In News
ทีมสุดซอย'ขิง'ลุยสางปัญหาฝุ่นถ่านหิน ที่อ.นครหลวงสั่งรง.ให้ปรับปรุงใน30วัน

กรุงเทพฯ-“เอกนัฏ” ส่งทีมสุดซอยสางปัญหาฝุ่นถ่านหิน อ.นครหลวง สั่ง รง. คัดขนาดถ่านหินปรับปรุงครั้งใหญ่ภายใน 30 วัน วางมาตรฐานโมเดลนำร่อง ช่วยชาวบ้านอยุธยาหายใจโล่ง !
นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม มอบหมาย นางสาวฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วย นายเตมีย์ พันธุวงค์ราช ผู้ช่วยปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม และเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) พร้อมทั้งสำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม (สปอ.) ตลอดจนเจ้าหน้าที่สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา (สอจ.พระนครศรีอยุธยา) รวมทั้งผู้แทนภาคประชาชนเข้าร่วมตรวจสอบโรงงานคัดขนาดถ่านหินบิทูบินัส ของบริษัท อีสเทอร์น เพิล จำกัด ซึ่งตั้งอยู่หมู่ที่ 4 ตำบลคลองสะแก อำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตามข้อร้องเรียนของ สมาชิกผู้แทนราษฎร (สส.) นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร และ สส. นายชริน วงศ์พันธ์เที่ยง เกี่ยวกับชุมชนในอำเภอนครหลวงและอำเภอเมืองพระนครศรีอยุธยาได้รับผลกระทบจากฝุ่นสีถ่านหินที่เกิดจากการขนย้ายถ่านหินฯ บริเวณท่าเรือมายังโรงงาน และรถบรรทุกถ่านหินออกนอกโรงงาน
จากการตรวจสอบทุกจุด ทุกอาคาร พนักงานเจ้าหน้าที่ สอจ.พระนครศรีอยุธยา ได้ออกคำสั่งตามมาตรา 37 วรรคหนึ่ง แห่ง พ.ร.บ. โรงงาน พ.ศ. 2535 ดังนี้ 1) ให้ระงับการกระทำที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายในส่วนของการประกอบกิจการโรงงานส่วนขยายครั้งที่ 2 โดยไม่แจ้งให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบ จึงให้หยุดประกอบกิจการในส่วนดังกล่าวทันที 2) ให้ปรับปรุงระบบสเปรย์น้ำที่ใช้ดักฝุ่นให้มีประสิทธิภาพเพียงพอต่อกระบวนการผลิตทั้งหมด 3) ให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขการอนุญาตให้ประกอบกิจการโรงงาน คือ ต้องคัดแยกขนาดถ่านหินภายในอาคารโรงงานเท่านั้น และ ต้องมีและใช้ระบบมาตรการป้องกันฝุ่นละอองและการลุกไหม้ของถ่านหินจากการเก็บกองถ่านหิน ไม่ก่อให้เกิดความเดือนร้อนหรืออันตรายต่อผู้ปฏิบัติงานและผู้อยู่อาศัยใกล้เคียง และ 4) ห้ามระบายน้ำออกนอกบริเวณโรงงานอย่างเด็ดขาด และจัดทำมาตรการป้องกันน้ำจากการชะล้างถ่านหินรั่วไหลออกนอกโรงงาน โดยข้อ 2 -ข้อ 4 กำหนดให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 กันยายน 2568 ทั้งนี้ หากไม่ปฏิบัติตามต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 แสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ปรับอีกวันละไม่เกิน 5,000 บาทตลอดระยะเวลาที่ยังไม่ปฏิบัติให้ถูกต้อง นอกจากนี้ยังพบว่าโรงงานไม่สามารถแสดงข้อมูลการจัดการสิ่งปฏิกูลและวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว จึงสั่งการให้โรงงานฯ ส่งข้อมูลย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2567 – ปัจจุบัน พร้อมหลักฐาน ภายในวันที่ 15 กันยายน 2568
“วันนี้ เจ้าหน้าที่ สอจ.พระนครศรีอยุธยาได้ออกคำสั่งให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน ซึ่งบริษัทฯ ต้องมีแผนและความคืบหน้าในการแก้ไขอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทพร้อมให้ความร่วมมือแก้ไขปรับปรุงเป็นอย่างดี จากนี้จะถือเป็นแนวปฏิบัติในการสร้างมาตรฐาน อีก 13 บริษัทฯ ที่ประกอบกิจการคลังสินค้า จัดเก็บ ซื้อขายและขนแร่/ถ่านหินในพื้นที่อำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ให้ต้องปรับปรุงแก้ไข เพื่อลดมลพิษทางสิ่งแวดล้อมและผลกระทบแก่ประชาชน ปัญหาฝุ่นดำจากถ่านหินสะสมในพื้นที่มานานหลายปี แต่อย่างน้อยต้องช่วยกันลงมือทำ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่ กรอ. ได้แจ้งข้อแนะนำตามหลักวิชาการและหลักกฎหมายเพื่อให้บริษัทฯ มีแนวทางในการดำเนินการปรับปรุงแก้ไขอีก 8 ข้อ เพื่อให้กิจการลักษณะดังกล่าวส่งผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อมลดลงโดยที่ทุกฝ่ายสามารถยอมรับได้ และไม่มีการร้องเรียนในระยะยาวต่อไป” นางสาวฐิติภัสร์ กล่าว