EDU Research & Innovation
มทร.ธัญบุรีเปิด 'โครงการตื่นรู้ตื่นธรรม' ปั้นต้นแบบพัฒนาภาวะผู้นำผ่านธรรมะ

ปทุมธานี-รองศาสตราจารย์ ดร.พิมลพรรณ เพชรสมบัติ ประธานหลักสูตรศึกษาศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี เปิดเผยว่าในยุคที่โลกหมุนเร็ว เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงรายวัน ผู้คนเร่งรีบ ไล่ล่าความสำเร็จ ผู้นำทางการศึกษาจึงไม่สามารถเป็นได้เพียงคนเก่งที่มีทักษะจัดการงานหรือมีอำนาจตัดสินใจเท่านั้น แต่ต้อง “เข้าใจตนเอง” บริหาร “ใจ” เป็น และสามารถ “จุดประกาย” ผู้อื่นให้เติบโตอย่างมีความสุขได้ด้วยเมตตาและปัญญา
จากแนวคิดนี้เอง จึงเกิดเป็นโครงการ “ตื่นรู้ ตื่นธรรม สร้างผู้นำสู่อนาคต” ที่ริเริ่มโดย รองศาสตราจารย์ ดร.พิมลพรรณ เพชรสมบัติ ซึ่งได้นำหลักธรรมะและศาสตร์แห่งการพัฒนาจิตใจ มาผสานกับวิชาการด้านการบริหารการศึกษา เพื่อสร้างผู้นำยุคใหม่ที่พร้อมทั้ง “บริหารงานได้” และ “บริหารใจเป็น”ซึ่งหัวใจของโครงการนี้คือการปลุก “ภาวะผู้นำภายใน” (Inner Leadership) ที่ประกอบด้วยสติ เมตตา การรู้เท่าทันตนเอง และการใคร่ครวญชีวิต ด้วยแนวคิดว่า “การบริหารที่แท้จริง เริ่มจากการบริหารตนเอง” ผู้เรียนจะได้สัมผัสกระบวนการเรียนรู้เชิงลึก ผ่านกิจกรรมฝึกสมาธิ สุนทรียสนทนา และการปฏิบัติธรรม ที่ออกแบบมาเพื่อการตื่นรู้และเปลี่ยนแปลงตนเองอย่างแท้จริง ซึ่งองค์ความรู้ดังกล่าวนี้ได้เกิดมาก่อนนานแล้วในสถาบันการศึกษาระดับโลก การนำแนวคิดด้านธรรมะเข้าสู่ห้องเรียนไทยนั้นเป็นการเติมเต็มชีวิตที่สมบูรณ์ที่จะอยู่ในสังคมร่วมกันในสังคมอย่างมีความสุข หากผู้นำหรือผู้บริหารการศึกษานำบทเรียนนี้ไปถ่ายทอดให้กับนักศึกษาหรือแม้กระทั่งคนในครอบครัวรวมถึงประชาชนโดยทั่วไปแล้ว ปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นมากมายในสังคมจะลดน้อยลงไปในที่สุด
โครงการนี้แม้จะเป็นนวัตกรรมใหม่ในบริบทไทย แต่สำหรับแวดวงการศึกษาในต่างประเทศแนวคิด “การพัฒนาภาวะผู้นำผ่านธรรมะ” กำลังได้รับความสนใจในระดับโลก และแนวโน้มจะขยายตัวออกไปมากอีกด้วย ยกตัวอย่างไม่ว่าจะเป็นของHarvard University ที่มีรายวิชา Inner Development for Educators and Leaders หรือ Stanford University กับหลักสูตร Compassion Cultivation Training (CCT) และ University of Virginia กับ Mindfulness for Education Leaders ซึ่งต่างก็เน้นการฝึกสมาธิและพัฒนาคุณธรรมในหมู่ผู้นำ
