In Thailand
กงสุลจีนเปิดมิติใหม่หนุนแก้ความยากจน ในจชต.และชวนผู้นำมุสลิมดูงานที่จีน
สงขลา-วันนี้ 20 ก.ย.68 ที่ร้านอาหาร หลานตาชู อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายวัง จื้อเจียน กงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำจังหวัดสงขลา ได้มีการพบปะกับ ตัวแทนสื่อมวลชนใน จ.สงขลา เพื่อพบปะสนทนา แลกเปลี่ยนความคิดเห็น หลังเดินทางมารับตำแหน่ง กงสุลใหญ่ฯ ประจำ ภาคใต้ ที่ จ.สงขลา โดยมีนายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล วุฒิสมาชิกวุฒิสภา จ.สงขลา กลุ่ม 18 สาย สื่อมวลชน และผู้สร้างวรรณกรรม เป็นผู้นำการพบปะสนทนาในครั้งนี้
ซึ่ง นาย วัง จื้อเจียน ได้กล่าวถึง ภารกิจของการทำหน้าที่ กงสุลใหญ่ ของสาธารณรัฐประชาชนจีน ในภาคใต้ว่า ได้ให้ความสนใจในปัญหาความยากจนของประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับทางการไทยในการแก้ปัญหาความยากจน ซึ่งประเทศจีนที่เคยประสพปัญหาดังกล่าว สามารถแก้ปัญหาความยากจนของคน 800 ล้านคนในประเทศจีนสำเร็จมาแล้ว จากการลงพื้นที่ หลายจังหวัดของภาคใต้ พบว่า ประชาชนไทยมีต้นทุน คือที่ดินทำกิน มีความอุดมสมบูรณ์ ของธรรมชาติ แต่ ขาดในเรื่อง การใช้เทคโนโลยี และขาดการบริหารจัดการ ในเรื่องของความรู้ และการตลาด ทำให้ไม่ประสพความสำเร็จในการแก้ปัญหาความยากจน ซึ่งในเรื่องนี้ ทาง สำนักงานกงสุล มีแผนที่จะนำตัวแทนกลุ่มอาชีพจากประเทศไทย และหน่วยงานราชการ เช่น สำนักพัฒนาเศรษฐกิจที่ 5 จ.สงขลาและอื่นๆ ไปดูงานที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเศรษฐกิจและด้านอื่นๆ ในประเทศจีน เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจในเทคโนโลยีและองค์ความรู้ที่ทันสมัยมาใช้ในการ พัฒนาอาชีพเพื่อแก้ปัญหาความยากจน
รวมทั้ง จะมีการนำตัวแทนของชาวมุสลิม ในพื้นที่ของ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไปศึกษาดูงาน เพื่อให้เห็นข้อเท็จจริง ในมิติของ ชาวมุสลิม ใน ประเทศจีน ที่ได้รับการ พัฒนาอาชีพ มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความเป็นอยู่ไม่ได้เป็นอย่างที่ สื่อ ตะวันตก รายงานข่าว ที่จีนถือว่าเป็น เฟคนิวส์ และสร้างความเข้าใจผิดให้เกิดขึ้น ซึ่งจากการลงไปพบปะผู้นำที่เป็น มุสลิม หรือผู้ที่นับถือศาสนาอิสลาม ใน จ.ยะลา ที่เป็นพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พบว่าผู้นำมุสลิมในพื้นที่ ซึ่งเคยเดินทางไปยังประเทศจีน มีความเข้าใจเรื่องต่างๆของประเทศจีนที่ดีขึ้น การนำ ตัวแทนของชาวมุสลิม จาก จังหวัดชายแดนภาคใต้ๆปศึกษาดูงาน ที่ประเทศจีน จะเป็นการเปิดโลกทัศน์ ให้เห็นข้อเท็จจริงมากยิ่งขึ้น
นาย วัง จื้อเจียน กล่าวต่อไปว่า ช่องทางการค้าขาย ระหว่างไทย-จีน ยังเปิดกว้าง และมีมูลค่าที่เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ทุเรียน ที่ยังเป็นผลไม้ที่นำเข้าสำคัญจากประเทศไทย และจีนอำนวยความสะดวกให้ ส่งออก ไปยังประเทศจีนมีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น รวมทั้งผลผลิตทางการเกษตรอย่าง มะพร้าวน้ำหอม และผลไม้อื่นๆ รวมทั้งการร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนในภาคใต้ ในการส่งเสริมความสัมพันธ์ไทย-จีน ในทุกด้าน ซึ่งถือเป็นภารกิจในฐานะที่ กงสุลใหญ่ฯ เป็นตัวแทนของ รัฐบาลจีนในภาคใต้ หลังจากมารับตำแหน่ง ได้ลงพื้นที่ในจังหวัดต่างๆของภาคใต้ไปแล้วหลายจังหวัดเหลือเพียง 4-5 จังหวัดที่ยังไม่ได้ไป ซึ่งจะเดินทางลงพื้นที่ให้ครบทั้งหมดภายในปีนี้ เพื่อที่จะได้เห็น จุดอ่อน จุดแข็ง ในการร่วมมือกันของทั้งสองฝ่าย ในการพัฒนาร่วมกัน เพื่อประโยชน์ของทั้งสองประเทศ เพราะ ไทย-จีน ได้เป็นเป็นเพียงพันธมิตร แต่เราเป็นมากกว่านั้น นั้นคือเป็น เครือญาติ ที่มีความมั่นคงมากกว่าการเป็นพันธมิตร
ปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา