In News
ราชกิจจาฯเผยแพร่แต่งตั้งนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการฟอร์มทีมครม.อนุทินเริ่มชัดเจน

กรุงทพฯ-เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้งนายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ขณะที่ความเคลื่อนไหวในการจัดตั้งรัฐบมนตรี เริ่มเป็นรูปร่างชัดเจนขึ้น โดยกล้าธรรมได้7เก้าอี้ "ธรรมนัส"นั่งรองนายกฯ ขณะเสี่ยเฮง-ธนากร ไขก๊อกสส.เข้านั่งรมต.
วันที่ 7 กันยายน 2568 เมื่อเวลา 11.33 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้งนายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล ดังนี้ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ประกาศว่า
ด้วยความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (5) และประธานสภาผู้แทนราษฎรได้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาว่าสภาผู้แทนราษฎรได้ลงมติเมื่อวันที่ 5 กันยายน 2568 เห็นชอบด้วย ในการแต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรี ด้วยคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรี
ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปประกาศ ณ วันที่ 7 กันยายน พุทธศักราช 2568 เป็นปีที่ 10 ในรัชกาลปัจจุบันผู้รับสนองพระราชโองการ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทาประธานสภาผู้แทนราษฎร
โผ“ครม.อนุทิน 1” เริ่มเป็นรูปร่างและใกล้ลงตัว
กล้าธรรมได้7เก้าอี้ “ธรรมนัส”นั่งรองนายกฯ
วันที่ 8 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานโผคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุทิน 1 ภายใต้การนำของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ล่าสุด โควตาพรรคกล้าธรรม (กธ.) ยังคงได้ 7 เก้าอี้ แต่มีการปรับเปลี่ยนบางส่วนของพรรคกล้าธรรมโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรค ที่ก่อนหน้านี้มีชื่อว่าจะนั่งในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ต่อมามีกระแสว่าจะไปเป็นรองนายกรัฐมนตรีควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา แต่ล่าสุด จะมาเป็นรองนายกรัฐมนตรีควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
โดยโยก นายอรรถกร ศิริลัทธยากร นายทะเบียนพรรค ไปเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ส่วนนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรคกล้าธรรม จะเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการศึกษาธิการ นายอัครา พรหมเผ่า เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร ในฐานะเลขาธิการพรรค และนายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ส่วนนายองอาจ วงษ์ประยูร สส.สระบุรี เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
นอกจากนี้ ยังมีรายงานโควตารัฐมนตรีคนนอกเพิ่มเติมในส่วนของกระทรวงยุติธรรม มี 2 ชื่อระหว่าง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กับ พล.ต.ท.ชาญชัย พงษ์พิชิตกุล อดีตรอง ผบช.ภ.3 จะมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และมีชื่อ นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ที่จะมาดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย.
ขณะที่พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ขอชี้แจงเพื่อทำความเข้าใจ ตามที่มีกระแสข่าวถึงการต่อรองและแย่งชิงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยมีตนเป็นหนึ่งในรายชื่อที่ทำให้สับสนวุ่นวายนั้น ตนมีความตั้งใจที่จะสนับสนุนให้รัฐบาล และท่านนายกรัฐมนตรีได้ทำงานเพื่อแก้ปัญหาบ้านเมืองได้อย่างเต็มที่ภายในระยะเวลา 4 เดือน ก่อนยุบสภาโดยไม่ต้องกังวลต่อการต่อรองหรือเรียกร้โดยโควตารัฐมนตรีว่าการที่ได้รับแจ้งมาแล้วคือ กระทรวงสาธารณสุข และ กระทรวงแรงงาน
ส่วนตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยอีก 2 เก้าอี้ ที่ประชุมมีมติให้เป็นอำนาจของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ในการพิจารณาคัดเลือกบุคคลที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็น ส.ส. หรือบุคลากรในพรรคที่มีคุณสมบัติ พร้อมส่งรายชื่อให้นายกรัฐมนตรีเพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ แต่งตั้งต่อไป
ส่วน โควตาสาธารณสุขและแรงงานถือเป็นของพรรคพลังประชารัฐอย่างแน่นอนหรือไม่ นายสันติ กล่าวยืนยันว่า ได้รับการแจ้งมาแล้ว แต่รายชื่อรัฐมนตรีช่วยยังต้องรอการหารือกับหัวหน้าพรรคอีกครั้ง โดยมองว่า ในการจัดตั้ง ครม.ที่มีหลายพรรคการเมืองร่วมรัฐบาล ย่อมเกิดความทับซ้อนของตำแหน่งเป็นเรื่องปกติ
สำหรับเสียงสะท้อนว่าการจัด ครม.ชุดนี้เป็นเพียงรัฐบาลเฉพาะกิจมีอายุ 4 เดือน นายสันติกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า ทุกพรรคการเมืองย่อมต้องการเสริมพลังตัวเอง และรัฐบาลนี้ก็เป็นก้าวสำคัญที่จะต่อยอดสู่การทำงานในระยะ 4 ปีข้างหน้าองใดๆ
ขณะนี้โผครม.รัฐบาลอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ก็เริ่มเห็นเป็นรูปเป็นร่าง แล้วเนื่องจากโผส่วนใหญ่ลงตัวเกือบ 100% แล้ว
