Biz news
'FKII-สถาบันทิวา-หอการค้าฯ-ส.เอไอ เปิดเวทีขับเคลื่อนเทคโนโลยีAIอัปฯไทย

กรุงเทพฯ-“เอฟเคไอไอ.-สถาบันทิวา“ผนึกหอการค้าไทย-สมาคมเอไอ.เปิดเวทีขับเคลื่อนเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์(AI)อัพเกรดประเทศไทยสู่ศักยภาพใหม่เป้าหมายผู้นำอาเซียน “อดีตรัฐมนตรีอลงกรณ์”แนะรัฐเร่งออกกฎหมายปัญญาประดิษฐ์ ชี้จุดอ่อนประเทศไทยขาดแคลน“คนเอไอ.”
นายอลงกรณ์ พลบุตร ประธานสถาบันเอฟเคไอไอ.และรองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคประชาธิปัตย์เปิดเผยวันนี้ว่า เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังเป็นคานงัดในการพัฒนาประเทศทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทยซึ่งจากการศึกษาของ “Oxford Insights”ในปี2023ไทยอยู่อันดับ 37 ของโลกด้านความพร้อมใช้ AI ในภาครัฐ (คะแนน 63.03 จาก 193 ประเทศ) ซึ่งสะท้อนทั้งโอกาสและความท้าทายในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีนี้
ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในประเทศที่ให้ความสำคัญอย่างจริงจังกับการพัฒนาเทคโนโลยี AI โดยมีการดำเนินงานที่เป็นรูปธรรมมากที่สุดประเทศหนึ่งในภูมิภาคโดยตั้งเป้าหมายก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านAI ของอาเซียนภายในปี พ.ศ. 2580 (ค.ศ. 2037)ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2561–2580)โดยมีแผนปฏิบัติการด้านปัญญาประดิษฐ์แห่งชาติเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (พ.ศ. 2565 - 2570) ประกอบด้วย 5 ยุทธศาสตร์
1. ด้านจริยธรรมและกฎระเบียบ AI โดยมีเป้าหมายสร้างความเข้าใจและความตระหนักด้านจริยธรรมในการใช้ AI อย่างน้อย 6 แสนคน และมีกฎหมายและข้อบังคับด้าน AI ที่จำเป็น
2. ด้านโครงสร้างพื้นฐานสำหรับ AI เพื่อให้เกิดการลงทุนด้าน AI เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 ต่อปี
3. ด้านกำลังคน AI มีเป้าหมายผลิตกำลังคน AI 3 หมื่นคน
4. ด้านวิจัยพัฒนาและนวัตกรรม AI ตั้งเป้าสร้าง 100 นวัตกรรม AI ที่มีผลกระทบทางเศรษฐกิจ 4.8 หมื่นล้าน
5. ด้านการส่งเสริมธุรกิจและการใช้ AI โดยมีการใช้นวัตกรรม AI ใน 600 หน่วยงานทั่วประเทศ
อย่างไรก็ตามได้มีการปรับเปลี่ยนเป้าหมายใหม่ในการพัฒนาบุคลากรด้าน AI ภายในปี 2570โดยเฉพาะในกลุ่ม AI Professional และ AI Developer ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนนวัตกรรมและสร้างมูลค่าเพิ่มในอุตสาหกรรม AI ของประเทศไทย ตัวเลขสองกลุ่มนี้เพิ่มขึ้นจาก 10,000 คน เป็น 140,000 คน หรือสูงขึ้นถึง 14 เท่าซึ่งประเทศไทยขาดแคลนคนเอไอ.อย่างมากและเป็นจุดอ่อนที่สำคัญ
อดีตรัฐมนตรีอลงกรณ์ ประธานเอฟเคไอไอ.กล่าวต่อไปว่าเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์(AI) ได้แทรกซึม ไปในทุกๆ ที่ทั่วโลก ขณะนี้ทุกประเทศและทุกอุตสาหกรรมต่างแข่งขันกันเพื่อมุ่งสู่การใช้ AIการเติบโตของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ยังเป็นไปอย่างก้าวกระโดด “ไอดีซี” คาดการณ์ว่าจากปี 2565 เป็นต้นมาการใช้จ่ายด้าน AI ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จะเติบโตเฉลี่ย 28.9% ต่อปี และเมื่อถึงปี 2570 มูลค่าจะขยับขึ้นไปแตะ 90,700 ล้านดอลลาร์ สัดส่วนมาจาก GenAI 23% และ AI อื่นๆ 77%
การยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้วยAIภายใต้เทคโนโลยีดิจิตอลของไทยมีจุดแข็งจุดอ่อนที่ต้องเสริมเติมเต็มโดยเฉพาะการพัฒนาผู้ใช้ผู้พัฒนาผู้เชี่ยวชาญมืออาชีพทั้งภาครัฐภาคเอกชนและภาควิชาการรวมถึงร่างกฎหมายปัญญาประดิษฐ์ที่ต้องเร่งบัญญัติออกมาโดยเร็ว”
สถาบันเอฟเคไอไอ.เชื่อว่าAI เป็นเครื่องมือในการอัพเกรดศักยภาพประเทศทั้งด้านเทคโนโลยี การศึกษา การวิจัยและพัฒนา การพัฒนาเมือง การยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน การพัฒนาภาคเกษตร-อุตสาหกรรม-การท่องเที่ยว-การลงทุน-ธุรกิจการค้า การบริการภาครัฐและการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจเพื่อตอบโจทย์ที่ท้าทายอนาคตของประเทศจึงได้จัดงานเสวนา FKII National Agenda “AI Thailand อัปเกรดศักยภาพประเทศไทย”
ในวันศุกร์ที่ 22 สิงหาคม 2568 เวลา 09.00 – 11.30 น. ณ สวนเสียงไผ่ สถาบันทิวา ทาวน์อินทาวน์ กรุงเทพมหานครจึงขอเชิญชวนทุกภาคส่วนมาร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อกำหนดทิศทางการพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI)ในการยกระดับขีดความสามารถและศักยภาพของประเทศไทย โดยมีวิทยากรหลายท่านอาทิ นายอลงกรณ์ พลบุตร ประธานสถาบัน FKII Thailand ,นายชยดิฐ หุตานุวัชร์ ประธานสถาบันทิวา และผู้อำนวยการสถาบัน FKII Thailand รศ.ดร.ชิต เหล่าวัฒนา ประธานคณะกรรมการเอไอและโรบ็อท หอการค้าไทยดร.ชาญวิทย์ บุญช่วย นายกสมาคมผู้ประกอบการปัญญาประดิษฐ์ประเทศไทย (AIEAT) นายพุทธิพงษ์ สิริโชดก ซีอีโอ.บริษัทแม็กอัพ เอไอ. อินโนเวท นายอาศิสกานต์ ศรีลาธนาตย์ ซีอีโอ.บริษัทซอร์สโค้ด รวมทั้งวิทยากรและผู้เข้าร่วมเสวนาจากภาคส่วนต่างๆ ท่านที่สนใจสามารถลงทะเบียนที่ LineOA FKII Thailand