In Bangkok

กทม.แจงฝนหนักน้ำท่วมซอยสามเสน18 มีน้ำรอระบายจี้รฟม.ตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่ม



กรุงเทพฯ-นายเจษฎา จันทรประภา ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ (สนน.) กทม. กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบและเร่งแก้ไขสถานการณ์น้ำท่วมตลอดแนวการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง โดยเฉพาะบริเวณถนนสามเสนและซอยสามเสน 18 ว่า จากการตรวจสอบพบว่า แนวท่อระบายน้ำที่เบี่ยงชั่วคราวระหว่างการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง (ช่วงเตาปูน – ราษฎร์บูรณะ) มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1 เมตร ซึ่งมีขนาดเท่ากับท่อระบายน้ำเดิมก่อนที่จะเบี่ยงแนว แต่ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพียง 1 เครื่อง ขนาด 3 นิ้ว ทำให้ไม่สามารถรองรับปริมาณน้ำฝนที่ตกหนักได้ อีกทั้งยังพบเศษวัสดุและดินตะกอนจากการก่อสร้างอุดตันในบ่อพักและท่อระบายน้ำ สนน. จึงได้ประสานการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และผู้รับจ้างติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาด 4 นิ้วเพิ่มอีก 2 เครื่อง เพื่อช่วยเร่งระบายน้ำ พร้อมกำชับให้มีเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังการทำงานของเครื่องสูบตลอดช่วงฝนตก

ขณะเดียวกัน สนน. ได้เตรียมความพร้อมรับมือฝนตกหนัก โดยติดตามและประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรายงานสภาวะอากาศแก่ผู้บังคับบัญชา ควบคุมระดับน้ำตามแผน ตรวจสอบจุดก่อสร้างที่อาจกระทบการระบายน้ำ จัดเตรียมเครื่องมือ วัสดุอุปกรณ์ ระบบไฟฟ้าสถานีสูบน้ำ และตรวจสอบสิ่งก่อสร้าง ให้มั่นคงแข็งแรง รวมถึงประสานให้สำนักงานเขตจัดหน่วยเคลื่อนที่เร็ว (BEST) และเจ้าหน้าที่เทศกิจลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนจัดรถรับ-ส่ง อำนวยความสะดวกด้านการจราจร และแก้ไขปัญหารถเสียในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ อีกทั้ง ได้ตรวจสอบประสิทธิภาพการทำงานของท่อระบายน้ำ ทางระบายน้ำ และระบบระบายน้ำในพื้นที่ต่าง ๆ โดยเฉพาะบริเวณถนนสายหลักที่มีโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าและโครงการขนาดใหญ่ โดยกำชับ รฟม. และผู้รับจ้างโครงการฯ ให้ล้างทำความสะอาดท่อระบายน้ำในพื้นที่ก่อสร้าง และรายงานผลการดำเนินงานต่อ สนน. ทุกเดือน รวมทั้งตรวจสอบการเบี่ยงแนวท่อระบายน้ำ (By Pass) ให้น้ำสามารถไหลได้สะดวก หากพบปัญหาจะประสานแจ้งโครงการฯ ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติมในจุดก่อสร้าง เพื่อเร่งระบายน้ำเข้าระบบระบายน้ำของ กทม. ต่อไป

สำหรับกรณีมีข้อสังเกตเกี่ยวกับค่าล่วงเวลาเจ้าหน้าที่ กทม. ที่ลงพื้นที่แก้ไขปัญหาน้ำท่วมในช่วงฤดูฝน สนน. ได้จัดสรรงบประมาณจ่ายค่าล่วงเวลาแก่เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานนอกเวลา ปัจจุบันแบ่งเป็น 2 ช่วง คือ เวลา 16.00 – 20.00 น. และ เวลา 20.00 – 24.00 น. รวมทั้งอยู่ระหว่างการพิจารณาค่าล่วงเวลาเพิ่มเติมให้แก่เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานหลัง เวลา 24.00 น. เพื่อความเป็นธรรมและสร้างขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงานช่วงฤดูฝนต่อไป

นายเทียนชัย วงศ์สุวรรณ ผู้อำนวยการเขตดุสิต กทม. กล่าวว่า สำนักงานเขตฯ ได้ตรวจสอบเครื่องสูบน้ำที่ติดตั้งบริเวณซอยสามเสน 18 (ข้างกรมชลประทาน) พบว่า เครื่องสูบน้ำมีขยะเข้าไปอุดตัน และเครื่องสูบน้ำที่มีขนาดเล็กเพียง 3 นิ้ว ทำให้ไม่สามารถระบายน้ำได้เต็มประสิทธิภาพ จึงได้ประสาน รฟม. ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มอีก 1 เครื่อง ขนาด 4 นิ้ว เพื่อเร่งระบายน้ำ พร้อมจัดทำตะแกรงกันขยะรอบหัวสูบน้ำป้องกันการอุดตัน

สำหรับการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ฝนตกหนัก สำนักงานเขตฯ มีเครื่องสูบน้ำที่อยู่ในความรับผิดชอบทั้งหมด 13 เครื่อง ขนาด 3 นิ้ว 6 นิ้ว 8 นิ้ว และ 10 นิ้ว (ประจำจุด 7 เครื่อง สำรอง 6 เครื่อง) กระสอบทราย 2,500 ลูก กระสอบเปล่า 40,000 ใบ และไม้สำหรับทำสะพานให้กับชุมชนนอกแนวเขื่อนขนาดต่าง ๆ 600 แผ่น โดยเมื่อเรดาร์ฝนใกล้เข้าสู่พื้นที่ จะแจ้งเตือนผู้ประสานงานโครงการ รฟม. ในพื้นที่และเจ้าหน้าที่หน่วย BEST เปิดเครื่องสูบน้ำทุกจุด ออกตรวจพื้นที่ หากพบปัญหาจะเร่งประสานหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ตรวจสอบตะแกรงรับน้ำป้องกันขยะอุดตัน อำนวยความสะดวกด้านการจราจรและจัดรถรับ-ส่งประชาชน รวมถึงประชาสัมพันธ์คอยแจ้งข้อมูลและเส้นทางเลี่ยงให้ประชาชนทราบ ทั้งนี้ สำนักงานเขตฯ ได้ลอกท่อระบายน้ำครบ 103 ซอย ความยาวกว่า 14,398 เมตร และขุดลอกคูคลอง 16 คลอง ความยาวรวม 10,433 เมตร ก่อนเข้าสู่ฤดูฝน พร้อมทั้งได้รับความร่วมมือจากชุมชนและหน่วยงานในพื้นที่จัดกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาคูคลองอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีอย่างยั่งยืน

ส่วนกรณีที่ระบุเจ้าหน้าที่ กทม. บางส่วนไม่มีค่าล่วงเวลานั้น สำนักงานเขตฯ ขอชี้แจงว่า หน่วย BEST ได้จัดเวรยามเฝ้าระวังเหตุฉุกเฉินในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง โดยแบ่งเป็น 2 ช่วงเวลา ได้แก่ เวลา 16.00 - 24.00 น. และเวลา 24.00–08.00 น. ส่วนช่วงเวลา 08.00–16.00 น. เป็นช่วงเวลาปฏิบัติงานปกติ โดยหมุนเวียนเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานอย่างเหมาะสม เพื่อไม่ให้เกิดความเหนื่อยล้าและเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ปฏิบัติงานนอกเวลาราชการได้รับค่าล่วงเวลาตามแผนปฏิบัติงาน