‘นิพน’ส่งลูกสาวนั่งรมช.พาณิชย์
โดยสำหรับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์นั้น ค่อนข้างแน่นอนแล้วว่า นางสาวนิธิยา บุญญามณี บุตรสาวนายนิพนธ์ บุญญามณี จะรับตำแหน่งดังกล่าว สำหรับประวัติว่าที่รมช.ป้ายแดง นางสาวนิธิยา บุญญามณี ปัจจุบัน อายุ 37 ปีปริญญาตรี นักเรียนทุน คณะเศรษฐศาสตร์ (หลักสูตรนานาชาติ) เกียรตินิยมอันดับ 1 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปริญญาโท Master of Business Administration (Executive) สถาบันบัณฑิตธุรกิจศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ประวัติการทำงาน ปี 2553-2555 ตำแหน่ง นักวิเคราะห์ข้อมูล Data Analyst บริษัท เจริญโภคภัณฑ์ จำกัด(มหาชน) ปี 2556-2568 ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามอินเตอร์เนชั่นแนลฟู๊ด จำกัด ปี2556-2568 กรรมการบริหาร บริษัท สมิหลา โคลด์ สโตเรจ จำกัด
ทสท.เรียกร้องรัฐบาลใหม่เรื่องปากท้องต้องมาก่อน
ด้าน พรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) ออกแถลงการณ์ข้อเสนอของพรรคไทยสร้างไทย ต่อนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ว่า พรรคไทยสร้างไทยเห็นว่าสิ่งสำคัญที่รัฐบาลและรัฐสภาต้องเร่งดำเนินการ คือปัญหาความมั่นคงชายแดน และปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของประชาชน แต่ประเทศจะเดินแบบเดิม หรือแย่กว่าเดิม หากไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญก่อนการเลือกตั้งครั้งต่อไป เพื่อลดกับดักต่างๆ และเสริมสร้างบทบาทตลอดจนการดูแลการทำมาหากินของภาคประชาชน
ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับโดย ส.ส.ร. (สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ) นั้น ควรดำเนินการหลังจากมีการเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีขึ้นตามที่ได้ตกลงกันในการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ สำหรับร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม พรรคไทยสร้างไทยเห็นว่าต้องไม่แตะต้องหมวด 1 และหมวด 2 เพื่อธำรงไว้ซึ่งสถาบันหลักและความมั่นคงของชาติ รวมถึงประเด็นที่จะก่อให้เกิดการทำประชามติ ตามที่กำหนดในรัฐธรรมนูญ ประเด็นที่ควรแก้ไขหลักๆ คือ 1. ที่มาของนายกรัฐมนตรี ซึ่งควรมาจาก สส. 2. การแก้ปัญหา สส.งูเห่า เพราะเป็นการกระทำที่ขัดต่อจริยธรรม และทำลายการสร้างพรรคการเมืองให้เป็นสถาบันการเมือง 3. การวางหลักในเรื่องนโยบายแห่งรัฐ สิทธิ เสรีภาพของประชาชน และการขจัดกฎหมายที่กดทับและเป็นอุปสรรคต่อการทำมาหากินของประชาชน ให้ปรากฏเป็นรูปธรรมและมีผลบังคับได้ 4. บทบาทของภาคประชาชนในการตรวจสอบการทำงานขององค์กรอิสระ
‘ศักดิ์ดา’งูเห่าเพื่อไทยยังไม่ลาออกจากสส.เพื่อรับตำแหน่ง
ขณะที่นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ สส.กาญจนบุรี พรรคเพื่อไทย ที่โหวตสนับสนุน นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังจากมีกระแสข่าวว่า ลาออกจาก สส.พรรคเพื่อไทย เพื่อรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ว่า ตนยังไม่ได้ลาออกจาก สส. ซึ่งยืนยันจะยังเข้าร่วมการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันพุธนี้ ส่วนที่มีกระแสว่า จะไปนั่ง รมว.อว. ยืนยันว่าจนถึงขณะนี้ยังไม่ได้ มีใครมาทาบทาม
‘สุชาติ-ธนากร’ลาออกจากสส.เพื่อรับนั่งรมต.
ผู้สื่อข่าวรายงานการที่นายสุชาติ ชมกลิ่น แกนนำกลุ่ม 16 ส.ส. ที่โหวตสนับสนุนนายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรี และนายธนกร วังบุญคงชนะ ลาออกจากตำแหน่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติโดยให้เหตุผลว่า ถ้ารับการแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีโดยไม่ผ่านกรรมการบริหารพรรคเห็นชอบอาจมีปัญหาได้ โดยทั้งคู่ต่างถูกคาดหมายว่า จะมีตำแหน่งรัฐมนตรีในคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่นั้น เหตุผลสำคัญ เพื่อป้องกันการถูกยื่นคำร้องให้มีการตรวจสอบพฤติกรรมว่า เข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมหรือไม่ เนื่องจากนายสุชาติ และนายธนกร อยู่ในโผรายชื่อ ครม.ที่มีโอกาสได้ตำแหน่งค่อนข้างสูง
ดังนั้นหากทั้ง 2 คนได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีจริง อาจจะสร้างปัญหาตามมาได้ ในกรณีที่ยังเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ ภายในการนำของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค ที่จะมีความชอบธรรมในการดำเนินการกับบุคคลที่อาจฝ่าฝืนข้อบังคับพรรค และที่ไม่ได้รับความเห็นชอบจากกรรมการบริหารพรรคให้ไปดำรงตำแหน่งในครม
นอกจากนี้ อีกเหตุผลการลาออกของนายสุชาติ ตามที่คนใกล้ชิดเปิดเผยว่า เพราะได้ทำหน้าที่โหวตนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่นายเศรษฐา ทวีสิน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร และนายอนุทิน เสร็จสิ้นแล้ว ระยะเวลาต่อจากนี้ที่กำลังนับถอยหลังสู่การเลือกตั้งครั้งต่อไป ก็ขอมีเวลาทำพื้นที่อย่างเต็มที่