Think In Truth

สิ้นยุค 'ดอลลาร์' กำเนิดระเบียบโลกใหม่   โดย: ฟอนต์ สีดำ



เงาแห่งพายุในวันที่ฟ้าแจ่ม

ตลาดการเงินโลกในห้วงปัจจุบันสะท้อนภาพที่น่าฉงน ตลาดหุ้นสหรัฐฯ พุ่งสูงทำลายสถิติราวกับเศรษฐกิจจะเบ่งบานอย่างไร้ขอบเขต ขณะเดียวกันราคาทองคำก็กระโจนขึ้นสู่จุดสูงสุดเช่นกัน ทั้งที่สองสิ่งนี้โดยธรรมชาติมักวิ่งสวนทางกันมาโดยตลอด ภาพที่ปรากฏจึงไม่ต่างจากท้องฟ้าที่สดใสแต่กลับเต็มไปด้วยสายลมแห่งพายุที่ใกล้มาเยือน การพุ่งขึ้นพร้อมกันของหุ้นและทองคำหาใช่สัญญาณของความมั่นคง หากแต่คือสัญญาณเตือนว่าโลกการเงินกำลังซ่อนความไม่ปกติไว้ภายใน

หุ้นพุ่ง ทองคำทะยาน: สัญญาณวิกฤตที่ซ่อนอยู่

หากมองตามกรอบคิดดั้งเดิม นักลงทุนย่อมตีความการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นว่าเป็นหลักฐานแห่งความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจ ขณะที่ทองคำมักจะซบเซาในยามนั้น ทว่าเมื่อทั้งสองพุ่งสูงพร้อมกัน เราย่อมเห็นร่องรอยของความหวาดหวั่นที่แฝงอยู่ นักลงทุนมิได้เชื่อมั่นอย่างแท้จริง หากแต่กำลังวางแผนป้องกันตนเองจากสิ่งที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต การสะสมทองคำคือการพกร่มในวันที่แดดแรง เพราะรู้สึกได้ว่าพายุฝนกำลังใกล้เข้ามา

สิ่งนี้สะท้อนถึงความไม่มั่นคงในระยะยาว แม้การเติบโตทางเศรษฐกิจจะปรากฏเด่นชัด แต่หลายฝ่ายกลับมองว่ามันเป็นฟองสบู่ที่ถูกขับเคลื่อนด้วยการก่อหนี้และนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายเกินควร ทองคำจึงกลับมาเป็นที่พักพิงจากภัยเงินเฟ้อและการอ่อนค่าของดอลลาร์ ยิ่งไปกว่านั้น ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์และการที่สหรัฐฯ ใช้ดอลลาร์เป็นอาวุธทางการเมือง ก็ยิ่งผลักให้ประเทศต่าง ๆ แสวงหาทางเลือกใหม่ที่ไม่ขึ้นตรงต่ออำนาจเดียว

ปีเตอร์ ชิฟฟ์ กับเศรษฐกิจสเตียรอยด์

ท่ามกลางความชื่นชมต่อความแข็งแรงของเศรษฐกิจสหรัฐฯ เสียงเตือนของปีเตอร์ ชิฟฟ์ นักวิเคราะห์ชื่อดังกลับดังก้อง เขาเปรียบเศรษฐกิจอเมริกันราวกับนักกีฬาที่ใช้สเตียรอยด์ ภายนอกแข็งแรงทรงพลัง กล้ามเนื้อใหญ่โต และทำผลงานได้อย่างน่าตื่นตา แต่ภายในกลับบอบช้ำ หัวใจและอวัยวะสำคัญทำงานหนักจนเสื่อมถอย ในที่สุดย่อมล้มเหลวอย่างเลี่ยงไม่ได้

