'ขุขันธ์'จัดแถลงงานรำลึกพระยาไกรภักดี ประเพณีแซนโฎนตาบูชาหลักเมือปี2568

วันที่ 13 กันยายน 2568 - 16:45 น.

ศรีสะเกษ-อำเภอขุขันธ์ จัดแถลงข่าวจัดงานรำลึกพระยาไกรภักดี ประเพณีแซนโฎนตา บูชาหลักเมือง ลือเลื่องกล้วยแสนหวี ประจำปี 2568

เมื่อเวลา 15.40 น. วันที่ 12 กันยายน 2568 ที่ลานอนุสาวรีย์กรมพระยาไกรภักดีศรีนครลำดวน (ตากะจะ) อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ นายพงษ์ธร จันทร์สวัสดิ์ นายอำเภอขุขันธ์ เป็นประธานในการแถลงข่าวการจัดงาน “รำลึกพระยาไกรภักดี ประเพณีแซนโฎนตา บูชาหลักเมือง ลือเลื่องกล้วยแสนหวี” ประจำปี 2568 พร้อมด้วย นางณัฐนันท์ จันทร์สวัสดิ์ นายกกิ่งกาชาดอำเภอขุขันธ์ นางสมจันทร์ บัวเขียว นายกเทศมนตรีตำบลเมืองขุขันธ์ และ นายรัฐวิทย์ อังคสกุลเกียรติ ประธานหอการค้าจังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 17–19 กันยายน 2568 ณ ลานอนุสาวรีย์พระยาไกรภักดีศรีนครลำดวน (ตากะจะ) และสนามหน้าที่ว่าการอำเภอขุขันธ์

นายพงษ์ธร จันทร์สวัสดิ์ นายอำเภอขุขันธ์ กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้เกิดจากความร่วมมือของทุกภาคส่วน ทั้งเทศบาลเมืองขุขันธ์ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาครัฐและเอกชน เพื่อร่วมกันรักษาประเพณีอันดีงาม ถ่ายทอดสู่ชนรุ่นใหม่ โดยในวันเปิดงานจะมีการแสดงโขนจากนักเรียนโรงเรียนอนุบาลศรีประชานุกูล ซึ่งเป็นโขนแห่งเดียวของจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วยขบวนแห่เครื่องเซ่น ช้าง ม้า ทหารโบราณ และการแสดงคีตะมวยไทยที่น่าตื่นตาตื่นใจ ความลับแห่งจารีตประเพณีสืบทอดยาวนาน สำหรับกำหนดการกิจกรรมสำคัญ มีดังนี้ วันที่ 17 กันยายน 2568 (วันเปิดงาน) พิธีเปิดงานอย่างยิ่งใหญ่ที่ลานอนุสาวรีย์กรมพระยาไกรภักดีฯ ขบวนแห่เครื่องเซ่นตระการตา พร้อมช้าง ม้า และทหารโบราณ, การแสดงโขนจากนักเรียนโรงเรียนอนุบาลศรีประชานุกูล, การแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน และการแสดงคีตะมวยไทย วันที่ 18 กันยายน 2568 การประกวดพานบายศรี ขบวนฟ้อนรำ และการแสดงศิลปะการแสดงจากชุมชน, การประกวดผ้าไหม และนิทรรศการวิถีชีวิตท้องถิ่น, กิจกรรมสาธิตการทำอาหารพื้นบ้านและผลิตภัณฑ์ชุมชน และวันที่ 19 กันยายน 2568 (วันปิดงาน) พิธีบูชาหลักเมืองตามขนบโบราณ การประกวดกล้วยเมืองขุขันธ์ “กล้วยแสนหวี”, การแสดงดนตรี ศิลปะวัฒนธรรม และมหรสพสมโภช, พิธีปิดงาน พร้อมการจุดพลุเฉลิมฉลอง

นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดงและจำหน่ายสินค้า OTOP ของดีอำเภอขุขันธ์ตลอดงาน โดยผู้จัดงานเชื่อมั่นว่าจะเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว สร้างรายได้ให้กับชุมชน และเป็นการสืบสานวัฒนธรรมประเพณีอันทรงคุณค่าให้คงอยู่คู่เมืองขุขันธ์สืบไป

ลักขณา กงแก้ว ผู้สื่อข่าว จ.ศรีสะเกษ // รายงาน