Think In Truth

'อลงกรณ์'เปิดวิสัยทัศน์'ถอยไปข้างหน้า' ฟื้นฟูประชาธิปัตย์ถอดบทเรียนสตาร์บัคส์



นายอลงกรณ์ พลบุตรรองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ อดีตรัฐมนตรี รองหัวหน้าพรรคและส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ หนึ่งในผู้มีบทบาทสำคัญในการผลักดันการปฏิรูปพรรคประชาธิปัตย์และปฏิรูปประเทศนับแต่ปี2556เป็นต้นมาได้เขียนบทความในเฟสบุ้ควันนี้เรื่อง“ประชาธิปัตย์ & สตาร์บัคส์ : 
“ถอยไปข้างหน้า”(Onward)สู่ก้าวใหม่ที่ท้าทาย”ในห้วงเวลาที่พรรคประชาธิปัตย์กำลังถดถอยและต้องเลือกหัวหน้าพรรคและคณะกรรมการบริหารใหม่ภายใน60วัน นับเป็นบทความที่น่าสนใจในสถานการณ์ขณะนี้

“ประชาธิปัตย์ & สตาร์บัคส์ : “ถอยไปข้างหน้า”(Onward)สู่ก้าวใหม่ที่ท้าทาย”

โดย นายอลงกรณ์ พลบุตรประธานสถาบันเอฟเคไอไอ.รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์อดีตรัฐมนตรี-ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์อดีตรองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ

บทนำ: วิกฤตคือโอกาสในการสร้างรากฐานใหม่

ประชาธิปัตย์ พรรคการเมืองเก่าแก่ที่สุดของไทย กำลังเผชิญกับจุดหักเหสำคัญ ( Turning Point) เมื่อเกิดการเปลี่ยน2เรื่องในเวลาใกล้เคียงกันคือการกลับมาเป็นฝ่ายค้านและการลาออกของหัวหน้าพรรคซึ่งถือเป็นสถานการณ์ที่ท้าทาย แต่ก็เปิดโอกาสให้พรรคทบทวนอดีตและวางอนาคตที่ตอบโจทย์ความท้าทายในวันข้างหน้าทั้งวิสัยทัศน์ อุดมการณ์ ภาวะผู้นำ แนวทางของพรรค การพัฒนาองค์กรและบุคลากรพรรค

บทความเชิงเปรียบเทียบระหว่างประชาธิปัตย์และสตาร์บัคส์โดยมองผ่านแนวคิดในหนังสือ "ถอยไปข้างหน้า" (Onward: How Starbucks Fought for Its Life without Losing Its Soul) โดย โฮวาร์ด ชูลท์ส (Howard Schultz) ผู้ก่อตั้งสตาร์บัคส์ หนึ่งในหนังสือที่ผมชื่นชอบและพบว่าทั้งสององค์กรมีสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกันในการเผชิญวิกฤตและพยายามกลับสู่พื้นฐานเดิม โดยเน้นการรักษาจิตวิญญาณหลักและก้าวไปข้างหน้าอย่างยั่งยืน

หนังสือเล่มนี้บันทึก เรื่องราวการพลิกฟื้นกิจการสตาร์บัคส์ ระหว่างวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจและการดำเนินธุรกิจ ที่ผู้เขียนเรียกว่า "การถอยไปข้างหน้า" (Onward) เพื่อกลับไปหาตัวตนที่แท้จริงของแบรนด์สตาร์บัคส์

วิกฤตสตาร์บัคส์: บทเรียนแห่งการฟื้นฟู

สตาร์บัคส์เติบโตขยายตัวอย่างรวดเร็วแต่สูญเสีย "จิตวิญญาณ" และคุณค่าดั้งเดิม ยิ่งเมื่อประสบกับคู่แข่งใหม่ๆ ทำให้ลูกค้าตีจากยอดขายและราคาหุ้นลดลงอย่างมาก จากสาเหตุหลักคือการให้ประสบการณ์และรสชาติกาแฟที่ลดลง รวมถึงการเบี่ยงเบนไปจากแนวทางหลัก
คือร้านกาแฟซึ่งเคยเป็น "สถานที่ที่สาม" (Third Place) นอกเหนือจากบ้านและที่ทำงานก็เสียเอกลักษณ์ไปเช่นกัน
   