หนี้สาธารณะที่พุ่งทะลุ 34 ล้านล้านดอลลาร์มิใช่ภาพแห่งความมั่งคั่ง แต่คือภาระที่ฉุดรั้งอนาคต การเติบโตที่เกิดจากการกู้ยืมอย่างไร้ขอบเขตย่อมไม่อาจยืนยาว เศรษฐกิจจึงเหมือนเรือนร่างที่ยืนอยู่บนรากฐานทราย พร้อมจะทรุดตัวลงเมื่อคลื่นซัดมาแรง

เงินเฟ้อ: ภาษีเงียบที่กัดกินสังคม

ชิฟฟ์ยังชี้ให้เห็นถึงกลไกอันแยบยลของรัฐบาล นั่นคือการใช้เงินเฟ้อเป็นเครื่องมือลดหนี้และถ่ายโอนภาระสู่ประชาชน การปล่อยให้ค่าของเงินลดลงอย่างต่อเนื่องทำให้หนี้ในอนาคตเบาบางลงสำหรับรัฐ แต่สำหรับประชาชนกลับตรงกันข้าม กำลังซื้อที่หดหายคือ “ภาษีเงียบ” ที่บั่นทอนคุณภาพชีวิต แม้รายได้อาจเพิ่มขึ้น แต่เมื่อไม่อาจไล่ตามเงินเฟ้อ ความยากจนจึงกัดกินช้า ๆ อย่างไม่รู้ตัว

การพิมพ์เงินและการก่อหนี้กลายเป็นเครื่องจักรสำคัญที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจแทนที่จะเป็นนวัตกรรมและการผลิตที่แท้จริง ผลลัพธ์คือโครงสร้างเศรษฐกิจที่บิดเบี้ยวและพร้อมจะพังทลายเมื่อต้องเผชิญแรงกดดันครั้งใหญ่

ทองคำ: ที่พักพิงของธนาคารกลางโลก

ขณะที่รัฐบาลสหรัฐฯ เดินบนเส้นทางหนี้สิน ธนาคารกลางทั่วโลกกลับเลือกเดินอีกเส้นทางหนึ่ง นั่นคือการหันหลังให้พันธบัตรสหรัฐฯ และหันไปสะสมทองคำแทน เพราะทองคำคือสินทรัพย์ที่จับต้องได้ ปลอดจากการเมือง และคงคุณค่าในทุกยุคสมัย

สถิติที่มูลค่าทองคำสำรองทั่วโลกแซงหน้าพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ เป็นครั้งแรกในรอบเกือบสามทศวรรษ จึงมิใช่เรื่องบังเอิญ หากแต่คือสัญญาณชัดเจนของการเปลี่ยนทิศทางการเงินโลก ประเทศต่าง ๆ กำลังสร้างเกราะป้องกันเพื่อไม่ให้เศรษฐกิจของตนผูกติดกับดอลลาร์เกินไป

ดอลลาร์: เมื่อสกุลเงินกลายเป็นตัวประกัน

เหตุการณ์การอายัดทรัพย์สินของธนาคารกลางรัสเซียโดยสหรัฐฯ คือจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้หลายประเทศตระหนักว่า เงินดอลลาร์มิได้เป็นที่พึ่งที่มั่นคงอีกต่อไป มันสามารถถูกใช้เป็นเครื่องมือบีบบังคับทางการเมืองได้ หากวันหนึ่งเกิดความขัดแย้ง ทรัพย์สินที่ถือครองเป็นดอลลาร์อาจถูกอายัดหรือยึดไปโดยง่าย

การกระทำดังกล่าวบ่อนทำลายความเชื่อมั่นต่อสหรัฐฯ อย่างลึกซึ้ง และเร่งเร้าให้หลายประเทศโดยเฉพาะกลุ่ม BRICS+ เร่งกระบวนการ De-dollarization เพื่อสร้างระบบการเงินใหม่ที่ไม่ขึ้นอยู่กับมหาอำนาจเพียงฝ่ายเดียว การเปลี่ยนแปลงนี้ย่อมส่งผลระยะยาวต่อสถานะของดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินสำรองหลักของโลก

