วมมือกันไม่ทิ้งสัตว์เลี้ยง และมีการทำหมันด้วย จะช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น” รองผู้ว่าฯ ทวิดา กล่าว

ด้าน ส.ก. ณภัค กล่าวว่า ในพื้นที่เขตลาดพร้าว ปัจจุบันมีการจัดกิจกรรมทำหมันหมาแมว ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า โดยสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร ซึ่งนอกจากงานในครั้งนี้ จะมีกิจกรรมแบบนี้ในอีก 2 เดือนข้างหน้า สามารถติดตามตารางกิจกรรมในแต่ละพื้นที่เขตทั้ง 50 เขตของกรุงเทพมหานครได้ทางเฟซบุ๊กเพจ “กรุงเทพมหานคร” และ “สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร” 

โอกาสนี้ ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ได้กล่าวขอบคุณภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ที่ช่วยทำโครงการนี้ และขอให้ขยายโครงการไปทุกห้าง เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงได้ง่าย โดยทางกรุงเทพมหานครเองก็จะพยายามขยายการให้บริการให้มากขึ้น พร้อมทั้งได้อวยพรให้โครงการประสบความสำเร็จและขอให้บริการประชาชนอย่างดีที่สุด

● เปิดที่มาของการปรับปรุงข้อบัญญัติ–การจัดงาน กระตุ้นการเลี้ยงสัตว์ด้วยรักและรับผิดชอบ 

สำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน กรุงเทพมหานครมีสุนัขและแมวทั้งมีเจ้าของและไม่มีเจ้าของรวมกันกว่า 200,000 ตัว รวมถึงสัตว์ประเภทอื่น ๆ เช่น โค กระบือ แพะ แกะ กระต่าย นก และสัตว์พิเศษ Exotic อีกจำนวนมาก ซึ่งอาจสร้างปัญหาด้านสาธารณสุข สังคม และการท่องเที่ยว โดยสำนักอนามัยได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับสัตว์ที่สร้างปัญหาเดือดร้อนรำคาญ ทั้งด้านความปลอดภัย สุขอนามัย การแพร่พันธุ์ การทอดทิ้งสัตว์ และการจัดสวัสดิภาพสัตว์ที่ไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาดังกล่าว จึงได้มีการปรับปรุงข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง การควบคุมการเลี้ยงหรือปล่อยสัตว์ พ.ศ. 2567 ขึ้นมาใหม่ แทนฉบับเดิมที่ใช้มาตั้งแต่ พ.ศ. 2545 และ พ.ศ. 2548

กิจกรรม “KICK OFF การจดทะเบียนสัตว์เลี้ยง กรุงเทพมหานคร” จัดขึ้นเพื่อประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง ควบคุมการเลี้ยงหรือปล่อยสัตว์ พ.ศ. 2567 และกระตุ้นให้ประชาชนมีความรับผิดชอบในการเลี้ยงสัตว์ เพื่อให้กรุงเทพมหานครเป็นพื้นที่ที่ประชาชนและสัตว์อยู่ร่วมกันด้วยความรักและมีความรับผิดชอบในสังคม โดยกรุงเทพมหานคร ทั้งสำนักอนามัย และสำนักงานเขตลาดพร้าว ได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากเครือข่ายต่าง ๆ อาทิ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) บริษัท พาร์ทเนอร์ฮับ จำกัด โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ สมาคมสงเคราะห์สัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ มูลนิธิเพื่อสุนัขในซอย (Soi Dog) มูลนิธิเดอะวอยซ์ (เสียงจากเรา) รวมถึงอินฟลูเอนเซอร์ที่ดูแลน้องหมาน้องแมว

● กิจกรรมเพียบ! ชวนจูงน้อง ๆ มาร่วมงานฟรี

ภายในงานมีการเสวนาเกี่ยวกับการจดทะเบียนสัตว์เลี้ยงของกรุงเทพมหานคร การให้บริการฉีดไมโครชิปสุนัขและแมว การจดทะเบียนสุนัขและแมว การฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า การตรวจสุขภาพเบื้องต้นและให้คำปรึกษาเกี่ยวกับสุขภาพสัตว์เลี้ยง การหาบ้านให้สุนัขและแมวจรจัดจากบ้านพักพิงชั่วคราวน้องหมาน้องแมวที่ประเวศ การเสวนา “การจดทะเบียนสัตว์เลี้ยง กรุงเทพมหานคร” การพบปะพูดคุยกับ Pet Influencer ชื่อดัง เช่น น้องลาเต้, น้องหมูปั้น, น้องหมูหวาน, น้องเบรด, น้องป๊อบคอร์น, น้องบิงซู, น้องซอนมุล, น้องโซอา, น้องแดอุน, น้องแดซอง กิจกรรม Pet Fashion Show - Rainy Season Theme การพูดคุยกับเจ้าของน้อง ๆ สุนัขที่ได้รับการอุปการะจากศูนย์พักพิงสุนัขของกรุงเทพมหานคร และร่วมรับฟังมุมมอง “Adopt not Shop” บริการ Mini-Grooming (เช็ดหู, ตัดเล็บ) กิจกรรมร่วมแจกของรางวัล “Pet Lucky Draw” และกิจกรรมที่น่าสนใจอื่น ๆ จากภาคีเครือข่ายต่าง ๆ อีกมากมาย โดยไม่มีการคิดค่าใช้จ่าย 

ขอเชิญชวนประชาชนผู้เลี้ยงสัตว์และผู้สนใจ เข้าร่วมงานเพื่อรับความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการเลี้ยงสัตว์อย่างรับผิดชอบ พบปะ Pet Influencer ในดวงใจ และใช้บริการต่าง ๆ ภายในงานได้ฟรี