โฮวาร์ด ชูลท์ส ต้องต่อสู้กับคณะผู้บริหารและผู้ถือหุ้นในการขอโอกาสกลับมากอบกู้สตาร์บัคส์ที่กำลังถดถอยท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงโดยสามารถกลับมาดำรงตำแหน่งซีอีโออีกครั้งในปี 2008 ได้นำกลยุทธ์สำคัญๆ มาปรับใช้เพื่อกอบกู้กิจการ

1. การหยุดและทบทวน: ชูลท์สตัดสินใจ ปิดร้านสตาร์บัคส์ทุกสาขาในสหรัฐอเมริกาชั่วคราว เพื่อฝึกอบรม
บาริสต้าในเรื่องการชงเอสเปรสโซให้สมบูรณ์แบบ นี่คือสัญลักษณ์ของ "การถอยเพื่อก้าวไปข้างหน้า" ที่โดดเด่นที่สุด 
2. การกลับสู่พื้นฐาน: เน้นย้ำ คุณภาพของกาแฟ, ประสบการณ์ในร้าน และการบริการ แทนการขยายสาขาอย่างเดียว 
3. การปรับเปลี่ยนโลโก้: เอาคำว่า "coffee" ออกจากโลโก้ เพื่อสื่อถึงความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ beyond กาแฟ พร้อมกับรักษาเอกลักษณ์ไว้ 
4. การเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน: ส่งเสริมให้แต่ละสาขามี ความเชื่อมโยงกับชุมชนท้องถิ่น ผ่านโครงการต่างๆ และการ有จริยธรรมในการซื้อกาแฟ 
5. การพัฒนาพนักงาน (พาร์ตเนอร์): คัดเลือกและพัฒนาพนักงานให้มี "เลือดสีเขียว" (Green Blood) ซึ่งหมายถึงการมีคุณสมบัติ 5 ประการ: เป็นมิตร (Welcoming), มีส่วนร่วม (Involve), มีความรู้ (Knowledge), เป็นตัวของตัวเอง (Genuine) และเอาใจใส่(Considerate) 
6.  Starbucks Shared Planet: มุ่งเน้น ความยั่งยืนทางสังคมและสิ่งแวดล้อม ผ่านสามเสาหลัก ได้แก่ การสนับสนุนเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟอย่างมีจริยธรรม, การดูแลสิ่งแวดล้อม และการบริการชุมชน 

ภายใน สองปี สตาร์บัคส์สามารถ พลิกฟื้นสถานการณ์ และกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง หนังสือเล่มนี้ไม่เพียงบอกเล่าประวัติศาสตร์และความลับเบื้องหลังการตัดสินใจของผู้บริหารเท่านั้น แต่ยังเป็น แรงบันดาลใจ ในการก้าวผ่านวิกฤตด้วยการกลับไปหาคุณค่าหลัก  ชูลท์สเน้นย้ำว่า "กาแฟทุกแก้วคือการให้บริการที่ยิ่งใหญ่ และสร้างบริษัทด้วยจิตวิญญาณ" 

การฟื้นฟูสตาร์บัคส์ให้บทเรียนดังนี้
1.การยอมถอยกลับเพื่อทบทวนคือความเข้มแข็ง ไม่ใช่ความอ่อนแอ
2.การรักษาจิตวิญญาณดั้งเดิมขณะปรับปรุงกลยุทธ์คือกุญแจความสำเร็จ (Key success)
3.วิกฤตคือโอกาสในการปฏิรูปตัวเอง

 "ถอยไปข้างหน้า"สู่การปฏิรูปประชาธิปัตย์ (Democrat Reformation)
    
พรรคประชาธิปัตย์กำลังเผชิญความท้าทายคล้ายคลึงกับสตาร์บัคส์ในการค้นหาทางออกจากวิกฤต(Exit strategy)
โดยเฉพาะปัญหา
1.ความไม่เป็นเอกภาพทั้งแนวคิดแนวทางและกลุ่มบุคคล(Factions)ภายในพรรค
2.จุดยืนทางการเมืองที่สับสนภายใต้บริบทการเมืองที่สลับขั้วและซับซ้อน
3.ความคาดหวังของประชาชนที่เปลี่ยนแปลงไป

