Think In Truth
เศรษฐกิจลาว: วิกฤตศรัทธาในค่าเงินกีบ ของลาว โดย: ฟอนต์ สีดำ

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ได้ตกอยู่ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่สั่นคลอนอย่างต่อเนื่อง แม้รัฐบาลจะรายงานอย่างเป็นทางการว่าเศรษฐกิจกำลังส่งสัญญาณฟื้นตัว อาทิ อัตราเงินเฟ้อที่ลดลงและเงินทุนสำรองระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้น แต่ความจริงที่ประชาชนสัมผัสได้กลับเป็นคนละภาพกับตัวเลขที่ถูกรายงานออกมา โดยเฉพาะเมื่อค่าครองชีพสูงขึ้นต่อเนื่อง อันเนื่องมาจากค่าเงินกีบที่อ่อนค่าลงอย่างหนักเมื่อเปรียบเทียบกับเงินบาทและเงินสกุลหลักอื่น ๆ
ความแตกต่างระหว่าง "ภาพสวยงามบนรายงาน" กับ "ความจริงอันหนักหน่วงในชีวิตประจำวัน" ทำให้สังคมลาวกำลังเผชิญวิกฤตความเชื่อมั่นครั้งใหญ่ต่อทั้งรัฐบาลและระบบเศรษฐกิจโดยรวม บทความนี้จะพาผู้อ่านสำรวจความจริงที่ดำเนินอยู่ในลาว ผ่านประเด็นสำคัญที่สะท้อนความซับซ้อนของสถานการณ์ ตั้งแต่ปัญหาเชิงโครงสร้างหนี้ต่างประเทศ ไปจนถึงเสียงเรียกร้องให้หันมาใช้สกุลเงินบาทแทนเงินกีบ
เศรษฐกิจบนหน้ากระดาษ: รายงานการฟื้นตัวที่ไม่ถึงมือประชาชน
รัฐบาลลาวรายงานว่าประเทศกำลังอยู่บนเส้นทางของการฟื้นตัว โดยมีปัจจัยบวกหลายด้าน ทั้งการชะลอตัวลงของอัตราเงินเฟ้อที่เคยพุ่งสูงในช่วงวิกฤตโควิด-19 และการเพิ่มขึ้นของทุนสำรองระหว่างประเทศซึ่งถูกนำเสนอว่าเป็นหลักประกันความมั่นคงทางการเงินของชาติ
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเหล่านี้กลับไม่สอดคล้องกับสิ่งที่ประชาชนเผชิญอยู่ทุกวัน เมื่อค่าเงินกีบยังคงอ่อนค่าลงเรื่อย ๆ ขณะที่ราคาสินค้านำเข้าจากไทย — ประเทศคู่ค้าหลักของลาว — ทยอยปรับสูงขึ้น จนทำให้ครัวเรือนส่วนใหญ่ต้องเผชิญภาระค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้นอย่างกดดัน
กล่าวได้ว่าตัวเลขทางเศรษฐกิจที่นำเสนอต่อสาธารณะ ทำหน้าที่เป็น "ม่านบังตา" มากกว่าจะเป็นภาพสะท้อนความเป็นจริงของสังคม
ความแตกต่างระหว่างรายงานกับความจริง
ประชาชนจำนวนมากแสดงความไม่เชื่อมั่นต่อข้อมูลของรัฐบาล โดยชี้ว่าตัวเลขการฟื้นตัวไม่สามารถอธิบายชีวิตที่ยากลำบากขึ้นได้ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือการที่ราคาสินค้าพื้นฐาน เช่น ข้าวสาร น้ำมัน และสินค้านำเข้าจากไทย ปรับตัวสูงขึ้นเกือบทุกชนิด ผลจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ไม่เอื้ออำนวย
กรณีนี้สะท้อนให้เห็นความแตกต่างอย่างรุนแรงระหว่าง "เศรษฐกิจเชิงสถิติ" กับ "เศรษฐกิจของประชาชน" เพราะแม้อัตราเงินเฟ้อในเชิงรายงานอาจลดลง แต่ในความจริงแล้วอัตราการเพิ่มขึ้นของค่าครองชีพยังสูงกว่ารายได้ที่เพิ่มขึ้นของครัวเรือนจำนวนมาก
วิกฤตความเชื่อมั่น: เมื่อประชาชนหมดศรัทธาต่อรัฐบาล
ท่ามกลางปัญหาที่ลากยาว ความเชื่อมั่นของประชาชนต่อรัฐบาลลาวกำลังถูกสั่นคลอนอย่างหนัก หลายฝ่ายแสดงความไม่พอใจต่อการบริหารที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาค่าเงินและภาระค่าครองชีพได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สิ่งที่น่ากังวลยิ่งกว่านั้น คือการที่ประชาชนบางส่วนเริ่มเรียกร้องให้หันมาใช้เงินบาทแทนการพึ่งพาเงินกีบ การเรียกร้องเช่นนี้มิได้เกิดจากความสะดวกสบายในเชิงธุรกรรมเพียงอย่างเดียว แต่ยังสะท้อนถึง "การหมดศรัทธาต่อสกุลเงินของตนเอง" ซึ่งหากขยายวงกว้างออกไป อาจก่อให้เกิดวิกฤตการเงินที่ร้ายแรงขึ้นกว่าเดิม