สำหรับในประเทศไทย แม้หลักสูตรลักษณะนี้จะยังไม่แพร่หลายนักในระดับปริญญาโท แต่มีบางสถาบัน เช่น มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย ที่เริ่มริเริ่มหลักสูตรด้านผู้นำเชิงพุทธธรรม แต่ว่า ยังไม่มีโครงการใดที่ผสาน “ธรรมะเชิงลึกแบบไทย” กับ “ศาสตร์การบริหารการศึกษา” ได้อย่างสมบูรณ์เท่ากับโครงการนี้
“โครงการ “ตื่นรู้ ตื่นธรรม สร้างผู้นำสู่อนาคต” เพื่อนำแนวคิดด้านธรรมะและการพัฒนาจิตใจมาผสานกับศาสตร์แห่งการบริหารการศึกษาอย่างลงตัว โครงการนี้ไม่ใช่เพียงเวิร์กช็อปเชิงทฤษฎี แต่เป็นการเรียนรู้จากประสบการณ์ตรง ทั้งการฝึกสมาธิ กิจกรรมสุนทรียสนทนา และการใคร่ครวญแก่นแท้ของความเป็นผู้นำ โดยมีเป้าหมายเพื่อ “ปลุก” ความตื่นรู้ในจิตใจนักศึกษาให้เห็นความสำคัญของการ “บริหารใจ” ควบคู่กับการบริหารงานอย่างมีคุณธรรม “เรากำลังสร้างผู้นำที่ไม่ใช่แค่เก่ง แต่เข้าใจธรรมชาติของชีวิต พร้อมจะพัฒนาทั้งตนเองและผู้อื่นอย่างมีความสุข”
ส่วนความคาดหวังที่ก้าวไกลกว่าห้องเรียน เป้าหมายต้องการที่จะเห็นภาพของผู้นำหรือผู้บริหารไม่เฉพาะทางด้านการศึกษาแม้กระทั่งด้านอื่นๆ เราจะสร้าง “ผู้นำเชิงคุณธรรม” ที่บริหารด้วยใจอ่อนโยนแต่มั่นคง“เรากำลังสร้างผู้นำที่ไม่ใช่แค่เก่งแต่ต้องเข้าใจธรรมชาติของชีวิต เมื่อการศึกษาไม่เพียงสร้างผู้นำที่เก่งงานแต่ยังบริหารใจได้อย่างลึกซึ้งด้วย
การนำความรู้จากโครงการไปปรับใช้จริงในการบริหารสถานศึกษาโดยบูรณาการศาสตร์ตะวันตกกับธรรมะตะวันออกพร้อมทั้งปลูกฝัง “การตื่นรู้ภายใน” สู่การทำงานอย่างมีความสุข ในอนาคตก็จะขยายผลสู่การเป็น “ต้นแบบระดับชาติ” ด้านการพัฒนาภาวะผู้นำจากภายใน นั่นคือความพร้อมที่จะพัฒนาทั้งตนเองและผู้อื่นอย่างมีความสุข”อย่างแท้จริง
รองศาสตราจารย์ ดร.พิมลพรรณ กล่าวทิ้งท้ายถึงความตั้งใจของโครงการนี้ ว่ากิจกรรมที่เกิดขึ้นไม่เพียงจุดประกายการเรียนรู้เชิงใน (Inner Learning) แต่ยังช่วยให้นักศึกษามองเห็นเส้นทางชีวิตที่สงบ เย็น และเต็มไปด้วยสติ เป็นแนวทางการนำพาตนเองและองค์กรให้เจริญเติบโตอย่างยั่งยืนในยุคของการเปลี่ยนแปลง และแม้โลกจะเต็มไปด้วยข้อมูล ความรู้ และเทคโนโลยี แต่ในท้ายที่สุดแล้ว “รู้อะไร...ไม่สู้รู้จักธรรม” ได้สะท้อนหัวใจของการเป็นผู้นำไว้อย่างงดงามที่สุด.