ดังนั้นการเป็นฝ่ายค้านจึงเปิดโอกาสในการพิสูจน์การทำงานแนวใหม่ภายใต้ภาวะผู้นำใหม่(new leadership)ในการตรวจสอบถ่วงดุลรัฐบาลและเป็นพรรคการเมืองที่ประชาชนฝากความหวังได้ซึ่งเป็นโอกาสในการฟื้นฟูความน่าเชื่อถือและภาพลักษณ์ครั้งใหม่เช่น
1. การกลับสู่ค่านิยมและอุดมการณ์พื้นฐาน(Democrat DNA)คือการเมืองสุจริตยึดมั่นอุดมการณ์ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขในระบบรัฐสภาอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขและอัตลักษณ์การเป็นพรรคการเมืองที่มีหลักการเพื่อฟื้นฟูและสร้างเสริมต่อยอดความเชื่อมั่นศรัทธา
2.การปฏิรูปพรรคโดยพัฒนานโยบายที่ทันสมัยก้าวหน้าตอบโจทย์ปัญหาและความท้าทายของประชาชนและประเทศชาติทั้งปัจจุบันและอนาคตโดยใช้เทคโนโลยีดิจิตอล-ปัญญาประดิษฐ์เอไอ.(AI:Artificial intelligence)และการสื่อสารสมัยใหม่
ตลอดจนขยายฐานสมาชิกใหม่โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชน คนรุ่นใหม่และสมาชิกดั้งเดิม
3.การอัพเกรดองค์กรพรรคทั้งส่วนกลางและภูมิภาคเป็นองค์กรทันสมัยก้าวหน้า(progressive organization)พร้อมกับพัฒนา (reskill&upskill)ทีมทำงานพรรคและแกนนำทุกระดับอย่างต่อเนื่อง
4.ฯลฯ.

สรุป: จุดหักเหไม่ใช่จุดจบแต่ถอยเพื่อก้าวไปข้างหน้า

การกลับมาเป็นฝ่ายค้านและการเปลี่ยนผู้นำของพรรคประชาธิปัตย์ไม่ใช่จุดจบ แต่คือจุดหักเห(Turning Point)ที่สำคัญ 
   พรรคประชาธิปัตย์สามารถแปรวิกฤตเป็นโอกาสในการกำหนดทิศทางและอัตลักษณ์ของพรรคด้วยแนวคิด "การถอยไปข้างหน้า"ในการฟื้นฟูพรรคเพื่อก้าวเดินต่อไปอย่างมีคุณค่าและความหมาย
เช่นเดียวกับสตาร์บัคส์ที่กลับมาทบทวนรากฐานก่อนก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง
  แนวคิด "ถอยไปข้างหน้า"(Onward) ยังคงเป็นแรงบันดาลใจและบทเรียนที่มีคุณค่าสำหรับการปฏิรูปและการพัฒนาองค์กรในทุกวงการเมื่อเผชิญกับวิกฤตและความท้าทายใหม่ๆเช่นกรณีพรรคประชาธิปัตย์.

ประวัติผู้เขียน
นายอลงกรณ์ พลบุตร
ประธานสถาบันเอฟเคไอไอ
ประธานมูลนิธิWorldview Clmate Foundation
ผู้ก่อตั้งและประธานกิตติศักดิ์มูลนิธิสถาบันพลังงานทางเลือกแห่งประเทศไทย
รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ พรรคประชาธิปัตย์
อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์และทำหน้าที่รมต.เศรษฐกิจอาเซียน ปี 2551-2554
อดีตรองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ปี 2558-2560
อดีตส.ส.เพชรบุรีและส.ส.บัญชีรายชื่อ6สมัย 
อดีตประธานกิตติมศักดิ์ที่ประชุมการตั้งถิ่นฐานมนุษย์ของสหประชาชาติ (UN-GFHS) ปี2660-2561
อดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรและสหกรณ์ 2562-2566
อดีตประธานที่ปรึกษาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 2567-2568