โลกหลายขั้วอำนาจ: รุ่งอรุณแห่งระเบียบใหม่

ภาพรวมของเหตุการณ์ทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นหนี้สหรัฐฯ ที่บานปลาย การสะสมทองคำของธนาคารกลาง หรือการใช้ดอลลาร์เป็นอาวุธทางการเมือง ล้วนสะท้อนการสิ้นสุดของยุคที่สหรัฐฯ ครอบงำโลกแต่เพียงผู้เดียว โลกกำลังเคลื่อนเข้าสู่ยุคหลายขั้วอำนาจที่ประเทศต่าง ๆ พยายามสร้างระบบการค้าและการเงินของตนเองเพื่อปลดพันธนาการจากดอลลาร์

ทองคำ: สัญญาณสุดท้ายของการเปลี่ยนผ่าน

ทองคำจึงมิได้เป็นเพียงสินทรัพย์ หากแต่คือสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่ ราคาที่พุ่งสูงสะท้อนการสูญเสียศรัทธาต่อเงินกระดาษ FIAT ที่รัฐบาลสามารถพิมพ์ได้อย่างไม่จำกัด นักลงทุนและธนาคารกลางต่างเร่งเข้าหาที่พึ่งพิงนี้ราวกับรู้ว่าพายุใหญ่กำลังใกล้เข้ามา

ปัจฉิมบทของยุคดอลลาร์

ในวันนี้ โลกมิได้เพียงเผชิญความผันผวนของตัวเลขในตลาด หากแต่ยืนอยู่บนจุดเปลี่ยนทางประวัติศาสตร์ ระบบการเงินที่ขับเคลื่อนด้วยดอลลาร์กำลังเสื่อมถอย ขณะที่ระเบียบใหม่ซึ่งมีหลายศูนย์กลางอำนาจกำลังถือกำเนิดขึ้น ทองคำหวนกลับมามีบทบาทสำคัญในฐานะเสาหลักที่มั่นคงท่ามกลางความปั่นป่วน และเสียงเตือนของมันคือประกาศนียบัตรแห่งการสิ้นสุด “ยุคดอลลาร์” อย่างแท้จริง

แหล่งอ้างอิง:

1. Central Banks Holding More Gold Than U.S. Treasuries

  • หัวข้อ: ธนาคารกลางทั่วโลกสะสมทองคำมากกว่าพันธบัตรสหรัฐฯ เป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปี
    “As of September 1, 2025, central banks around the world collectively hold more gold than U.S. Treasuries for the first time since 1996.” The Economic Time

2. The Rise of Gold as a Reserve Asset Amid Economic Uncertainty

  • หัวข้อ: ราคาทองคำพุ่งสูง ท่ามกลางความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ลดลงต่อพันธบัตรรัฐบาล
    “Gold has surged as a favored central bank reserve asset, surpassing the euro and U.S. Treasuries in central bank holdings … Gold now makes up 27% of reserves compared to Treasuries’ 23%.” Reuters

3. De-Dollarization Drives Gold Demand

  • หัวข้อ: กระแส de-dollarization และการเติบโตของการถือครองทองคำในปี 2025
    “De-dollarization—the move away from the U.S. dollar as the world's default trading and reserve currency—is accelerating in 2025 … central banks and private investors dramatically increase their gold holdings.” Investopedia

4. Peter Schiff on U.S. Debt and Economic Fragility

  • หัวข้อ: ปีเตอร์ ชิฟฟ์เตือนถึงวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดจากหนี้สหรัฐฯ ที่พุ่งสูง
    “Peter Schiff warns US economy is ‘cooling fast’ with deficits set to surge … national debt — already hovering around $37 trillion …” Moneywise

5. Weaponization of the Dollar and Its Consequences

  • หัวข้อ: การใช้ดอลลาร์เป็นเครื่องมือทางการเมือง (sanctions) ทำให้บางประเทศเร่งลดพึ่งพาดอลลาร์
    “Sanctions on using the dollar have been leveraged … but never with such wide effects … countries move to protect themselves from a more general breakdown in a global system.” lse.ac.uk