In News

รัฐฯยืนยันพื้นที่บ้านหนองจานของไทย% สถานการณ์11พื้นที่ใน7จังหวัดยังปกติดี



กรุงเทพฯ-“รัฐบาล” ยืนยันพื้นที่บ้านหนองจาน สระแก้ว เป็นของไทย 100% ชี้ในอดีตประเทศไทยมีเมตตาให้เขมรใช้เป็นที่หลบภัยสงครามจนถึงทุกวันนี้ กลับรุกล้ำอธิปไตยไทยยืนยันต้องวางลวดหนามในเขตอธิปไตยของไทยทุกตารางนิ้วตามข้อตกลง เตือนกัมพูชาอย่าใช้ประชาชนของตนเองเป็นโล่มนุษย์และสรุปสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา 7 จังหวัด ตั้งแต่เวลา 18.00 น. วันอังคารที่ 19 สิงหาคม 2568 ถึงเวลา 06.00 น. วันนี้ (วันพุธที่ 20 สิงหาคม 2568) เหตุการณ์ปกติ

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก) เปิดเผยกรณี พื้นที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว ซึ่งเดิมเคยใช้เป็นที่พักพิงชั่วคราว ที่ไทยให้ชาวกัมพูชาที่หนีภัยจากการสู้รบในอดีตเข้ามาใช้พื้นที่ บนแผ่นดินไทย  และเวลาต่อมากัมพูชากลับได้ขยายชุมชน รุกล้ำแผ่นดินของประเทศไทยที่เคยให้การช่วยเหลือเป็นศูนย์อพยพเมื่อครั้งสงคราม ที่คนเขมรฆ่ากันเองถือเป็นการละเมิดบันทึกความเข้าใจ (MOU) ปี 2543 อย่างชัดเจน

และฝ่ายไทยได้คัดค้านและประท้วงการกระทำดังกล่าวอย่างต่อเนื่องตลอดมา นอกจากนี้ รัฐบาลได้ยืนยันในประเด็นสำคัญ ดังนี้

1.ตลอดหลาย 10 ปี ที่ผ่านมา ประเทศไทยแสดงถึงเจตนารมณ์ที่แน่วแน่ในการปฏิบัติตนเป็นเพื่อนบ้านที่เป็นมิตร และพร้อมหารือข้อขัดแย้งผ่านกลไกทวิภาคีที่เหมาะสม เช่น คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) อย่างไรก็ตาม ฝ่ายกัมพูชากลับใช้ ประชาชนของตน เป็นกำแพงมนุษย์ เข้ามารุกล้ำในเขตแดนไทยอย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และยั่วยุให้เกิดความตึงเครียดในชายแดน
2. ประเทศไทยให้ความช่วยเหลือในอดีตที่ผ่านมาในเรื่องของมนุษยธรรมในการให้พื้นที่หลบภัยสงคราม กับประชาชนชาวเขมรหลายแสนคน แต่กลับบิดเบือนความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมของไทยที่หยิบยื่นให้  กลับนำความช่วยเหลือนี้ ไปบุกรุกพื้นที่อธิปไตยของไทย  สะท้อนถึงการขาดความจริงใจ เห็นถึงเจตนาร้ายในการรุกล้ำพื้นที่ของประเทศไทยอย่างชัดเจน
 3. การติดตั้งแนวเขตลวดหนามบริเวณเขตแดนของไทยเป็นสิทธิในการดำเนินการเพื่อปกป้องอธิปไตย และคุ้มครองความปลอดภัยของประชาชนไทย และป้องกันไม่ให้มีการรุกล้ำเพิ่มเติมเข้ามาอีก รวมถึงการลักลอบวางกับระเบิดจากฝ่ายกัมพูชาอีก 

ทั้งนี้ การดำเนินการของฝ่ายไทยเป็นไปตามข้อตกลงการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) สมัยวิสามัญ เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2568 ที่ทั้งสองฝ่ายตกลงจะละเว้นการสร้างหรือพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางทหารล้ำออกนอกเขตของทั้งสองประเทศ ซึ่งบริเวณดังกล่าวตามหลักเขตเป็นของประเทศไทย 100%

รัฐบาลไทยยังคงมุ่งมั่นปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน พร้อมรักษาหลักมนุษยธรรม และพร้อมหารือข้อพิพาทผ่านช่องทางทางการทูตและกลไกที่มีอยู่ แต่จะไม่ยอมรับการรุกล้ำใด ๆ ที่เป็นการละเมิดกฎหมายและหลักการระหว่างประเทศทุกประการ

“ไทยคู่ฟ้า” รายงานเช้านี้ 11 พื้นที่ 7 จังหวัด สถานการณ์ปกติ

สรุปสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา 7 จังหวัด ตั้งแต่เวลา 18.00 น. วันอังคารที่ 19 สิงหาคม 2568 ถึงเวลา 06.00 น. วันนี้ (วันพุธที่ 20 สิงหาคม 2568) เหตุการณ์ปกติ

วันนี้ (วันพุธที่ 20 สิงหาคม 2568) เวลา 07.00 น. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยว่า สถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา ทั้ง 7 จังหวัด เหตุการณ์ปกติ กองทัพไทยยังคงตรึงกำลังตามแนวที่มั่นทั้ง 11 จุด พร้อมเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติและป้องกันไม่ให้ใครล่วงล้ำ

ในวันนี้ เวลา 09.30 น. ศบ.ทก.  จะมีการประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย - กัมพูชา ครั้งที่  29/2568 ที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ ทำเนียบรัฐบาล  เพื่อติดตามสถานการณ์และผลการประชุม RBC ไทย – กัมพูชา

รัฐบาลขอขอบคุณ คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว (Interim Observer Team: IOT) จาก 8 ประเทศสมาชิกอาเซียน รวม 14 นาย นำโดย พล.ต.ซัมซุล ริซัล บิน มูซา ผู้ช่วยทูตทหารมาเลเซียประจำประเทศไทย พร้อมสื่อมวลชน ที่ลงพื้นที่ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี ตรวจสอบกรณีกัมพูชารุกเข้ามาตัดลวดหนาม อันเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงและทำลายความไว้วางใจระหว่างสองประเทศ