In News
นำ‘ทักษิณ’ถึงเรือนจำกลางกรุงเทพฯแล้ว หลังศาลศาลฎีกาฯสั่งบังคับโทษจำคุก1ปี

กรุงเทพฯ-ศาลฎีกาฯ มีคำสั่งบังคับโทษจำคุก นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คดีชั้น 14 รพ.ตำรวจ เป็นเวลา 1 ปี เนื่องจากการเข้าไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย และได้นำตัวนายทักษิณ เข้าสู่เรือนจำกลางกรุงเทพฯในช่วง 11.50น.
เมื่อวันที่ 9 ก.ย. 68 ศาลฎีกาฯ มีคำสั่งบังคับโทษจำคุก นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คดีชั้น 14 รพ.ตำรวจ เป็นเวลา 1 ปี เนื่องจากการเข้าไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย และไม่นับว่าเป็นการบังคับโทษตามกฎหมาย ล่าสุดนำตัวไปเรือนจำ
บรรยากาศที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร มีสื่อมวลชนมารอทำข่าวอยู่ที่บริเวณหน้าทางเข้ากันตั้งแต่ช่วงเช้า ก่อนที่ศาลจะอ่านคำสั่ง คดีชั้น14 ของนาย ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งตามขั้นตอนแล้วหลังจากศาลอ่านคำสั่ง ทางเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ต้องควบคุมตัวนายทักษิณมาที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เพื่อเข้าสู่กระบวนการรับโทษต่อไป
‘ทักษิณ’ถึงเรือนจำพิเศษกลางกรุงเทพฯ
เวลา 11.50น. ขบวนรถตู้ของกรมราชทัณฑ์ จำนวน3คัน มาถึงเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร โดยรถนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้นั่งรถตู้เรือนจำทะเบียน 1นง 7412 กรุงเทพ สีขาว ซึ่งอยู่คันหน้าสุด ซึ่งเป็นรถที่ใช้ควบคุมผู้ต้องขัง วิ่งเข้าไปภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพ นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวยังพบว่ามีรถตู้ยี่ห้อเบนซ์ สีเทา 2 คัน ปิดหัวและท้ายขบนรถตู้เข้าไปในเรือนจำ
ขณะที่เพจ Facebook ชื่อ “เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร“ ซึ่งเป็นบัญชี Facebook สำหรับประชาสัมพันธ์งานเยี่ยมญาติของเรือนจำและกิจกรรมของเรือนจำ พบว่าเมื่อ 4 วันที่ผ่านมาทางเรือนจำฯ ได้โพสต์รูปภาพและข้อความระบุว่า “ประชาสัมพันธ์จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร” เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เรือนจำศูนย์ระหว่างพิจารณาคดี (HUB) ประกาศหยุดให้บริการชั่วคราว เนื่องด้วยทางเรือนจำมีการดำเนินการปรับปรุงพื้นที่บริการ เพื่อยกระดับความสะดวกในการให้บริการแก่ประชาชน จึงขอแจ้งหยุดให้บริการชั่วคราวในส่วนของการมารับบริการที่เรือนจำ (Onsite) ในวันที่ 8-9 ก.ย.68 ได้แก่ การเยี่ยมญาติ/ทนายความ การซื้อสินค้า (หน้าร้านสงเคราะห์) การฝากเงิน แต่ในส่วนของการเยี่ยมญาติทางไลน์/ซื้อสินค้าทางไลน์ ยังเปิดให้บริการตามปกติ ขออภัยในความไม่สะดวก
ภูมิธรรมเผยทักษิณเข้าสู่กระบวนการอย่างสง่างาม
นายภูมิธรรม เวชยชัย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากที่ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำตัดสินให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จำคุก 1 ปี ในคดีพักรักษาตัวชั้น 14 ถือเป็นวิกฤตของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ ที่จะต้องกลับไปเป็นฝ่ายค้าน และนายทักษิณติดคุก ว่ามันเป็นกระบวนการตามระบอบประชาธิปไตย อย่าไปคิดอะไรมาก เมื่อเราเป็นฝ่ายรัฐบาล เมื่อเสียงที่เราควบคุมไม่ถึง เราก็ไปเป็นฝ่ายค้าน คนเป็นนักการเมืองต้องพร้อมเป็นฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล
สำหรับขวัญและกำลังใจของพรรคเพื่อไทยจะเป็นอย่างไรเมื่อมีคดีของนายทักษิณเข้ามา นายภูมิธรรมกล่าวว่า “ตอนนี้กำลังใจของพรรคเพื่อไทยดีมาตั้งแต่ต้น และยังเข้มแข็ง เพราะรู้อยู่แล้วว่านายทักษิณตัดสินใจ รู้ว่าต้องเผชิญอะไร และไม่ได้หนีไปไหน ส่วนที่ออกนอกประเทศและมีการกล่าวหาว่าไปไหน นายทักษิณไปรักษาตัวและไปพบเพื่อนจริง และเมื่อกลับมารู้ว่าผลเป็นอย่างไรก็ยอมรับกระบวนการยุติธรรม ซึ่งเป็นเรื่องที่สง่างามที่ยอมรับกระบวนการยุติธรรมทั้งหมด”
นายภูมิธรรมกล่าวถึงการที่นายทักษิณถูกคดีแบบนี้จะมีผลหรือไม่ว่า ยืนยันไม่มี นายทักษิณคนที่อย่างน้อยได้พิสูจน์ว่าไม่ได้หนีไปไหน และให้กระบวนการต่างๆ ที่เกิดขึ้นเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ส่วนในพรรคเพื่อไทยเราได้คุยกันแล้วว่าจะช่วยกันทำงานต่อ
เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้มีรายงานว่านายทักษิณได้ฝากพรรคไว้กับนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และสมาชิกพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรมกล่าวว่า “ท่านฝากพวกเราทุกคน อยากให้รักษาจิตวิญญาณของพรรคในการที่จะทำให้ประเทศไทยมีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข และทำงานช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ซึ่งตอนนี้ไม่มีอะไร และจะกลับไปประชุมพรรค”