สาเหตุเชิงโครงสร้าง: หนี้ต่างประเทศและการขาดดุลการค้า
เศรษฐกิจลาวมีโครงสร้างที่เปราะบางอยู่แล้ว โดยเฉพาะการพึ่งพาหนี้ต่างประเทศจำนวนมหาศาลเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน อาทิ เขื่อนพลังงานไฟฟ้าและโครงการคมนาคมขนาดใหญ่ การแบกรับภาระหนี้เหล่านี้ทำให้รัฐบาลขาดความยืดหยุ่นในการบริหารจัดการนโยบายการเงิน
นอกจากนี้ ลาวยังเผชิญการขาดดุลการค้าอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากการนำเข้าสินค้ามีมูลค่าสูงกว่าการส่งออกอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อสมการทางการค้าไม่สมดุล เงินกีบย่อมถูกกดดันให้อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง และยิ่งซ้ำเติมด้วยความเชื่อมั่นของตลาดที่ลดลง ผลลัพธ์คือความเสี่ยงเชิงระบบที่ยากจะเยียวยาในระยะสั้น
ผลกระทบเชิงสังคม: ความสิ้นหวังและความเสี่ยงต่อเสถียรภาพ
สิ่งที่น่ากังวลที่สุดมิใช่เพียงตัวเลขทางเศรษฐกิจ แต่คือความรู้สึกสิ้นหวังที่กำลังหยั่งรากในสังคมลาว ครอบครัวจำนวนมากถูกบีบให้ลดระดับการบริโภค บางส่วนต้องพึ่งพาหนี้นอกระบบ หรือแม้แต่พิจารณาการอพยพไปหางานในประเทศเพื่อนบ้านอย่างไทย
ความไม่พอใจที่มีต่อรัฐบาล หากสะสมมากขึ้น อาจกลายเป็นปัจจัยที่กระทบต่อเสถียรภาพทางการเมืองในอนาคต เพราะเมื่อประชาชนหมดความเชื่อมั่นในระบบเศรษฐกิจ ก็อาจลามไปสู่การตั้งคำถามต่อความชอบธรรมของผู้นำประเทศ
ทางรอดที่แท้จริง: การปฏิรูปเชิงโครงสร้าง
แม้รายงานอย่างเป็นทางการจะพยายามสร้างภาพความฟื้นตัว แต่ผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากเห็นตรงกันว่า หากไม่มีการปฏิรูปเชิงโครงสร้างอย่างโปร่งใสและจริงจัง ลาวจะยากต่อการพลิกฟื้นค่าเงินกีบและสร้างความเชื่อมั่นใหม่ในระยะยาว
การปฏิรูปที่จำเป็น ได้แก่
- การจัดการหนี้ต่างประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อไม่ให้ภาระดอกเบี้ยกลายเป็นเครื่องพันธนาการเศรษฐกิจ
- การส่งเสริมการผลิตและการส่งออก เพื่อลดการพึ่งพาการนำเข้าและสร้างสมดุลทางการค้า
- การยกระดับความโปร่งใสของนโยบายการคลังและการเงิน เพื่อฟื้นความเชื่อมั่นของทั้งประชาชนและนักลงทุนต่างชาติ
- การเปิดพื้นที่ให้ภาคประชาชนมีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางเศรษฐกิจ เพื่อให้การพัฒนาไม่กลายเป็นเพียงวาทกรรมในเอกสารของรัฐ
บทสรุปส่งท้าย
เศรษฐกิจลาวในวันนี้สะท้อนบทเรียนสำคัญของประเทศขนาดเล็กที่ต้องเผชิญแรงกดดันจากทั้งภายนอกและภายใน ความต่างระหว่างตัวเลขบนรายงานกับความจริงของชีวิตประชาชนกำลังกลายเป็นรอยร้าวที่สั่นคลอนเสถียรภาพในระดับลึก
หากรัฐบาลยังคงเลือกที่จะนำเสนอภาพเศรษฐกิจที่สวยงามโดยไม่ลงมือปฏิรูปอย่างแท้จริง ค่าเงินกีบก็อาจไม่มีโอกาสฟื้นตัว และประชาชนลาวก็จะยังคงเผชิญความยากลำบากต่อไป
สิ่งที่ลาวต้องการไม่ใช่เพียงการจัดการกับอัตราเงินเฟ้อหรือการประกาศตัวเลขทุนสำรอง แต่คือการสร้างเศรษฐกิจที่มีความโปร่งใส ยั่งยืน และสามารถตอบโจทย์ประชาชนได้จริง
แหล่งอ้างอิง
- World Bank. Lao PDR Economic Monitor (2024).
- Asian Development Bank (ADB). Lao PDR and the Challenges of Debt and Inflation (2023).
- Vientiane Times. Public Concern Over Kip Depreciation (2024).
- Radio Free Asia (RFA). Lao citizens call for use of Thai baht amid kip depreciation (2024).
- IMF Country Report: Lao People’s Democratic Republic (2023).